svasdssvasds

Hope Frozen : A Quest to Live Twice เมื่อความตาย ทำให้เกิดความหวัง

Hope Frozen : A Quest to Live Twice เมื่อความตาย ทำให้เกิดความหวัง

Hope Frozen : A Quest to Live Twice สารคดีเรื่องใหม่ของไทยบน Netflix ที่เล่าถึงครอบครัวนักวิทยาศาตร์ ที่พยายามจะใช้วิทยาการทางวิทยาศาสตร์ ความเชื่อ ความหวัง ในการคืนชีพของลูกสาว แม้ความหวังนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้

ถ้าลูกๆ ของคุณเป็นมะเร็งที่ไม่มีทางรักษาให้หายได้ คุณจะทำอย่างไร ? 

นี่เป็นคำถามที่ฟังแล้วดูหมดหวังกับทุกสิ่ง มะเร็งคือโรคที่ไม่มีใครอยากเจอ ไม่มีใครอยากเป็น ไม่มีใครอยากให้มะเร็งพลัดพรากไปจากคนที่เรารัก แต่มีอยู่ครอบครัวหนึ่ง พยายามยื้อชีวิตลูกสาวในวัย 2 ขวบ ซึ่งเป็นมะเร็งในสมองที่ไม่มีโรงพยาบาลไหน หรือ สถาบันมะเร็งที่ใดในโลกนี้ จะสามารถรักษาได้ แต่เพราะพวกเขานั้น ยังเชื่อในความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ เชื่อในความหวัง ว่าสักวัน ลูกเขาจะหายดี และกลับมาสู่อ้อมกอดของครอบครัว

และนี่คือที่มาของ สารคดีชั้นเยี่ยมบน Netflix ที่ชื่อว่า Hope Frozen : A Quest to Live Twice

 

สารคดีพูดถึงครอบครัว "เนาวรัตน์พงษ์ " ที่กำลังจะสูญเสียลูกคนที่ 2 ของครอบครัว นั่นคือ “น้องไอนส์” ด.ญ.เมทรินทร์ เนาวรัตน์พงษ์  เด็กหญิงวัย 2 ขวบ ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งที่ร้ายแรงที่สุดในโลก เคยผ่าตัด ทำคีโม และฉายแสง หลายครั้งหลายครา แต่ก็ไม่สามารถรักษาน้องไอนส์ ให้หายจากโรคมะเร็งได้ นับว่าเป็นความสูญเสียและสงสัยให้กับครอบครัวนี้ว่า ทำไมโรคร้ายนี้ถึงเกิดขึ้นกับลูกสาวของเขา ถ้าว่ากันตามภาษาแพทย์ ก็ต้องบอกว่า น้องไอนส์ นั้น ได้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งสมองไปแล้ว

Hope Frozen : A Quest to Live Twice เมื่อความตาย ทำให้เกิดความหวัง

แต่ “ดร.สหธรณ์ เนาวรัตน์พงษ์” พ่อของน้องไอนส์ นอกจากจะเป็นหัวหน้าครอบครัว คุณพ่อของน้องไอนส์ยังเป็นนักวิทยาศาสตร์อีกด้วย รวมทั้งลูกชายอย่างน้อง เมทริกซ์ ลูกชายคนโตที่มีความสนใจในวิทยาศาสตร์ ร่วมกันหาทางออกให้กับครอบครัว เพราะปัจจุบันวิทยาการทางการแพทย์ยังไม่สามารถช่วยให้น้องไอนส์หายจากมะเร็งได้ ทำให้เขาต้องหาวิธีที่ช่วยยื้อชีวิตลูกสาวไว้ ไม่ว่ามันจะเสี่ยงแค่ไหน อันตรายแค่ไหน ถูกวิพากย์วิจารณ์อย่างไร พวกเขายอมทำ 

Hope Frozen : A Quest to Live Twice เมื่อความตาย ทำให้เกิดความหวัง

โดยทางคุณพ่อ จึงได้ส่งร่างอันไร้จิตและวิญญาณของน้องไอนส์ ไปยังมูลนิธิ lcor Life Extension Foundation ในรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา เพื่อนำร่างกายของน้องไอนส์ ไปแช่แข็งไว้  หรือเรียกกันว่า วิธี “ไครโอนิกส์” (Cryonics)  เป็นการนำร่าง หรือ ส่วนใดส่วนหนึ่งของผู้ป่วย มาแช่แข็งไว้ในอุณหภูมิ - 196 องศา เพื่อรักษาเซลล์ในร่างกาย เผื่อว่าในอนาคต ถ้าวิทยาการทางการแพทย์ก้าวหน้าขึ้นเมื่อใด ผู้ป่วยเหล่านั้นอาจจะได้รับการรักษาและฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้ 

ซึ่งทางครอบครัว "เนาวรัตน์พงษ์ " เลือกใช้วิธีนี้ เพื่อหวังว่าสักวัน ไอนส์จะกลับมา และตั้งความหวังไว้กับ น้องเมทริกซ์ ที่กำลังศึกษาต่อทางด้านวิทยาศาสตร์ เผื่อที่จะกลับมาช่วยน้อง ให้ฟื้นจากความตายได้ในที่สุด 

Hope Frozen : A Quest to Live Twice เมื่อความตาย ทำให้เกิดความหวัง

จริงๆ ต้องบอกกันก่อนว่า หนังสารคดีเรื่องนี้เคยฉายครั้งแรกในไทย เมื่อปี 2562 ในเทศกาลภาพยนตร์อาเซียนแห่งกรุงเทพมหานคร 2562 และในปีนี้ Netflix ตัดสินใจนำสารคดีเรื่องนี้ฉาย มีการตัดต่อเพิ่มเนื้อหานิดหน่อย ซึ่งผู้เขียนค่อนข้างชอบทั้งแบบฉายโรงและใน Netflix ด้วยความที่สารคดีเรื่องนี้ สามารถถ่ายทอดออกมาได้ดี เข้าใจง่าย และทำให้คนดูตั้งคำถามกับตนเองว่า คุณเชื่อแบบไหน ถ้าคุณเชื่อในวิทยาศาสตร์ คุณก็อาจจะเห็นด้วยกับครอบครัวนี้ แต่ถ้าคุณเห็นไปในทางพุทธศาสนา ปรัชญาชีวิต คุณก็อาจจะมองว่า ครอบครัวนี้ไม่เข้าใจในธรรมชาติว่า มนุษย์เรานั้น มีเกิด แก่ เจ็บ ตาย ล้วนเป็นเรื่องธรรมดา ทำให้มีการวิพากย์วิจารณ์ครอบครัวนี้ไปพอสมควร ดังในคลิปนี้ 

โดยส่วนตัวแล้ว หลังจากได้ชมภาพยนตร์สารคดีและการให้สัมภาษณ์ของ ดร.สหธรณ์ เนาวรัตน์พงษ์ พ่อของน้องไอนส์ ก็รู้สึกเห็นอกเห็นใจ ของผู้เป็นพ่อ แม่ ที่พึ่งสูญเสียลูกสาววัย 2 ขวบ โดยที่พึ่งลืมตาดูโลกมาได้แค่ 2 ปี ยังไม่ได้เข้าโรงเรียน ยังไม่ได้เป็นที่พึ่งให้กับพ่อแม่ มันทำให้ครอบครัวใจสลาย เหมือนที่คนๆ หนึ่งเคยกล่าวเอาไว้ว่า "พ่อแม่ตายก่อนลูก เป็นเรื่องธรรมดา แต่การที่ลูก ตายก่อนพ่อแม่ มันผิดธรรมชาติ" (โดยในปัจจุบัน ร่างของน้องไอนส์ ก็ยังแช่แข็งอยู่ที่มูลนิธิ lcor Life Extension Foundation อยู่ )

Hope Frozen : A Quest to Live Twice เมื่อความตาย ทำให้เกิดความหวัง

แต่การที่เข้านำร่างของลูกไปแช่แข็ง มันก็อาจจะดูฝืนธรรมชาติไปเหมือนกัน แต่ทว่าถ้าในอนาคต เมื่อวิทยาการทางการแพทย์พัฒนาไปมากขึ้น และช่วยให้น้องไอนส์กลับมาลืมตาดูโลกได้ ความผิดธรรมชาติกลับพาคนที่รักฟื้นคืนชีพอีกครั้งในที่สุด ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเห็นด้วยกับการกระทำของครอบครัวนี้หรือไม่ แต่เมื่อเรารักใครสักคน คุณมีแต่ความรักและความห่วงใยยังไม่พอ คุณต้องมีความหวังด้วย 

Hope Frozen : A Quest to Live Twice เมื่อความตาย ทำให้เกิดความหวัง

สารคดีเรื่องนี้ ถือเป็นสารคดีที่ดูง่าย และอินง่ายพอสมควร ค่อนข้างประทับใจที่ผู้กำกับสารคดีสามารถตามถ่ายทำ และเก็บเรื่องราวที่น่าสนใจได้ตลอด ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลานานพอสมควร กว่าสารคดีเรื่องนี้จะเสร็จ โดยที่สารคดีเรื่องนี้ คว้ารางวัลใหญ่สาย International จากเทศกาล Hot Docs ประเทศแคนาดา กำกับและถ่ายทำโดย  ไพลิน วีเด็ล (ถ้าใครจำได้ เธอเคยเป็นพิธีกร “ทีนทอล์ค” ก่อนที่จะออกไปเรียนทำสารคดีที่ต่างประเทศ)  ทั้งหมดนี้การันตีได้ว่า สารคดีเรื่องนี้นอกจากจะตีแผ่เรื่องราวของครอบครัวน้องไอนส์แล้ว ยังสอนให้เรารู้จักรักชีวิต รักคนในครอบครัว ให้มากขึ้น เพราะไม่รู้ว่าคนที่คุณรัก จะอยู่กับเราไปอีกนานแค่ไหน ใช้ทุกวินาทีให้คุ้มค่า ให้เหมือนกับครอบครัว เนาวรัตน์พงษ์ ที่พร้อมรอวันที่น้องไอนส์ กลับมาหาพวกเขาสมบูรณ์แบบ แม้มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ก็ตาม