svasdssvasds

โควิด-19 คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลก ทะลุ 5 ล้าน โลกจะเดินไปทางไหนต่อ ?

โควิด-19 คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลก ทะลุ 5 ล้าน โลกจะเดินไปทางไหนต่อ ?

โรคร้ายโควิด-19 ทำให้ผู้คนทั่วโลก เสียชีวิตเกินทะลุ 5 ล้านคนแล้ว จากการรายงานของสื่อชั้นนำทั่วโลก ขณะที่เหล่าผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกกลับมองว่าตัวเลขที่แท้จริงอาจจะสูงกว่านี้อีกหลายเท่าตัวด้วยซ้ำ ตัวเลขที่แท้จริงอาจจะเป็นเรื่องที่ยากแท้หยั่งถึง

โควิดคร่าชีวิตคน 5 ล้าน 
.
นับตั้งแต่โควิด-19 มีการระบาดครั้งแรกของโลก ในช่วงปลายปี 2019 ที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน  ณ เข็มนาฬิกาเดินอยู่ ณ ปัจจุบัน โลกของเรามีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ไปแล้ว แตะหลัก 5 ล้านคนมาหมาดๆ ในช่วงต้นเดือนพฤษจิกายน 2021 หรือในช่วงเวลาเกือบๆ 2 ปี ที่ โรคร้ายโรคนี้ เป็นมหันตภัยทางสุขภาพ ที่สร้างความปั่นป่วนให้ประชาคม ทั้งสุขภาพ เศรษฐกิจ การเมือง และ สังคม
.
ตัวเลข 5 ล้านคน จากการเสียชีวิตเพราะโควิด-19 เป็นตัวเลข ที่อาจจะต่ำกว่าความเป็นจริง เพราะ องค์การอนามัยโลก หรือ WHO เคยเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ประมาณการตัวเลขผู้เสียชีวิตที่แท้จริงจากโควิด-19  อาจสูงกว่ายอดที่รายงานอย่างเป็นทางการ 2-3 เท่าตัว เนื่องจากยังพบว่ามีการเสียชีวิตส่วนเกินที่เชื่อมโยงกับ "โควิด-19" อีกมาก  ส่วนวารสาร Economist เปิดเผยว่า จากการดูข้อมูล "การเสียชีวิตส่วนเกิน" พบว่า อาจมีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 สูงถึง 17 ล้านคนแล้ว
.
ถึงแม้ว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ยังนับว่าน้อยกว่าการระบาดครั้งก่อน อย่าง "ไข้หวัดใหญ่สเปน" ที่เกิดจากไวรัสอีกชนิด ในช่วงปี 1918-1919 ที่พรากชีวิตผู้คนทั่วโลกในอดีตไประหว่าง 50-100 ล้านคน  หรือแม้แต่โรคเอดส์ HIV ที่กำจัด ชีวิตผู้คนไปมากกว่า 36 ล้านคน ตลอดระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมา
.
ขณะที่ การป้องกันหรือรับมือโควิด-19 ที่ดีที่สุด ณ เวลานี้ คือการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กระจายสู่ประชากรของโลกให้ได้มากที่สุด โดยตามรายงานพบว่า มีประชากรทั่วโลก มากกว่า 7 พันล้านคน ได้รับวัคซีนโควิด-19 แล้ว แต่ มันก็ยังมีช่องว่างระหว่าง ชนชั้น คนรวย - คนจน อยู่ในทุกๆประเทศ กล่าวคือ ผู้ที่มีรายได้สูงก็จะ "เข้าถึง" วัคซีนโควิด-19 ได้มากกว่าผู้มีรายได้น้อยในประเทศ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตองกา ประเทศปลอดโควิด19 พบผู้ป่วยรายแรก

เมอร์ค Merck จะอนุญาตให้ 105 ประเทศ ผลิตยาโมลนูพิราเวียร์ ต้านโควิด-19

สหรัฐฯ อนุญาตวัคซีนรับรองโดย WHO เข้าประเทศได้

การระบาดของโควิด-19 ถึงจุดสูงสุดหรือยัง ? (Have we hit a plateau?) 

ในสำนวนอังกฤษ มีคำว่า Hit the Plateau กล่าวคือ คำคำนี้ หากใช้ในวงการฟิตเนส วงการการออกกำลังกาย จะหมายถึงช่วงเวลา ที่ "การลดน้ำหนักไม่ลง" อีกแล้ว เรียกของอาการ น้ำหนักนิ่ง หรือการที่เมื่อเราออกกำลังกายไปแล้ว คุมอาหารแล้ว น้ำหนักไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงจึงเรียกภาวะนี้ว่า  hit a plateau "ฮิต เดอะ ปลาตู" แต่เมื่อมาใช้กับ แวดวงของโรคระบาดโควิด-19 นั่นหมายถึง การระบาดของโควิด-19 ถึงจุดสูงสุดหรือยัง (หรือ โควิด-19 เดินไปถึงจุดที่ ตกต่ำที่สุด หรือยัง? 
.
ทั้งนี้ ศ. อาร์โนลด์ ฟอนตาเน็ต ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาจากสถาบัน Pasteur Institute ในฝรั่งเศส  อธิบายว่า การระบาดของไวรัส ปกติแล้วจะเกิดขึ้น 2 ระยะ (2 phases) 
1. "ระยะของการระเบิด"  an explosive epidemic phase" เมื่อไวรัสแพร่ะกระจายสู่ประชาชนที่ไม่เคยสัมผัสมันมาก่อน 
2. "ระยะของฝังราก" "settles down" เมื่อเริ่มมีการสร้าง 'ภูมิคุ้มกัน' มากขึ้น และจะนำมาสู่ endemic หรือการสิ้นสุดการระบาด 

แต่สำหรับ การระบาดของโควิด-19 นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ใหญ่ ที่จำเป็นต้องมีการเร่งมือในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในระดับโลก ระหว่าง 2 ระยะตามที่ผู้เชี่ยวชาญระบุ" และจำเป็นต้องเร่งเครื่องการฉีดวัคซีนโดยเร็ว เพื่อให้ประชาชนสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาต่อสู้กับไวรัสโดยเร็ว ซึ่งเราใช้เวลาราว 18 เดือน จากระยะเวลาปกติที่ต้องใช้นานกว่า 3-5 ปี และจะต้องพบผู้เสียชีวิตมากกว่านี้อีกมาก  นั่นคือเหตุผลที่ทำให้เราต้องเร่งเครื่องอย่างหนักในเรื่องการฉีดวัคซีนในขั้นถัดไป 
.
"เราอาจยังอยู่ห่างจากช่วงเวลาแห่งความปลอดภัยอีกนานหลายเดือน ปัญหาคือ...เรายังแข็งแรงเพียงพอหรือไม่?”
.
“เพราะไวรัสจะยังคงวนเวียนอยู่ในอากาศ ดังนั้น เป้าหมายในวันนี้ ไม่ใช่การ 'กำจัดไวรัส' หากแต่เป็นการ 'ปกป้องทุกคน'
“ ศ. อาร์โนลด์ ฟอนตาเน็ต กล่าว

โควิด-19 คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลก ทะลุ 5 ล้าน โลกจะเดินไปทางไหนต่อ ?
.
สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศต่างๆจะเป็นอย่างไร ? 

ศ. อาร์โนลด์ ฟอนตาเน็ต ระบุว่า สำหรับประเทศชั้นนำด้านอุตสาหกรรม เชื่อว่าอีกไม่นาน โควิด-19 จะกลายมาเป็นโรคประจำถิ่น ที่อาจมีความรุนแรงมากกว่าไข้หวัดใหญ่ในช่วงขวบปีแรก ก่อนที่สุดท้าย มันก็จะกลายเป็นโรคที่มีความรุนแรงลดลง เนื่องจากอัตราการฉีดวัคซีนที่เป็นไปอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง เช่นเดียวกับจีนและอินเดีย ที่มีการฉีดวัคซีนเป็นวงกว้าง
.
แต่ในพื้นที่ส่วนอื่นของโลก อาจต้องใช้เวลานานกว่านี้ เมื่อวัคซีนยังไม่ทั่วถึงมากนัก โดยเฉพาะในแถบแอฟริกา 
ส่วนประเทศที่เคยใช้แนวทาง "โควิดเป็นศูนย์" หรือ zero-Covid อาทิ ประเทศจีน เพื่อหวังกำจัดไวรัสให้หมด ก็จะพบกับความล้มเหลว เนื่องจากธรรมชาติของไวรัสตัวนี้ โดยเฉพาะโควิดสายพันธุ์เดลต้า  ที่สามารถแพร่เชื้อได้เป็นวงกว้าง 
.
ขณะที่ตัวอย่างที่น่าสนใจแถบยุโรปตะวันตก คือ "ความล้มเหลวในการฉีดวัคซีนให้ประชาชนจำนวนมาก" แม้จะมีวัคซีนมากเกินพอ จนนำมาสู่ยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตพุ่งสูงขึ้น กระทบอย่างหนักต่องานในโรงพยาบาล อาทิในประเทศ บัลแกเรีย และ โรมาเนีย 
.
ตัวเลขโควิด-19 ในไทย 
.
ณ วันที่ 2 พฤศจิกายน 2021 ประเทศไทยมีตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวัน ต่ำกว่า 1 หมื่นคนแล้ว โดยอยู่ที่ 7,574 ราย ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 1,927,763 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 สะสมอยู่ที่ 19,338 ราย ส่วนตัวเลขการฉีดวัคซีนโควิด-19 สะสมไปแล้วทั่วโลก อยู่ที่ 75.9 ล้านโดส ทั่วประเทศ 
.
และ ไทยก็เปิดประเทศตอนรับนักท่องเที่ยว จาก 63 ประเทศให้เข้าไทยได้แล้ว ขณะที่ กทม.ให้ดื่มแอลกอฮอล์ ในร้านถึง 3 ทุ่มแล้ว...
.
คำถามสำคัญของทุกคน ก็คือ เราจะอยู่กับโควิด-19 อย่างไร...ในเมื่อ มันไม่มีทาง หายไปจากโรคนี้ 

related