svasdssvasds

รมว.คมนาคม สั่งทุกหน่วยในสังกัดเตรียมความพร้อม ต้อนรับเปิดประเทศ 1 พ.ย.นี้

รมว.คมนาคม สั่งทุกหน่วยในสังกัดเตรียมความพร้อม ต้อนรับเปิดประเทศ 1 พ.ย.นี้

 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัด เตรียมความพร้อมด้านคมนาคม ทั้งด้านการบริหารจัดการเดินรถ ด้านพนักงานประจำรถ และด้านรถโดยสารประจำทาง เพื่อรองรับการเปิดประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564

30 ต.ค.64 กรณีในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ประเทศไทยจะมีการเปิดประเทศ เพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และสอดคล้องสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ทำให้หลายๆหน่วยงานมีการเตรียมความพร้อมเพื่อที่จะเตรียมความพร้อมทุกด้านเพื่อการเปิดประเทศ

 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัด เตรียมความพร้อมด้านคมนาคม เพื่อรองรับการเปิดประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564  โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) หรือ ศบค. ครั้งที่ 17/2564  มีมติเห็นชอบ ยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถานในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ  ยกเว้นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จำนวน 7 จังหวัด  นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จึงได้มีการเตรียมความพร้อมทุกด้าน ทั้งด้านการบริหารจัดการเดินรถ ด้านพนักงานประจำรถ และด้านรถโดยสารประจำทาง เพื่อรองรับการเปิดประเทศ  ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564  โดยมีรายละเอียด ดังนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ด้านการบริหารจัดการเดินรถ
1. ในเส้นทางปกติ  จัดรถออกวิ่ง วันละ 2,886 คัน จำนวน 20,000 เที่ยว
2. จัดเดินรถบริการตลอดคืน (รถกะสว่าง) ตามปกติ จำนวน 23 เส้นทาง โดยเริ่มให้บริการ ตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2564   
3. จัดเดินรถเชื่อมต่อท่าอากาศยาน จำนวน 6 เส้นทาง รวม 60 คัน ดังนี้
    -  สาย A 1  ท่าอากาศยานดอนเมือง - สถานีรถไฟฟ้า BTS จตุจักร   วันละ 16 คัน
    -  สาย A 2  ท่าอากาศยานดอนเมือง - อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ วันละ 12 คัน
    -  สาย A 3  ท่าอากาศยานดอนเมือง - สวนลุมพินี   วันละ   8 คัน
    -  สาย A 4  ท่าอากาศยานดอนเมือง - สนามหลวง   วันละ   8 คัน
    -  สาย S 1  ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ - สนามหลวง   วันละ   6 คัน
    -  สาย 555 รังสิต - ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ    วันละ 10 คัน
 

ด้านพนักงานประจำรถ
1. จัดพนักงานประจำรถ (พนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสาร) เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) จำนวน 9,000 คน คิดเป็น 98% ของพนักงานประจำรถทั้งหมด
2. ตรวจวัดแอลกอฮอล์  ความดันโลหิต และอุณหภูมิร่างกายของพนักงานขับรถ และพนักงานเก็บค่าโดยสารทุกครั้ง ก่อนขึ้นปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร  พร้อมทั้งกำชับพนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสาร สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง ขณะปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร และต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดฯ อย่างเคร่งครัด
3. ฝึกทักษะภาษาอังกฤษ ให้กับพนักงานประจำรถทุกคน โดยเน้นพนักงานประจำรถโดยสาร เชื่อมต่อท่าอากาศยาน ได้แก่ สาย A1, A2, A3, A4, S1 และสาย 555 เป็นกรณีพิเศษ

ด้านรถโดยสารประจำทาง 
1. ตรวจเช็คสภาพรถโดยสาร ให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ดี ตามมาตรฐานคุณภาพบริการ ISO 9001 : 2015 และให้พนักงานขับรถ ตรวจสอบความพร้อมของรถโดยสาร  และอุปกรณ์ส่วนควบ ก่อนนำรถออกวิ่งให้บริการ   

2. ใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 70% ฉีดพ่นทำความสะอาดภายใน รถโดยสาร และใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ผู้ใช้บริการต้องสัมผัส เช่น เบาะที่นั่ง ราวจับ กริ่งสัญญาณ เป็นต้น ทั้งก่อนและหลังนำรถออกวิ่งให้บริการ  พร้อมทั้งติดตั้งขวดเจลแอลกอฮอล์ สำหรับให้ผู้ใช้บริการ ล้างมือบริเวณประตูทางขึ้น
3. ติดสติกเกอร์ “BMTA PASS” บริเวณกระจกด้านหน้า และประตูรถตู้โดยสารประจำทางที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 10 ปี ที่อยู่ในการกำกับดูแลของ ขสมก. เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ในการสังเกตรถตู้โดยสารที่มีความปลอดภัย ก่อนตัดสินใจใช้บริการ  
 

related