1 กรกฎาคม นี้ มีสินค้าอะไรขึ้นราคาบ้าง แก๊สหุงต้ม น้ำอัดลม น้ำปลา ปลาทู ข้าวสาร สบู่ ด้วยราคาน้ำมันที่แพงขึ้นค่าโดยสารปรับขึ้นเท่าไหร่ เช็กเลย
นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่งและค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯ ได้รับแจ้งว่าในวันที่ 1 ก.ค.65 นี้ จะมีสินค้าอีกหลายรายการที่จะปรับขึ้นราคา อาทิ เครื่องดื่มน้ำอัดลมทั้งยี่ห้อเป๊ปซี่ โค้ก และอาเจ บิ๊กโคล่า, ซอสปรุงรส, น้ำปลา, ข้าวสาร, สบู่นกแก้ว และลูกอม โดยเฉลี่ยปรับขึ้นประมาณ 10% หรือ 1-2 บาท จากราคาต้นทุนที่ปรับขึ้น อย่างไรก็ตาม อยากแจ้งเตือนไม่ให้ประชาชาตื่นตระหนก แล้วแห่กันไปซื้อกักตุนควรปล่อยให้เป็นไปอย่างปกติ แล้วรอซื้อในช่วงจังหวะที่ผู้ประกอบการออกมาจัดโปรโมชั่น เช่น 1 แถม 1 จะคุ้มค่ามากกว่า
ขณะที่น้ำยาซักผ้าขาว น้ำผลไม้ ซอสปรุงรส น้ำจิ้มไก่ น้ำจิ้มสุกี้ และผงชูรส ที่ขอปรับราคาขึ้น ส่วนปลาทู มีข่าวว่าปรับราคาขึ้น 20-30 บาทต่อกิโลกรัม
สิ่งจำเป็นอย่างแก้สหุงต้มครัวเรือนขึ้นอีก 15 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ในวันที่ 1 ก.ค. นี้ ราคาขยับขึ้นมาอยู่ที่ 378 บาท และจะทยอยปรับขึ้นอีก 15 บาทในเดือน ส.ค. ซึ่งจะทำให้ราคาขยับไปอยู่ที่ 393 บาท/ถัง 15 ก.ก. และขยับขึ้นเป็น 408 บาท/ถัง 15 ก.ก.ในเดือนก.ย. นี้
นอกจากนี้ รถร่วม บขส. ขึ้นค่าโดยสาร 5 สต./กม.ในวันที่ 4 ก.ค. นี้ ซึ่งเป็นไปตามมติของคณะกรรมการขนส่งทางบกกลางที่อนุมัติให้ปรับขึ้น
เพราะราคาน้ำมันแพงขึ้น เช่นเดียวกับ รถสองแถว ขึ้นค่าโดยสาร 2 บาท หลังจากที่สหพันธ์รถเมล์ กรุงเทพฯและปริมณฑล ไปยื่นหนังสือที่กระทรวงคมนาคม ขอขึ้นค่าโดยสารสองแถว จาก 8 บาท เป็น 10 บาท ส่วนรถเมล์ขอค่าโดยสาร จาก 10 บาท เป็น 12 บาท โดยจะขอปรับขึ้นในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
"บิ๊กตู่" ลั่น "โธ่ ทำไมจะไม่อยากลดราคาน้ำมัน อยากลดจะตายอยู่แล้ว"
อย่างไรก็ตาม นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมฯ ได้ประชุมกับห้างค้าส่งค้าปลีกและร้านสะดวกรายใหญ่ ประกอบด้วย แม็คโคร, บิ๊กซี, โลตัส, ท็อปส์, ฟู้ดแลนด์, เซเว่นอีเลฟเว่น, ลอว์สัน, ซีเจ เอ็กซ์เพรส และแม็กซ์แวลู เพื่อติดตามสถานการณ์ราคาสินค้า และขอความร่วมมือให้ช่วยตรงราคาสินค้าต่อไป หลังจากรัฐบาลมีการผ่อนคลายมาตรการโควิด และเปิดประเทศได้ทำให้ประชาชนมีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10-20% โดยในแหล่งที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว หรือมีนักท่องเที่ยวพักอาศัย จะมียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 40-50%
ทั้งนี้ จากการหารือสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพ ทุกห้างค้าส่งค้าปลีกฯ ยืนยันว่าแม้ระยะหลังกำลังซื้อยอดขายจะเริ่มดีขึ้น แต่จะไม่มีการฉวยปรับขึ้นราคาในช่วงนี้ และยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์จัดโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน ขณะเดียวกัน กรมการค้าภายในได้ขอความร่วมมือตรึงอัตราค่าธรรมเนียมต่างๆ ในช่วงนี้ และสำหรับราคาจำหน่ายปลีกจะต้องไม่ให้มีการเอาเปรียบผู้บริโภค โดยให้มีการปิดป้ายแสดงราคาอย่างชัดเจน