svasdssvasds

"สรยุทธ" เปิดใจหลังได้อิสรภาพ ขอเวลาปรับตัวก่อนกลับมาทำหน้าที่สื่อ

"สรยุทธ" เปิดใจหลังได้อิสรภาพ ขอเวลาปรับตัวก่อนกลับมาทำหน้าที่สื่อ

"สรยุทธ สุทัศนะจินดา" อดีตนักข่าวเบอร์ 1 ของประเทศไทย เปิดใจครั้งเเรกหลังได้รับอิสรภาพ ขอเวลาคิด-ปรับตัวก่อนจะกลับมาทำหน้าที่สื่อ ยืนยันยังอยู่กับช่อง 3 ต่อ ด้านกรมคุมประพฤติ ยืนยัน "สรยุทธ" ไม่ได้รับสิทธิพิเศษ ยังต้องเข้ารายงานตัวทุก 1 เดือน

นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตพิธีกรรายการข่าวชื่อดัง อายุ 55 ปี เปิดใจครั้งเเรก ระบุว่า รู้สึกดีใจที่ทุกคนไม่ลืมกัน การอยู่ในเรือนจำถือว่าเป็นการจบคดีความ และ ดีใจที่ได้มีวันนี้ เพราะจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง การอยู่ในเรือนจำ 1 ปีกว่า รู้สึกเคว้งคว้าง มีความทุกข์ทางจิตใจ แต่ทุกข์ทางร่างกายก็สามารถปรับตัวได้ แต่หลังจากจัดรายการให้ข้อมูลข่าวสารในเรือนจำก็ทำให้รู้สึกดีขึ้น เพราะถือเป็นการใช้ชีวิตในเรือนจำที่คุ้มค่า ไม่ใช้ชีวิตที่เปล่าประโยชน์ สิ่งเเรกที่ตั้งใจทำหลังจากนี้จะเดินทางไปไหว้รูปแม่ที่บ้าน

ส่วนจะกลับสู่หน้าจอเมื่อไหร่นั้น ขอกลับไปคิด และ ปรับตัวก่อนว่าจะกลับมาเมื่อไหร่ เพราะไม่ได้ทำงานมา 5 ปี อีกทั้งโลกปัจจุบัน ข้อมูลข่าวสาร ก็เปลี่ยนไป มีสื่อมากมายจะทำอย่างไรให้คนกับมาติดตามข่าว แต่ยืนยันยังอยู่กับช่อง 3 ต่อ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

• "สรยุทธ" ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำ แต่ยังต้องใส่กำไลอิเล็กทรอนิกส์

• ไบรท์ พิชญทัฬห์ เผยวินาทีที่รอคอย สรยุทธ ได้ถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำ

นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา บอกด้วยว่า สำหรับโครงการพักโทษนั้น ส่วนตัวมองเป็น 2 แบบ คือ หากเป็นผู้ต้องหาในคดีอุกฉกรรจ์ ขอทุกคนอย่าทำ เพราะถ้าเข้าเรือนจำไปแล้วจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต เพราะจะไม่ได้รับการอภัยโทษเลย ส่วนอีกแบบ คือ ทุกคนมีโอกาสทำผิดพลาด และต้องเข้ามาอยู่ในเรือนจำ แต่เมื่อต้องออกจากเรือนจำขอทุกคนอย่าอคติ และให้โอกาส ให้กลับสู่สังคม เพราะถ้าให้โอกาสเชื่อว่าจะเป็นพลังของสังคม แต่หากไม่ให้โอกาสจะทำให้เป็นภาระของสังคม ซึ่งโครงการนี้ถือเป็นการให้โอกาสอีกครั้ง แต่เมื่อออกมาแล้วก็ต้องพิสูจน์ตัวเองด้วย

ในช่วงท้ายการแถลงข่าว นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ได้โชว์รองเท้าที่เป็นการแกะลายด้วยมือ เป็นลายสโมสรลิเวอร์พูล จากเพื่อนนักโทษในเรือนจำ อื่นๆ ที่ส่งให้ จึงขอนำกลับออกมาเป็นที่ระลึกด้วย

สรยุทธ

ด้าน ธนกฤษ จิตอารีรัตน์ เลขานุการรัฐมตรีว่าการกระทรวงยุติ กล่าวย้ำว่า การติดกำไลอีเอ็ม เป็นการติดฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ถ้าใครเรียกรับเงินให้แจ้งความดำเนินคดีได้ทันที

ส่วนการพักโทษนั้นเป็นเรื่องที่ทุกคนได้รับโอกาส แต่จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของการพิจารณา ซึ่ง นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ถือเป็นบุคคลที่ทำคุณประโยชน์ให้กับราชทัณฑ์ จึงเข้าเกณฑ์ของการพักโทษ แต่ยังต้องได้รับการคุมประพฤติและติดกำไลอีเอ็มจนกว่าจะครบกำหนดโทษ พร้อมยืนยันว่า นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ในขณะที่อยู่เรือนจำ ได้ปฏิบัติตัวเหมือนนักโทษทั่วไป ไม่ได้เป็นบุคคลวีไอพีแต่อย่างใด ส่วนเงื่อนไขการพักโทษนั้น ให้ทำงานในอาชีพสื่อมวลชนได้ตามปกติ กำหนดให้อยู่ภายในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล หากต้องการออกนอกพื้นที่ต้องทำเรื่องอนุญาตต่อกรมควบคุมประพฤติล่วงหน้า 3 วัน

นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมควบคุมประพฤติ กล่าวเพิ่มเติม โดยย้ำว่าขณะที่อยู่ในเรือนจำ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ถูกปฏิบัติเหมือนนักโทษคนอื่นๆ ไม่ได้รับสิทธิพิเศษใดๆ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา จะต้องรายงานตัวต่อกรมควบคุมประพฤติทุกเดือน ซึ่งกำไลอีเอ็ม เป็นเครื่องมือที่ช่วยติดตามตัว โดยเงื่อนไขการพักโทษต้องไม่ให้เข้าใกล้เรือนจำ ไม่ให้ขึ้นเครื่องบิน หากมีความจำเป็นต้องขออนุญาต ไม่ประกอบอาชีพ หรือทำธุรกิจ หรือ ธุรกรรมกับบุคคลที่มีคดีความ ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ไม่ให้เป็นพิธีกรหรือโฆษกในงานที่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง แต่ยังสามารถให้ข้อมูลข่าวสารภายใต้จรรยาบรรณของวิชาชีพได้ตามปกติ

สำหรับ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ถือเป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นเยี่ยม ได้รับพระราชทานอภัยโทษ โดยการลดโทษมาแล้ว 2 ครั้ง เมื่อช่วงเดือน ส.ค. 63 และครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 63 กำหนดโทษหลังสุด 3 ปี 6 เดือน 20 วัน แต่จำคุกมาแล้ว 1 ปี 2 เดือน 6 วัน คงเหลือโทษจำคุก 2 ปี 4 เดือน 14 วัน จากโทษเดิม 6 ปี 24 เดือน

นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา จึงถือเป็นนักโทษที่รับโทษจำคุกมาแล้วระยะหนึ่ง และจะมีคุณสมบัติครบตามหลักเกณฑ์การพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ ซึ่งสามารถไปประกอบอาชีพสุจริตได้ตามกฎหมาย

นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ก็จะสามารถกลับมาทำงานเป็นพิธีกรในรายการข่าวได้ทันที ตั้งแต่วันที่ได้รับการพักการลงโทษ

นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา และพวกถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีบริษัทไร่ส้ม แก้ไขค่าโฆษณา ของ อสมท เสียหายกว่า 138 ล้านบาท เมื่อปี 2558 ซึ่งนายสรยุทธสู้คดีถึง 3 ศาล โดยศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 29 ก.พ. 2559 ให้จำคุก 6 กระทง กระทงละ 3 ปี 4 เดือน รวมจำคุกคนละ 20 ปี แต่ลดโทษให้เหลือจำคุก 13 ปี 4 เดือน ไม่รอลงอาญา ถัดมาปีกว่า ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2560 และศาลฎีกา มีคำพิพากษาแก้เป็นว่าให้จำคุกนายสรยุทธ กระทงละ 2 ปี 6 กระทง รวมจำคุก 12 ปี และลดโทษให้เหลือจำคุก 6 ปี 24 เดือน

สรยุทธ

related