ภาวะเศรษฐกิจไม่แน่นอน-สงคราม ดึงความสงบสุขทั่วโลกต่ำสุดในรอบ 15 ปี

รายงานดัชนีสันติภาพโลก (Global Peace Index หรือ GPI) จาก สถาบันเศรษฐศาสตร์และสันติภาพ (Institute for Economics & Peace หรือ IEP) โดยพิจารณาจาก  23 ปัจจัยชี้วัดของดัชนีสันติภาพโลก พบว่า ระดับความสงบสุขโดยเฉลี่ยทั่วโลกลดลง 0.3% ในปี 2564 นับว่าลดลงเป็นครั้งที่ 11 ในรอบ 14 ปี 

• 90 ประเทศมีความสงบสุขมากขึ้น
• 71 ประเทศมีความสงบสุขลดลง 

โดยรายงานระบุว่าความสงบสุขลดลงในอัตราที่เร็วกว่าความสงบสุขเพิ่มขึ้น 

ปัจจัยที่มีผลฉุดให้ดัชนีสันติภาพโลกตกลงประกอบด้วย 

• ความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน 
• ความรุนแรงของความขัดแย้งภายใน 
• ผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นภายในประเทศ 
• การก่อการร้ายที่มีแรงจูงใจทางการเมือง 
• และความไร้เสถียรภาพทางการเมือง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• การทำประมงเกินขนาดเริ่มมาจากไหน ทำความเข้าใจ วิกฤตอาหารทะเล Overfishing

• เกษตรกรรุ่นเยาว์ในอินเดียผุดไอเดีย ปลูกข้าวฟ่างกู้วิกฤตขาดแคลนน้ำ

• Plant Based Food เบคอนเทียม ผลิตจากสาหร่ายทะเล อร่อยได้ไม่ต้องกลัวอ้วน

ส่วนประเทศที่มีความสงบสุขที่สุดในโลกได้แก่ ไอซ์แลนด์ ที่เป็นแชมป์ติดต่อกันมาเป็นสมัยที่ 4 ตามด้วย นิวซีแลนด์ ไอร์แลนด์ เดนมาร์ก และออสเตรีย ตามลำดับ โดยพบว่า ประเทศที่สงบสุข 7 ใน 10 อันดับแรกอยู่ในภูมิภาคยุโรปทั้งสิ้น ยกเว้นตุรกีที่ไม่ติดในอันดับครึ่งแรกของผลการสำรวจ

ส่วนอัฟกานิสถานเป็นประเทศที่มีความสุขน้อยที่สุดในโลกติดต่อกันเป็นปีที่ 5 ตามมาด้วย เยเมน ซีเรีย รัสเซีย และเซาท์ซูดาน ทั้งนี้สองประเทศคู่ความขัดแย้งอย่างรัสเซียและยูเครนติดอยู่ในกลุ่ม 5 ประเทศที่มีความสงบสุขย่ำแย่ลงมากที่สุด

ทั้งนี้พบว่าการรับข่าวสารจากสื่อโซเชียล มีการแชร์ข้อมูลต่อๆ กันทันทีโดยไม่ได้อ่านวิเคราะห์เพิ่มเติม 

ในหัวข้อเรื่องการชุมนุมมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น 49% นับตั้งแต่ปี 2551 โดย 126 จาก 163 ประเทศมีคะแนนย่ำแย่ลง โดยเฉพาะเอเชียใต้ ในอินเดีย ศรีลังกา บังกลาเทศ และปากีสถานเป็นภูมิภาคที่มีความถี่และความรุนแรงของการชุมนุมที่มีความรุนแรงมากที่สุด

แต่ในความสงบสุขที่น้อยลงก็ยังพอมีข่าวที่ทำให้สบายใจขึ้นได้บ้าง ว่ายังมีปัจจัยด้านที่ปรับตัวดีขึ้นรวมอยู่ ประกอบด้วย 

• อาวุธนิวเคลียร์และอาวุธหนัก 
• การเสียชีวิตจากความขัดแย้งภายใน 
• ค่าใช้จ่ายทางทหาร 
• อัตราการกักขัง 
• การรับรู้เกี่ยวกับอาชญากรรม 

และสถานการณ์การก่อการร้ายดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย 70 ประเทศไม่มีรายงานการโจมตีในปี 2564 ซึ่งถือว่าดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2551 นับว่าต่ำสุดตั้งแต่มีการจัดทำ ดัชนีสันติภาพโลก

โดยคุณสตีฟ คิลเลเลีย (Steve Killelea) ผู้ก่อตั้งและประธานบริหารสถาบันเศรษฐศาสตร์และสันติภาพ กล่าวว่า

"เมื่อปีที่แล้วเราได้เตือนเรื่องเศรษฐกิจทรุดอันเป็นผลมาจากโควิด-19 ส่วนในปีนี้เรากำลังประสบกับปัญหาห่วงโซ่อุปทานชะงักงัน เงินเฟ้อพุ่งสูง และความไม่มั่นคงทางอาหาร ซึ่งถูกซ้ำเติมด้วยสถานการณ์อันน่าเศร้าในยูเครน โดยผลกระทบทางการเมืองและเศรษฐกิจจะยังคงอยู่ต่อไปในอีกหลายปีข้างหน้า"

เตรียมเนื้อเตรียมตัวและอดทนกันต่อ แววว่าเศรษฐกิจหลังโควิด-19 และผลจาก สงครามรัสเซีย-ยูเครน จะสั่นคลอนความสงบสุขของโลกใบนี้และอยู่กับเราอีกหลายเฮือก

ที่มา

1 2