svasdssvasds

"เต้ มงคลกิตติ์" แจง รับไม้ต่อทำคดี "แตงโม นิดา" ขอเวลา 15-30 วันส่งฟ้องศาล

"เต้ มงคลกิตติ์" แจง รับไม้ต่อทำคดี "แตงโม นิดา" ขอเวลา 15-30 วันส่งฟ้องศาล

"เต้ มงคลกิตติ์" แจง ปมรับทำคดี "แตงโม นิดา" เพราะแม่มีความเห็นตรงกัน โดยเชื่อเป็นคดีฆาตกรรม เย็นนี้มีนัดกินข้าวกับแม่ก่อนแถลงใหญ่ ชี้! "ทนายตั้ม" พูดอะไรต้องรับผิดชอบ ไม่ช่วยก็อยู่เงียบๆ

ส.ส. เต้ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไล ยอมรับว่านางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาของแตงโม นิดา ได้ประสานขอให้พรรคและชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ช่วยทำคดี ซึ่งถือเป็นทีมเดียวกันหมดเพราะนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ในฐานะประธานชมรมฯ ก็เป็นที่ปรึกษาพรรคอยู่แล้ว เพราะแม่เชื่อว่าลูกสาวถูกฆาตกรรม 

โดยการทำงานจะมีการแบ่งงานกัน มีทีมทนายความที่มีใบอนุญาต และมีทีมที่ปรึกษาเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย มีอดีตอัยการอาวุโส อดีตผู้พิพากษาศาลสูงมาช่วยเขียนร่างคำฟ้องดำเนินคดี ตามกฎหมายอาญามาตรา 289 วงเล็บ 7 ต่อไป โดยทำเป็น 2 ชุดคือคดีอาญา และคดีแพ่งเรียกร้องค่าเสียหายประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งหลักฐานบางส่วนที่ได้มายังได้มาไม่ครบถ้วน หลักฐานบางส่วนสามารถยื่นเพิ่มเติมไปในชั้นอัยการได้เลย 

ทั้งนี้แม้ทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย จะเป็นที่ปรึกษาของพรรคแต่การจะร่วมทำคดีนี้ก็ยังต้องปรึกษากับแม่แตงโมอีกที ยืนยันความสัมพันธ์ไม่ได้มีปัญหาอะไร โดยจะมอบให้ทนายของพรรคและทีมทนายอัจฉริยะร่วมทำคดีเป็นหลัก

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ช่วงเย็นวันนี้ (26 พ.ค. 65) จะไปรับประทานอาหารและพูดคุยกับแม่แตงโมถึงขึ้นตอนวิธีการดำเนินการ และในวันพรุ่งนี้ (27 พ.ค. 65) จะมาแถลงความคืบหน้าอีกครั้ง โดยแม่และนายอัจฉริยะจะเดินทางมาด้วย เพื่อร่วมกันวางแผนการดำเนินคดีต่อไป เชื่อว่าภายใน 15-30 วัน น่าจะยื่นร้องต่อศาลได้ เพราะรับคดีมาถือว่ามาไกลพอสมควร ถ้าทุกอย่างสว่างข้อมูลจะมาเรื่อยๆ จะทำให้ดีที่สุด และไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายใดพรรคออกให้ทั้งหมด และหากแม่ฟ้องทางแพ่งและได้รับเงินมาก็เป็นเรื่องของแม่ ว่าจะเอาไปทำอะไร 

เมื่อถามว่าใครเป็นคนติดต่อ ทำคดีแม่หรือนายมงคลกิตต์นั้น นายมงคลกิตต์กล่าวว่าเดิมทีคุยกันอยู่แล้วตั้งแต่ต้นและคุยมาเรื่อยๆ แต่ตอนนั้นมีงานเยอะ ไม่ไหวแต่คุณแม่ก็มองว่าตนช่วยไขคดีแตงโมมานานแล้ว ก็คิดว่าแนวทางความคิดตรงกันเรื่องของคดีฆาตกรรม

ส่วนมือถือที่ให้บังแจ็คถือเป็นสิทธิ์ของคุณแม่เพราะเป็นเจ้าของทรัพย์สินและให้ไปเลยแต่ให้ไปกู้ข้อมูลที่ถูกลบไป ช่วงเวลาของวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 20.15  น.-24.00 น.

สำหรับ บังแจ็ค ถือว่า เจตนาดี มีประโยชน์ และไว้เนื้อเชื้อใจกัน เพราะช่วยกู้ข้อมูลจากมือถือออกมาได้ ซึ่งกำลังตรวจสอบว่าข้อมูลนี้ถูกลบเมื่อไหร่ และเห็นว่าทุกคนที่มาร่วมไขคดีก็เพื่อให้เกิดความยุติธรรมถือเป็นพลเมืองดีทั้งสิ้น และหลังจากนี้ใครมีคลิปหรือข้อมูล ขอให้แจ้งมาที่ตนโดยตรงไม่ต้องกลัวความไม่ปลอดภัย เพราะพรรคไทยศรีวิไลย์มีอดีตทหารและนักรบจำนวนมาก

นายมงคลกิตติ์ บอกว่าแม่สบายใจดี แม้จะถูกสังคมโจมตีอย่างหนัก หลังส่งมือถือให้บังแจ๊ค แต่ส่งนตัวเชื่อว่า แม่ไม่มีพฤติกรรมบกพร่องตามที่สังคมวิจารณ์ เชื่อแม่ทุกคนรักลูกเพราะตั้งครรภ์มา 9 เดือน แต่แม่อาจตกเป็นเครื่องมือของสื่อบางสื่อ และอินฟลูเอนเซอร์ หรือ ผู้มีอิทธิพลบนสื่อโซเชียล

ส่วนที่ทนายเดชาไม่ทำคดีให้กับแม่แตงโมแล้วนั้นนายมงคลกิตติ์กล่าวว่า อาจเป็นเรื่องความเห็นที่ไม่ตรงกันที่แม่มองว่าน่าจะเป็นฆาตกรรมแต่ทนายเดชามองว่าเป็นเรื่องของอุบัติเหตุ และไม่ขอให้ความเห็นว่าเหตุใดทนายเดชาถึงโพสต์ว่าหมดเวรหมดกรรมหลังถอนตัวจากคดีนี้ 

เมื่อถามถึงกรณีที่ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ออกมาตั้งข้อสังเกตว่ามีกระบวนการใช้โทรศัพท์มือถือของแตงโมในการเรียกรับผลประโยชน์ นายมงคลกิตติ์ ย้อนถามว่า รับผลประโยชน์อะไร ก่อนจะบอกว่าให้ ทนายตั้มจะพูดอะไรก็ตามก็จะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่พูด ลำพังทนายตั้มก็มีคดีเยอะอยู่แล้ว ถ้าไม่ช่วยคดีแตงโมก็ควรจะอยู่เงียบๆ 

นายมงคลกิตติ์ ยังยืนยันว่าการทำคดีแตงโม คือภารกิจของ ส.ส. ไม่กระทบต่อการเตรียมการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ..) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไม่กระทบ เพราะเตรียมตัวอยู่แล้ว ซึ่งใช้เวลาในการอภิปรายในสภาฯ แค่ 25 นาที คิดว่าไม่มีปัญหา ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้น อยู่ในสายเลือดอยู่แล้ว แค่มองตาก็รู้แล้วว่ารัฐมนตรีคนนี้ทำผิดอะไรบ้าง

ส่วนที่มีกลุ่ม 16 จะมาร่วมไขคดีนั้นนาย มงคลกิตติ์ ต้องขอขอบคุณ ถือเป็นเรื่องส่วนรวม และทางกลุ่ม 16 ยังได้ร่วมลงชื่อ ในร่างพระราชบัญญัติสืบสวนคดีอาญาพ.ศ.... และ ร่างพ.ร.บ.สำนักงานทนายรัฐ

related