svasdssvasds

กูรูวิเคราะห์ shopee ปลดพนักงานแค่กลับไปโฟกัสธุรกิจทำกำไร

กูรูวิเคราะห์ shopee ปลดพนักงานแค่กลับไปโฟกัสธุรกิจทำกำไร

ป้อม ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ บริษัท TARAD.com มองปรากฎการณ์ Shopee ปลดคนเป็นเพียงการหันกลับมาโฟกัสธุรกิจที่ทำกำไรและทำสิ่งที่ถนัด ไม่ได้สะท้อนว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซกำลังปักหัวลง

ข่าวการปลดพนักงานทั้งในอาเซียน รวมถึงไทย ของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่อย่างshopee ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า เป็นเพราะธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ถึงคราวที่กราฟจะหันหัวลงหรือไม่?

SPRiNG พูดคุยกับหนึ่งในกูรูของวงการอีคอมเมิร์ซในบ้านเรา ป้อม ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ บริษัท TARAD.com เป็นหนึ่งคนที่หยิบยกเอาผลการดำเนินการของ Shopee และแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ หรือ อีคอมเมิร์ซ มาเผยแพร่ เขาอธิบายว่า แม้จะมีตัวเลขขาดทุน แต่หลายปีที่ผ่านมา Shopee เติบโตแบบก้าวกระโดด และอาจจะสะดุดบ้าง เพราะผลพวงจากเศรษฐกิจที่หดตัว

แต่เมื่อวิเคราะห์โมเดลการทำธุรกิจของ Shopee กับ Lazada ต่างกับ เพราะ Shopee ใช้วิธีระดมเงินจากนักลงทุน ขณะที่ Lazada มีนายทุนใหญ่เปรียบง่ายๆ เหมือนคนมีพ่อรวย

ที่ Shopee หันมาลดพนักงานในส่วนงาน ShopeePay และ ShopeeFood เพราะต้องรัดเข็มขัด เนื่องจากที่ผ่านมาเขาขยายใหญ่มาก หันไปทำธุรกิจทั้งฟู้ดเดลิเวอรี่ และ Payment ดังนั้นการลดขนาดองค์กรในภาวะที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัวจึงเป็นการปิดเพื่อรักษาส่วนใหญ่

ภาวุธ มองว่า Shopee ต้องถอยกลับมาสู่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เพราะจังหวะและสถานการณ์ตอนนี้ และการทำธุรกิจเปย์เมนท์ รับชำระเงิน ตามร้านค้าต่างๆ ต้องอาศัยคนจำนวนมากลงพื้นที่ไปติดต่อร้านค้า ขณะที่ธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี่ ก็การแข่งขันสูง ดังนั้น Shopee น่าจะถอยกลับมาสู่ธุรกิจที่ทำกำไรดีกว่า และการแข่งขันก็ไม่ได้ดุเดือดมาก

การลดขนาดองค์กรของ Shopee ในครั้งนี้จึงสะท้อนถึงการขยายธุรกิจที่เร็วเกินไป มากกว่าที่จะมองว่า ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ กำลังประสบปัญหา เพราะอีคอมเมิร์ซโดยรวมยังเติบโตได้ดีแม้จะได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อที่หดตัว และ เศรษฐกิจชะลอตัวอยู่บ้าง นอกจากนี้ยังดูเหมือนว่า Shopee จะเป็นเจ้าเดียวด้วยที่ไปขยายไปรุกธุรกิจฟู้ดและรับชำระเงิน

.