กรมวิทยาศาสตร์ฯ ย้ำ โควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้ (เบต้า) ยังควบคุมได้

วันนี้ (21 มิ.ย.64) ที่กรมวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ ระบุว่า ขณะนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขได้เฝ้าระวังสายพันธุ์โควิดอยู่ตลอด โดยส่วนใหญ่ในประเทศไทยยังคงเป็นสายพันธุ์อังกฤษ (อัลฟ่า) แต่กระทรวงสาธารณสุขได้เฝ้าระวังสายพันธุ์ อินเดีย (เดลต้า) ที่มีการตรวจพบในแคมป์คนงานมากขึ้น 

ส่วนในภาคใต้พบเชื้อโควิด-19 เป็นสายแอฟฟริกาใต้ (เบต้า) ส่วนจำนวนการตรวจหาเชื้อสายพันธุ์ เดลต้า ขอให้กรมวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ ขอเวลาตรวจสอบความชัดเจน

สิ่งที่ทางกรมวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์กังวล เกี่ยวกับสายพันธุ์เบต้า พบว่ามีการระบาดไปในหลายจังหวัด และมีผลต่อประสิทธิภาพของวัคซีน แต่ก็มีการแพร่ระบาดที่ต่ำกว่าสายพันธุ์อื่น ซึ่งถ้าหากพบพื้นที่ไหน แพร่ระบาดโควิด-19 เช่น สายพันธุ์เบต้า จะประสานเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์โดยทันที ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในวงกว้าง ยังต้องมีการเฝ้าระวังการลักลอบเข้าประเทศผิดกฎหมาย เนื่องจากสายพันธุ์เบต้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน

ขณะกรณีโรงงานที่มีการตรวจเชิงรุก ทางกรมวิทย์ฯ ย้ำว่า ให้สอบถามสาธารณสุขจังหวัดอีกครั้ง หลังจากการตรวจสอบพบว่า มีห้องปฏิบัติการบางแห่งไม่ได้มาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข นพ.ศุภกิจ ย้ำถึง วิธีการตรวจหาเชื่อโควิด-19 ที่ได้มาตรฐานคือ การตรวจแบบ RT-PCR  

ส่วนกรณีที่ประชาชนซื้อแรบบิทเทส มาตรวจหาภูมิคุ้มกัน หลังการฉีดวัคซีน นพ.ศุภกิจ ไม่แนะนำให้ซื้อตรวจเอง เพราะเป็นการตรวจผิดวิธี ที่จะได้ผลที่คลาดเคลื่อน โดยการทดสอบในแรบบิทเทส ไม่สามารถบอกได้ว่าวัคซีนได้กระตุ้นให้ ให้เกิดภูมิคุ้มกันในร่างกายหรือไม่การตรวจภูมิที่ถูกต้องให้แนะนำทำในห้อง lab ที่ได้มาตรฐานสูงเพราะมีขั้นตอนการตรวจโดยการนำเลือดตรวจกับเชื้อเพื่อดูการกระตุ้นภูมิ และไม่จำเป็นต้องตรวจทุกราย เนื่องจากมีค่าตรวจค่อนข้างสูงประมาณ 5-7 พันบาท