ครม.กลั้นใจ ยืดภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% อีก 2 ปี เซ่นพิษโควิด-19 ลดกระทบประชาชน

ช่วงก่อนหน้านี้เห็นข่าวว่ารัฐเล็งจะปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ขึ้นเป็น10 % จากเดิมที่จัดเก็บอยู่ที่ 7% ทำเอาประชาชนตกอกตกใจว่าจะต้องมาเสียเงินซื้อสินค้าในราคาแพงขึ้นหรือไม่ ? เพราะภาษีมูลค่าเพิ่มมักจะมาในรูปแบบที่ทำให้เราเสียไปพร้อมกับการจ่ายเงินซื้อสินค้าแบบไม่รู้ตัว ทั้งนี้เดิมการจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% จะสิ้นสุดลง 30 กันยายน 2564 นี้

ภาษีมูลค่าเพิ่มเกี่ยวข้องโดยตรงกับปากท้องพี่น้องประชาชน

แต่...ด้วยปัจจัยลบเรื่องโควิด-19ที่กำลังระบาดในไทย จนทำคนตกงานจำนวนมาก เศรษฐกิจทรุด จึงทำให้หลายฝ่ายมองว่าหากปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ขึ้นเป็น10 % จะเป็นการกระทบประชาชนอย่างหนัก และเป็นการซ้ำเติมประชาชนในภาวะวิกฤต ที่บางคนแทบไม่มีอันจะกินอยู่แล้ว

ภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นภาษีที่กับราคาสินค้าที่ประชาชนมีผลกระทบ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• เล็งปรับ "ภาษีมูลค่าเพิ่ม" เป็น10 % จัดเก็บเงินเข้ารัฐ แต่...กระทบใครบ้าง ?   

• สิงห์อมควัน มีหนาว พาเปิดโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่ เป็นอย่างไรบ้าง ?

• ปรับโครงสร้างภาษีใหม่ ! แก้เหลื่อมล้ำ ลดประโยชน์คนรวยเอื้อคนชั้นกลาง

สรรพากรกลั้นใจชงต่อภาษีไปอีก 2 ปี

ทั้งนี้จึงทำให้กรมสรรพากร ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้เสนอกระทรวงการคลังนำคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้พิจารณาเห็นชอบขยายเวลามาตรการลดภาษีมูลค่าเพิ่ม จาก 10% เหลือ 7% เหมือนเดิมออกไปอีก 1-2 ปี เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้มีการนำเสนอในประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ 24 ส.ค. 2564 ให้กับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งจะนำทีมโดย ‘นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ'  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อย่างไรก็ตามมีการคาดว่าเรื่องนี้ว่าจะไม่กระทบกับการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากรในปีงบประมาณ 2564 - 2565 เนื่องจากการทำงบประมาณในส่วนของการประมาณการเก็บรายได้ มีการประเมินไว้แล้วว่าจะไม่มีการเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับการขึ้นภาษี มูลค่าเพิ่มทุก 1% จะทำให้รัฐบาลเก็บรายได้เพิ่มขึ้น 70,000 ล้านบาท ความคืบหน้าล่าสุดคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบคงอัตราภาษีมูลเพิ่ม (VAT) 7% อีก 2 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2566