สภาล่มอีกแล้ว นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์ ครั้งที่ 3 ในระยะเวลาไม่ถึงเดือน และครั้งที่ 15 ในรัฐบาลประยุทธ์ ชวน VS พิเชษฐ์ โต้เดือด ก่อนนับองค์ประชุม
วันนี้มีรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้เกิดเหตุการณ์สภาล่ม (อีกแล้ว) ระหว่างพิจารณารายงานผลการพิจารณาศึกษาเรื่องผลกระทบและแนวทางแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลไทยอย่างยั่งยืน ซึ่งคณะกรรมาธิการการป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย พิจารณาเสร็จแล้ว โดยเป็นการพิจารณาค้างมาจากการประชุมสภาฯ สมัยประชุมครั้งที่ 1
เสนอนับองค์ประชุม
โดยเมื่อเวลา 14.05 น. นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ได้กดออดเรียกสมาชิกเพื่อตรวจสอบองค์ประชุม ก่อนลงมติรับทราบรายงานดังกล่าว แต่เนื่องจากมีสมาชิกอยู่ในห้องประชุมบางตา อาจไม่ครบองค์ประชุมได้ นายชวน จึงพยายามรอ ใช้เวลานานกว่า 20 นาที แต่ดูเหมือนสมาชิกในห้องจะยังไม่ครบองค์ประชุม
ต่อมานายวิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย เสนอให้นับองค์ประชุมแบบขานชื่อ แต่ส.ส.พรรคเพื่อไทยเสนอขอให้นับองค์ประชุมแบบเสียบบัตรแสดงตน ซึ่งนายชวน ได้วินิจฉัยให้แสดงตนตามที่นายวิรัช เสนอ
แต่ นายจุลพันธ์ ลุกขึ้นประท้วงคัดค้าน ระบุว่า วันนี้พวกเรากำหนดจะประชุมถึงเวลาประมาณ 17.00 น. หากนับองค์ประชุมแบบตามที่นายวิรัช เสนอ จะทำให้เสียเวลา กว่าจะเสร็จก็ 17.30 น. ไม่ต้องประชุมต่ออยู่ดี ดังนั้น ถ้าเดิมเกมการเมืองเช่นนี้ฝ่ายค้านไม่ยุ่งด้วย และขออยู่นอกห้องประชุม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดประชุมนัดแรก สภาฯ ล่ม ส.ส.พรรคเพื่อไทย ซัด รัฐบาลไร้ความรับผิดชอบ
สมชัย ศรีสุทธิยากร วิเคราะห์ 10 ปรากฏการณ์การเมืองสำคัญ ที่จะเห็นในปี 2565
ชวน แจงปมสภาล่ม เผยองค์ประชุมครบ แต่ไม่แสดงตน ลงมติ พ.ร.บ.วัตถุอันตราย
ส.ส.ก้าวไกล ท้วงติง กฎหมายสำคัญรอพิจารณา
ขณะที่ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล ได้ลุกขึ้นท้วงติงว่า ขณะนี้มีวาระกฎหหายสำคัญ คือ กฎหมายบำเบ็จบำนาญ ที่รอการพิจารณาอยู่ หลังจากที่ก่อนหน้าสภาได้ตีตกกฎหมายไปแล้ว 5 ฉบับ อีกทั้งยังมีภาคประชาชนที่รอรับฟังการพิจารณาบริเวณชั้น 2 อาคารรัฐสภา จึงขอให้นายวิรัช ถอนญัตตินับองค์ประชุมออกเพื่อให้การประชุมสภามารถเดินหน้าต่อไปได้
นายชวนจึงท้วงติงว่า ไม่สามารถถอนญัตติได้ หากจะถอนต้องมีการลงมติรับรอง แต่นายวิรัช ยืนยันว่า ตนยอมถอนญัตติเนื่องจากยังไม่มีผู้รับรอง นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงว่า วันนี้ประธานทำหน้าที่ที่ลำเอียง ขณะนี้องค์ประชุมขาดไปกว่า 40 คน ท่านจะเอาจากไหนมา นายชวนจึงตอบโต้กลับว่า ท่านว่าประธานลำเอียง ท่านก็ต้องดูตัวเองด้วย ประธานดำเนินการทำหน้าที่ตามข้อบังคับ
นายนายพิเชษฐ์ ได้ตอบกลับว่า ไม่เป็นไรท่านต้องดูตัวเองด้วย เอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่นห้องประชุมเป็นอย่างนี้ ท่านดำเนินการต่อได้อย่างไร ขณะที่นายชวนยืนยันว่า ประธานทำหน้าที่ตามข้อบังคับ เมื่อมีผู้ไม่เห็นด้วยก็ต้องมีการลงมติ ผมไม่ให้นับผมก็ผิด "ผมก็ไม่อยากให้สภาบอบช้ำจากการทำงานของสภาผู้แทนราษฎร เขาเลือกเรามาเขาก็ต้องการอยากเห็นเราทำงาน เมื่อมีผู้เสนอ ผมก็ต้องให้มีการลงมติไม่ใช่อยากจะทำอะไรก็ทำได้ตามอารณ์" นายชวน กล่าว
ขณะที่ นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ยืนยันว่า ญัตติที่ นายวิรัช เสนอ ยังไม่มีผู้รับรอง เมื่อไม่มีผู้รับรองก็ถือว่ายังมิชอบแต่นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า แม้จะญัตติของนายวิรัช จะไม่ถูกต้อง แต่ยังมีญัตติที่ตนเสนอ คือ ให้นับองค์ประชุมด้วยการกดบัตร ซึ่งมีผู้รับรองถูกต้อง ฉะนั้น จึงขอให้ที่ประชุมมีการนับองค์ประชุมตามญัตติที่ตนเสนอและขอให้ประธานได้วินิจฉัย
ทำให้นายชวน กล่าวว่า ขอให้ นายจิรายุ ไปบอก ส.ส.พรรคเพื่อไทยที่ประกาศไม่ร่วมนับองค์ประชุมเข้ามากดบัตรด้วย เพราะไม่ว่าจะกดบัตร หรือ เรียกชื่อระบบจะแสดงรายชื่อว่าใครจะอยู่หรือไม่อยู่ในห้องประชุม
ส.ส.แสดงตน แค่ 195 สภาล่ม
จากนั้นที่ประชุมมีการนับองค์ประชุมด้วยการกดบัตร มีสมาชิกแสดงตนเพียง 195 คน จากจำนวนสมาชิก 474 คน ไม่ครบองค์ประชุม ถือว่าสภาล่มอีกครั้ง เป็นครั้งที่ 15 เป็นการล่มครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์ และเป็นครั้งที่ 3 ในระยะเวลาไม่ถึงเดือน
โดย นายชวน กล่าวทิ้งท้ายว่า เรื่องของ กมธ.เราคงมีเวลาพิจารณาอีก 1 ครั้ง ในสัปดาห์สุดท้าย ส่วนที่เหลือก็ต้องไปสมัยประชุมหน้า อันนี้ก็เป็นผลงานของพวกท่านทั้งหลายเมื่อมันล่าช้าไปก็เสียโอกาสไป แต่ตนก็เข้าใจไม่ได้ประสงค์จะไปตำหนิอะไร แต่ว่ามันเป็นการกระทำของพวกเราเองไม่ใช่ใครอื่น
สถิติสภาล่มในรัฐบาลประยุทธ์
ปี 2562
ครั้งที่ 1 / 24 ก.ค.
ครั้งที่ 2 / 27 พ.ย.
ครั้งที่ 3 / 28 พ.ย.
ปี 2563
ครั้งที่ 4 / 8 ก.ค.
ปี 2564
ครั้งที่ 5 / 30 มิ.ย.
ครั้งที่ 6 / 1 ก.ค.
ครั้งที่ 7 / 10 ก.ย.
ครั้งที่ 8 / 17 ก.ย.
ครั้งที่ 9 / 3 พ.ย.
ครั้งที่ 10 / 17 พ.ย.
ครั้งที่ 11 / 15 ธ.ค.
ครั้งที่ 12 / 17 ธ.ค.
ปี 2565
ครั้งที่ 13 / 19 ม.ค.
ครั้งที่ 14 / 3 ก.พ.
ครั้งที่ 15 / ก.พ.