svasdssvasds

ย้อนรอยคดีลักพาตัวเด็ก สะเทือนวงการตำรวจสหรัฐ สู่ ภาพยนตร์ดัง

ย้อนรอยคดีลักพาตัวเด็ก สะเทือนวงการตำรวจสหรัฐ สู่ ภาพยนตร์ดัง

จากกรณี "น้องจีน่า" ที่เป็นข่าวโด่งดังและเป็นกระแสอย่างมากในไทย สู่การย้อนรอยคดี "ลักพาตัว" เด็กในสหรัฐ ซึ่งเป็นเคสกรณีที่สั่นสะเทือนวงการตำรวจแอลเอ เป็นอย่างมาก

1). ย้อนเข็มนาฬิกากลับไป ปี 1928 เกิดคดีเด็กหายที่แสนโด่งดัง และสั่นสะเทือนทุกวงการในสหรัฐ เพราะมันเป็นการเปิดเผยความเน่าเฟะของวงการตำรวจแห่งเมืองลอสแองเจลลีสได้อย่างเด่นชัดที่สุด
.
2). 10 มี.ค. 1928 ตำรวจลอสแองเจลิสได้รับโทรศัพท์แจ้งเหตุจาก คริสตีน คอลลินส์ คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว วัย 37 ปี ว่า วอลเตอร์ คอลลินส์ บุตรชายวัย 9 ขวบของเธอ หายตัวไปจากบ้าน
.
3.) กระทั่งเดือน ส.ค 1928 หรือ 5 เดือนนับจากเกิดเหตุ คริสตีน คอลลินส์ได้รับการติดต่อจากทางตำรวจแอลเอว่า พบลูกของเธอแล้ว และกำลังจะนำเด็กชายกลับคืนสู่อ้อมอกเธอ โดย 18 ส.ค คือวันนัดพบ  ช่วงเวลาแห่งความทรมานกำลังจะจบสิ้นลงสำหรับคุณแม่ คริสตีน คอลลินส์ 
.

4) ในวันส่งมอบลูก แค่เสี้ยววินาทีแรก คริสตีน คอลลินส์  ก็รู้ทันทีว่านี่ไม่ใช่ลูกของเธอ เพราะลูกเธอดูเปลี่ยนไปมากในเวลาแค่ 5 เดือน  แต่คริสตีน คอลลินส์ ก็พาเด็กที่แอบอ้างไปที่บ้านเพราะรู้ว่าเด็กคนนี้ก็ไม่มีที่ไป แต่เมื่ออยู่ด้วยกันมากขึ้นเธอยิ่งแน่ใจว่านี่ไม่ใช่ลูกของเธออย่างแน่นอน แต่ตำรวจก็ทำทุกวิถีทางให้เธอยอมรับเด็กคนนี้ไป  

chistine collins คริสตีน คอลลินส์ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

5).  3 สัปดาห์ต่อมา คริสตีน คอลลินส์ ตัดสินใจไปบอกตำรวจแอลเอ แต่ทว่าพวกตำรวจ กลัวเสียชื่อเสียง กลัวเสียหน้าเลย กลับบอกว่าเธอมีอาการทางจิตต่างหาก  ซึ่งเรื่องนี้นำให้ คริสตีน คอลลินส์ ต้องกลายเป็นผู้ป่วยจิตเวช ที่ไม่ยอมรับลูกชายของเธอเอง และนั่นทำให้เธอได้พบกับเพื่อนในโรงพยาบาลที่ถูกส่งมาด้วยวิธีเดียวกัน กล่าวคือ เมื่อทำเรื่องทับเส้นสายกับตำรวจแบบนี้ ทำให้ตำรวจเสียชื่อเสียงแบบนี้แล้วล่ะก็ย่อมได้มาอยู่ที่นี่ ในฐานะผู้ป่วยจิตเวช
.
6)  สิ่งที่ คริสตีน คอลลินส์ เรียกร้องไปนั้น ไม่ใช่เพื่อให้ตำรวจยอมรับผิดในความผิดพลาด แต่เธอกลัวว่า หากตำรวจคิดว่าเด็กคนนี้คือลูกชายของเธอแล้ว ก็จะวางมือ ปิดคดี และไม่ยอมสืบหา วอลเตอร์ คอลลินส์ ลูกชายตัวจริงของเธออีกต่อไป
.
7) ในระหว่าง คริสตีน คอลลินส์ ถูกควบคุมตัวใน ร.พ.จิตเวช ก็เกิดเหตุการณ์สำคัญที่พลิกคดีนี้ได้เลย  กล่าวคือ ตำรวจไปพบเบาะแสว่ามีการลักพาตัว กักขังหน่วงเหนี่ยว กระทำชำเรา และฆาตกรรม ในฟาร์มปศุสัตว์แถบวิเนวิล ริเวอร์ไซด์เคาน์ตี้ ห่างออกไปจากแอลเอ ราวๆ 50 ไมล์ ซึ่งตำรวจจับกุมฆาตกรได้ในเวลาต่อมา คือ กอร์ดอน นอร์ธคอตต์ วัย 22 และ นางซาราห์ นอร์ธคอตต์ ผู้เป็นมารดา  ทั้งคู่ยอมรับตรงกัน ณ เวลานั้น ก็คือ ในจำนวนเหยื่อทั้งหมด มีวอลเตอร์ คอลลินส์ ลูกชายของคริสตีน คอลลินส์  รวมอยู่ด้วย  คำสารภาพของแม่-ลูกนอร์ธคอตต์ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ต่อคดีของคริสตีน คอลลินส์

collins
.

8.) ภายหลัง คริสตีน คอลลินส์ได้รับการปล่อยตัวจากโรงพยาบาลจิตเวช และต่อมาก็เดินหน้าฟ้องกรมตำรวจแอลเอ  และในท้ายที่สุด ผลการต่อสู้ก็จบลงด้วยการที่ ผู้กองเจ. เจ. โจนส์ถูกศาลสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหายแก่คริสตีนเป็นจำนวนเงิน 10,800 ดอลลาร์  และยังถูกลงโทษให้พ้นจากตำแหน่ง เช่นเดียวกับ เจมส์ อี. เดวิส ผู้บัญชาการกรมตำรวจลอสแองเจลิสในขณะนั้น
.
9). แม้ภายหลัง สองแม่ลูกฆาตกร ขอเปลี่ยนคำให้การ  โดยบอกว่าพวกเขาไม่ได้ฆ่าเด็กชายวอลเตอร์ คอลลินส์ อีกทั้งในอีกหลายปีต่อมา ยังมีเด็กชายคนหนึ่งที่อ้างตัวว่าเคยถูกแม่-ลูกนอร์ธคอตต์จับตัวไป แต่หนีรอดออกมาได้ หนำซ้ำยังบอกว่า ได้เห็นวอลเตอร์ คอลลินส์วิ่งหนีออกมาด้วย  นั่นทำให้คริสตีน ยังคงมีความหวังว่า ลูกชายยังไม่ตายเสมอๆ และจะเดินทางกลับคืนสู่อ้อมอกของเธอสักวัน
.
อย่างไรก็ตาม คริสตีน คอลลินส์ไม่เคยสมหวัง เธอเสียชีวิตในวันที่ 8 ธันวาคม 1964 เธอไม่เคยหยุดตามหาลูก ทว่าไม่เคยได้พบเขาอีกเลยทั้งชีวิต
.
10) . เรื่องราวของ คริสตีน คอลลินส์ ครั้งหนึ่ง เคยได้รับการถ่ายทอดผ่านภาพยนตร์เรื่อง Changeling ผลการกำกับของคลินท์ อีสต์วู้ด เมื่อปี 2008 มาแล้วด้วย โดยแอนเจลิน่า โจลี่ รับบทเป็น คริสตีน คอลลินส์ คุณแม่ที่รักลูกและติดตามหาลูกของตัวเองที่ถูกลักพาตัวไป สุดชีวิต 

Changeling  ภาพยนตร์ Changeling ที่เล่าเรื่องราวคุณแม่ คริสตีน คอลลินส์ ที่ลูกชายถูกลักพาตัว

related