ผู้บัญชาการตำรวจเห่งชาติ เค้นสอบเเก๊ง เคนมผม ยัน ผู้ต้องหาให้การเป็นประโยชน์ เชื่อสาวถึงผู้ค้ารายใหญ่ได้ เตือน ยาเสพติดทุกชนิดมีโทษถึงตายอย่างเข้าไปยุ่งเกี่ยว ด้าน ผบช.น.เผยยาเสพติดชนิดใดเข้าถึงง่ายจะเป็นทร่นิยมกลุ่มนักเสพ
ความคืบหน้ากรณีการเสียชีวิตของกลุ่มวัยรุ่นย่านพระราม 3 ที่เสพยา "เคนมผง"จนเกิดอาการช็อคเสียชีวิต รวม7ราย แล้ว และยังรักษาตัวที่รพ.3ราย โดยพบผู้เสียชีวิตพื้นที่สน.วัดพระยาไกร5ราย สน.สุทธิสาร 1ราย และรายล่าสุด มีผู้เสียชีวิตจากการเสพเคนมผง เสียชีวิตเพิ่มอีก 1ราย
ในเขต สน.บางโพงพาง
พล.ต.อ.สุวัฒน์ เเจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจเเห่งชาติ
พล.ต.ท.ภัครพงษ์ พงศ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล
เดินทางมาที่สน.วัดพระยาไกร
โดยตำรวจชุดสืบสวนคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง2 ราย ให้ผบ.ตร.เค้นสอบ ด้วยตัวเอง คือ นาย วิรัฐ หรือ ป๋อง กาเผือก
อายุ 26 ปี, นายวัชระ หรือ โบ้ เชียงฉิน อายุ 22 ปี ผู้ค้ารายย่อย นายป๋องคือ เจ้าของบ้าน ที่มีผู้เสียชีวิต ส่วนผู้ต้องหาอีก2ราย ยังไม่มีการเปิดเผยตัว คือ นายนพเก้า หรือ ตูมตาม อบถม อายุ 26 ปี (ผู้ค้ารายกลาง และประสานรายใหญ่)
นายชาตรี หรือโจ ศรีสมบัติ อายุ 18 ปี ( ผู้ค้ารายกลาง) 2คนนี้ นายตูมตามเป็นตัวการผู้ขายยาเสพติดรายใหญ่ที่ขายเคนมผงย่านพระราม3 และฝั่งธนเพื่อนำมาจำหน่ายให้กับวัยรุ่นฝั่งธน โดยนายโจ รับต่อมาขายให้กลับวัยรุ่นให้กับกลุ่มที่เสียชีวิต
ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกเเจ้งข้อกล่างหา ร่วมกันมียาเสพติดให้ โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน , เฮโรอีน และ 3-4-
เมทิลลีนไดออกซี่เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย
และจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อขายและขายโดยผิดกฎหมาย
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยหลังการสอบปากคำ นายโบ้ และ นายป๋อง ระบุว่า ผู้ต้องหาให้การเป็นประโยชน์ รายละเอียดต้องใช้เวลา
อยู่ระหว่างขยายผลถึงเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ที่มีระดับสูงกว่า และหากพบว่ามีใครเขามาเกี่ยวข้องอีกจะออกหมายจับเพิ่ม
ในเบื้องต้นพบสารเคตามีนทุกศพที่เสียชีวิต ทั้งกรุงเทพมหานครมีผู้เสียชีวิต7ราย
มั่นใจว่าจะออกหมายจับเพิ่มเติมได้ พร้อมฝากเตือนว่ายาเสพติดทุกชนิดมีอันตรายถึงชีวิต จึงไม่ควรเอาตัวไปยุ่งเกี่ยว
ส่วนปัญหาเรื่องการล่วงละเมืดทางเพศ ยังไม่พบปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทางเเพทย์ในการพิสูจน์
ด้านพล.ต.ท.ภัครพงษ์ พงศ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงการค้ายาเสพติดในกรุงเทพมหานคร ระบุว่า ยาเสพติดชนิดไหนที่หาได้ง่ายก็จะได้รับความนิยม ความนิยมก็จะมาจากฤทธิ์ชองยาเสพติด เคตามีน เป็นสารที่ใช้ทางการเเพทย์ น้ำมาทำเป็นผงเพื่อความสะดวกในการขนย้าย เเละปัจจุบันสารตั้งต้นราคาถูกลง เช่น ยาไอซ์ จากจีละ2000พันปัจจุบันเหลือ600-700 ยาบ้า เหลือเม็ดละ25-50บาท เมทแอมเหตามีนน้อยลง จึงมีการนำตัวยามาผสมกัน
การผสมมีทั้งทำให้ราคาถูกลง หรือบางตัวทำให้ราคาสูงขึ้น สำหรับในช่วงสถสนการปัจจุบัน สถานบันเทิงปิด จึงทำให้มีการลักลอบเสพตามบ้าน อย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยืนยันว่าไม่หนักใจในการปราบปราม