svasdssvasds

ตร.เตือนประชาชนอย่าเชื่อและแชร์ข่าวปลอม โดยเฉพาะฉีดวัคซีนเสียชีวิต

ตร.เตือนประชาชนอย่าเชื่อและแชร์ข่าวปลอม โดยเฉพาะฉีดวัคซีนเสียชีวิต

ตำรวจวอนประชาชน อย่าเชื่อและแชร์ข่าวปลอม โดยเฉพาะฉีดวัคซีนเสียชีวิต เตือนคนไม่หวังดี เจตนาบิดเบือนปลอมข้อมูลข่าวสาร ผิดตาม พ.ร.บ.คอมฯ โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

13 พ.ค.64 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผบก.ปอท.ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติห่วงใยพี่น้องประชาชนรับทราบข้อมูลข่าวสาร โดยเฉพาะจากสื่อสังคมออนไลน์ ขณะนี้มีการเผยแพร่และส่งต่อข้อมูล โดยเฉพาะเป็นข่าวสร้างความสับสนลักษณะข่าวปลอม มักจะหยิบยกประเด็นที่เป็นสิ่งที่น่าสนใจของสังคม เป็นประเด็นร้อนหรือที่เรียกว่าHot Issue 

“ช่วงเวลานี้ที่เป็นประเด็นร้อนของสังคมเราก็คือโรคไวรัสโควิด-19 จึงมีการเผยแพร่ส่งต่อข้อมูลข่าวสารที่ทั้งจริงทั้งเท็จเข้าไปตามสื่อสังคมออนไลน์อย่างมากมาย โดยเฉพาะประเด็นเรื่องของการฉีดวัคซีน มีการโจมตีเรื่องการฉีดวัคซีนแล้วเกิดมีอาการแพ้บ้าง ฉีดแล้วมีผลกระทบต่อร่างกาย จนถึงขั้นเสียชีวิตก็มี”

ทั้งนี้ ล่าสุดที่ตรวจสอบยืนยันแล้วว่าเป็นข่าวปลอมก็คือ กรณีการส่งต่อข้อความแจ้งกับในไลน์กลุ่มต่างๆ ในเวลานี้ ว่า วันที่ 7 พ.ค. 64 ผกก.ตชด.21 เสียชีวิตแล้ว เนื่องมาจากฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 หลังจากฉีดแค่ 5 นาที ก็ล้มทั้งยืน นำตัวส่ง รพ.เสียชีวิตในเวลาต่อมา”
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติยืนยันว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติอยากให้พี่น้องประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างมีสติ โดยเฉพาะข้อมูลที่มีการส่งต่อกันในสื่อสังคมออนไลน์ในลักษณะไม่มีที่มาที่ไป หรือไม่มีแหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือได้ก่อนที่จะเชื่อและส่งต่อข้อมูลให้กับผู้อื่น ขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจาก หน่วยงานราชการ โดยเฉพาะ ศบค.-ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ กระทรวงสาธารณสุข หรือรับฟังข้อมูลจากแพทย์ที่ได้รับมอบหมายโดยตรงในการให้ข้อมูล

สำหรับบุคคลที่มีการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือข่าวปลอมเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ทำให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนก เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14 (2) ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับสำหรับผู้ที่ส่งต่อข้อมูล หรือที่เรียกว่า แชร์ โดยรู้อยู่แล้วว่าข้อมูลนั้นเป็นเท็จก็จะมีความผิดไปด้วย ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (5) อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

“อยากเตือนผู้ไม่หวังดีมีเจตนาบิดเบือนปลอมข้อมูลข่าวสารอย่าได้ทำการเผยแพร่เด็ดขาด เพราะขณะนี้พี่น้องประชาชนก็ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 อย่างมากอยู่แล้ว อย่ามาซ้ำเติมประเทศด้วยการสร้างความสับสน ตื่นตระหนกให้กับสังคมเป็นสิ่งไม่ดีซึ่งสุดท้ายก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป”

related