svasdssvasds

“สุทิน” เปิดใจ ผิดหวังภูมิใจไทย เล่นละครวอล์คเอาท์ คว่ำแก้รัฐธรรมนูญ

“สุทิน” เปิดใจ ผิดหวังภูมิใจไทย เล่นละครวอล์คเอาท์ คว่ำแก้รัฐธรรมนูญ

“สุทิน” จี้ นายกฯ รับผิดชอบพรรคร่วมรัฐบาล ล้มนโยบายตัวเอง แก้รัฐธรรมนูญ เผย ผิดหวังภูมิใจไทย เล่นละครวอร์คเอาท์

ผิดหวัง ภูมิใจไทย เล่นละครวอร์คเอาท์

วันนี้ นายสุทิน คลังแสง ส.ส. มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการคว่ำโหวตวาระ 3 แก้รัฐธรรมนูญ เมื่อวานนี้ว่า เป็นการเล่นเกมการเมืองของหลายฝาย และชี้ให้เห็นแล้วว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ใครของจริงของปลอม

โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทยที่ส่วนตัวรู้สึกสับสน เพราะคาดไม่ถึงว่า จะใช้วิธีการวอร์คเอาท์ เพราะฝ่ายค้านยังคาดหวังเสียงจากพรรคภูมิใจไทย ที่ประกาศมาตลอดว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ และคาดว่าจะสามารถพลิกเกมให้ผ่านความเห็นชอบไปได้ แต่เมื่อพรรคภูมิใจไทยใช้วิธีการนี้ ก็ยอมรับว่าผิดหวัง

สุทิน คลังแสง

สุทินเผย รู้ล่วงหน้า แผนคว่ำแก้รัฐธรรมนูญ

นายสุทิน ยังยอมรับว่า ฝ่ายค้านไม่ปฏิเสธที่รู้อยู่แล้วว่า เดินหน้าลงมติวาระ 3 จะเกิดการคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 ซึ่งสิ่งที่ฝ่ายค้านจับตาเมื่อวานนี้คือลุ้นว่าฝ่ายรัฐบาลจะคว่ำในขั้นตอนใด เพราะมี 2 สเต็ป

คือ คว่ำก่อนลงมติวาระ 3 เพื่อไม่ให้มีการโหวตเลย กับคว่ำตอนโหวตวาระ 3  ซึ่งทราบมาว่าการตั้งเป้าจะคว่ำก่อนลงมติอยู่แล้ว โดยอ้างคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แต่ฝ่ายค้านเห็นว่าเป็นเรื่องที่ผิดหลักการ

จนในที่สุดฝ่ายรัฐบาลเปลี่ยนแผน ใช้วิธีการล้มร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยการโหวตวาระ 3 ตามญัตติของฝ่ายค้าน จนทำให้คนสงสัยว่าเหตุใดฝ่ายค้านจึงรับรองญัตติให้นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และยืนยันว่า ในประเด็นนี้ฝ่ายค้านยืนอยู่จุดนี้มาโดยตลอด เพื่อเดินหน้าลงมติวาระ 3

แต่สุดท้ายฝ่ายรัฐบาล โดยนายไพบูลย์ ใช้วิธีการนี้ในการเดินเกม อย่างไรก็ตามเราจะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไปอีกแน่นอน แต่จะแก้อย่างไรก็ ต้องมาทบทวนบทเรียนกันก่อน

สุทิน คลังแสง

จี้ นายกฯ รับผิดชอบพรรคร่วมรัฐบาล ล้มนโยบายตัวเอง แก้รัฐธรรมนูญ

นายสุทิน ยังถามถึงความรับผิดชอบไปยังพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก่อนที่รัฐบาลจะทำประชามติ หลังจากนี้ รัฐบาลควรตอบสังคมให้ได้ว่านโยบายเร่งด่วนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร และจะรับผิดชอบอย่างไรในสิ่งที่เกิดขึ้น

เพราะเรื่องนี้เป็นเงื่อนไขสำคัญในการร่วมรัฐบาล และมีการแถลงนโยบายนี้ต่อรัฐสภาไว้ชัดเจน แต่พรรคร่วมรัฐบาลกลับมาล้มกันเอง ดังนั้นนายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบ แล้วค่อยเดินหน้าทำประชามติ ซึ่งหลังจากนี้จะเป็นเรื่องของรัฐบาลแล้ว เพราะการทำประชามติตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญต้องเริ่มจากรัฐบาล

related