สสจ.สระแก้ว สั่งสอบที่มาวัคซีน จอห์นสันฯ คาดลักลอบมาจากกัมพูชา

จากกรณีเพจหมอแล็บแพนด้า ได้โพสต์และตั้งข้อสงสัย กรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ข้อความลงในสื่อสังคมออนไลน์ว่า ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ยี่ห้อ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน จากคลินิกดังสระแก้ว 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• วุ่น! คลินิกดังสระแก้วฉีด วัคซีนจอห์นสันฯ สธ. ชี้หมอฉีดไม่รู้ที่มาไม่ได้

• หมอยง เร่งวิจัย "วัคซีนโมเดอร์นา" เข็มกระตุ้น ใช้ให้คุ้มค่า-ลดแทรกซ้อน

ล่าสุด นพ.ประภาส ผูกดวง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว ยอมรับว่า จากการตรวจสอบพบว่า มีการฉีดวัคซีน จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ที่คลินิกเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.สระแก้ว และมีค่าใช้จ่าย 2,800 บาท เป็นเรื่องจริง โดยฉีดไปเมื่อวันที่ 16 ต.ค. 64 ที่ผ่านมา

นพ.ประภาส ระบุว่า เรื่องนี้พบเป็นกรณีแรกและยังไม่มีการร้องเรียน โดย สสจ.ยังตามตัวผู้ที่ได้รับวัคซีนไม่พบ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบว่าไปซื้อวัคซีนนี้มาจากที่ใด ส่วนคลินิกที่ฉีดให้ยังไม่พบคลินิกมีฐานความผิด

สำหรับแพทย์ที่ฉีดวัคซีนให้คนไข้นั้น สามารถทำได้เพราะแพทย์มีใบประกอบโรคศิลปะ เเต่ได้ตักเตือนให้ระมัดระวังการประกอบวิชาชีพ และตั้งคณะกรรมการสอบเพื่อหาว่า วัคซีนดังกล่าวว่ามาจากที่ใด คาดว่าอาจมีการนำวัคซีนนี้มาจากประเทศกัมพูชา

ด้าน นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการ อย. กล่าวว่า วัคซีนที่นำเข้าโดยผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตนำเข้า ถือเป็นวัคซีนผิดกฎหมายเเละต้องตรวจสอบว่า วัคซีนที่นำเข้ามาใช่วัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์สัน จริงหรือไม่ เพราะผู้ที่ได้รับอนุญาตนำเข้าตอนนี้ คือ บริษัท แจนเซ่น-ซีแลกจำกัด เท่านั้น

ดังนั้น หากเป็นบุคคลอื่นหรือบริษัทอื่นหากนำวัคซีนเข้ามาถือว่ามีความผิด เบื้องต้น การนำเข้ามาโดยไม่รับได้อนุญาต ถือว่าผิดพ.ร.บ.ยา มาตรา 12 ห้ามมิให้ผู้ใดผลิต ขาย หรือนำหรือสั่งเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาแผนปัจจุบัน เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาตโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท

ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก อย.แล้ว โดยที่ผ่านมา สถานทูตฝรั่งเศส ประจำประเทศไทย ได้นำเข้าวัคซีนจอห์นสันฯ ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อฉีดให้ประชากรของฝรั่งเศสที่พำนักในไทย

ส่วนกรณีคลินิกที่ฉีดให้ ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ไม่ว่าจะยา หรือ หรือวัคซีนใด ๆก็ตาม ตามหลักแล้วคนไข้มาที่คลินิก ทางคลินิกจะต้องใช้ยาหรือวัคซีนของคลินิกเองในการให้บริการคนไข้ หากคลินิกไม่มีกำลังเพียงพอ จะมี 2 ส่วนที่ทำได้คือ 1.ประสานส่งต่อไปยังสถานพยาบาลที่มีศักยภาพกว่า และ 2.ประสานสถานพยาบาลอื่น ๆ เพื่อขอยืมยา เพื่อมาให้บริการผู้ป่วยกรณีนี้ไม่ใช่หลักที่ถูกต้อง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนไข้นำวัคซีนมาเองก็ไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน