svasdssvasds

สหรัฐฯ ทุ่มทุนดูแลสุขภาพจิตบุคลากรด่านหน้า 103 ล้านดอลลาร์

สหรัฐฯ ทุ่มทุนดูแลสุขภาพจิตบุคลากรด่านหน้า 103 ล้านดอลลาร์

กระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ของสหรัฐฯ (HHS) ทุ่มทุนดูแลสุขภาพจิตที่อ่อนล้าของบุคลากรทางการแพทย์โดยเฉพาะด่านหน้า พร้อมส่งเสริมฟื้นฟูจิตใจในระยะยาว เป็นเงินกว่า 103 ล้านดอลลาร์ (3.4 พันล้านบาท)

เซเวียร์ เบเซอร์รา (Xavier Becerra) เลขาธิการกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ของสหรัฐฯ (The US Department of Health and Human Services: HHS) ประกาศว่า จะรักษาดูแลสภาพจิตใจของบุคลากรทางการแพทย์ที่อ่อนล้าจากการรับมือการแพร่ระบาดของโควิด-19 พร้อมทั้งส่งเสริมฟื้นฟูสุขภาพจิตต่างๆ ในระยะยาว เป็นโครงการที่มีมูลค่ากว่า 103 ล้านดอลลาร์ (3.4 พันล้านบาท)

เบเซอร์รา กล่าวว่า เงินทุนมาจากแผนกู้ภัยอเมริกัน (American Rescue Plan) และจะถูก "แจกจ่ายให้กับองค์กรจำนวนมากที่ดูแลโครงการและการปฏิบัติและการฝึกอบรมที่มีหลักฐาน โดยจะเน้นไปที่ผู้ให้บริการในชุมชนที่ด้อยโอกาสและในชนบท"

แคโรล จอห์นสัน (Carole Johnson) ผู้บริหารทรัพยากรด้านสุขภาพและบริการด้านสุขภาพ (Health Resources and Services Administration) กล่าวว่า รางวัลนี้จะมอบให้กับผู้รับทุน 45 รายทั่วสหรัฐอเมริกา รวมถึงศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยมิสซิสซิปปี้ ศูนย์สุขภาพชุมชนแมสซาชูเซตส์ลีก และโรงพยาบาลเด็กลอสแองเจลิส และอื่นๆ อีกมากมาย

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง :

จากการเปิดเผยของ HHS รางวัลต่างๆ จะทำผ่านสามโปรแกรม

  1. จะมอบเงินจำนวน 28.6 ล้านดอลลาร์ (944 ล้านบาท) แก่ผู้ได้รับทุน 10 ราย เพื่อช่วยองค์กรในการจัดตั้ง ปรับปรุง หรือขยายโครงการและแนวทางปฏิบัติที่มีหลักฐานสนับสนุน เพื่อส่งเสริมสุขภาพจิตและสวัสดิภาพของผู้ปฏิบัติงานด้านสุขภาพ
  2. จะมอบเงินจำนวน 68.2 ล้านดอลลาร์ (2.25 พันล้านบาท) จะมอบให้กับผู้ได้รับทุน 34 ราย "เพื่อสนับสนุนการพัฒนาการฝึกอบรมตามหลักฐานที่เหมาะสมในวิชาชีพด้านสุขภาพและกิจกรรมการฝึกอบรมการพยาบาล"
  3. จะมอบเงินจำนวน 6 ล้านดอลลาร์ (198 ล้านบาท) ให้กับมหาวิทยาลัยจอร์จวอชิงตันสำหรับศูนย์ความช่วยเหลือด้านเทคนิคด้านความยืดหยุ่นของบุคลากรด้านสุขภาพและความปลอดภัยสาธารณะ เพื่อจัดการฝึกอบรมและความช่วยเหลือด้านเทคนิคที่เหมาะสมแก่ผู้ได้รับรางวัล

โรงพยาบาลราว 1 ใน 4 แห่งทั่วสหรัฐอเมริการายงานว่า "ขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ขั้นวิกฤต" มากกว่าการระบาดของโควิด-19 ส่วนใหญ่ ตามข้อมูลจาก HHS

related