svasdssvasds

ศาลอุทธรณ์สั่ง 3 อดีตผู้บริหารเนชั่น ทุจริตลงรายได้ปลอม ชดใช้ 13 ล้าน

ศาลอุทธรณ์สั่ง 3 อดีตผู้บริหารเนชั่น ทุจริตลงรายได้ปลอม ชดใช้ 13 ล้าน

ศาลอุทธรณ์สั่ง 3 อดีตผู้บริหารเนชั่น “เสริมสิน-ดวงกมล-สุพจน์” ชดใช้เงินคืนให้บริษัทเนชั่น 13 ล้านบาท หลังร่วมกันลงรายได้ค้างรับที่ไม่มีอยู่จริง ทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 ก.ค.2565 ศาลแพ่งนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีหมายเลขดำที่ 1561/2564 และคดีหมายเลขแดงที่ 4114/2565 ซึ่ง บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (NMG) เป็นโจทก์ฟ้องนายเสริมสิน สมะลาภา จำเลยที่ 1 นางสาวดวงกมล โชตะนา จำเลยที่ 2 และนายสุพจน์ เพียรศิริ จำเลยที่ 3 ซึ่งจำเลยทั้ง 3 ร่วมกันกระทำละเมิดต่อโจทก์ กรณีการร่วมกันลงรายได้ค้างรับที่ไม่มีอยู่จริง ทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย

โดย นายเสริมสิน สมะลาภา เป็นอดีตกรรมการ บมจ.เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป , นางสาวดวงกมล โชตะนา เป็นอดีตกรรมการผู้จัดการ บมจ.เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป ส่วนนายสุพจน์ เพียรศิริ เป็นอดีตกรรมการ และผู้อำนวยการสายการเงิน บมจ.เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป

คดีที่ศาลชั้นต้นพิจารณา

ในคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษา จำเลยที่ 1 ไม่ได้ทำละเมิดต่อโจทก์ ดังนั้น จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ ให้จำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 3 ร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์เป็นเงินทั้งสิ้น 36,533,000 บาท โดยให้จำเลยที่ 2 รับผิดเป็นเงิน 17,535,840 บาท และให้จำเลยที่ 3 รับผิดเป็นเงิน 18,997,160 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันถัดจากวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2562) เป็นต้นไป จนกว่าจำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 3 จะชำระเสร็จแก่โจทก์

นอกจากนี้ให้จำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 3 ร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ เฉพาะค่าขึ้นศาลให้ใช้แทนเท่าทุนทรัพย์ที่โจทก์ชนะคดี โดยกำหนดค่าทนายความ 30,000 บาท ยกฟ้องโจทก์ในส่วนของจำเลยที่ 1 ค่าฤชาธรรมเนียมในส่วนนี้ให้ตกเป็นพับ คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก ซึ่งจำเลยอุทธรณ์

อ่านเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ศาลอุทธรณ์พิพากษาจำเลยเรื่องยื่นอุทธรณ์ฟังไม่ขึ้น

ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า อุทธรณ์ของจำเลยในประเด็นเรื่องฟ้องครอบคลุมฟังไม่ขึ้น ฟ้องของโจทก์ชอบด้วยกฎหมายแล้ว และมีคำพิพากษาให้จำเลยทั้ง 3 ร่วมกันกระทำละเมิด ให้จำเลยทั้ง 3 คนร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าเสียหายอย่างลูกหนี้ร่วม ไม่แบ่งส่วนความรับผิดอย่างที่ศาลชั้นต้นพิพากษา

โดยให้จำเลยทั้ง 3 ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ 13,033,000 บาท พร้อมอัตราดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี นับถัดจากวันฟ้อง(ฟ้องวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2562) เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 10 เม.ย.2564 และอัตรา 5% ต่อปี ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยให้ปรับเปลี่ยนลดลงหรือเพิ่มขึ้นได้ตามพระราชกฤษฎีกา ซึ่งตราขึ้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 7 ที่แก้ไขใหม่ บวกด้วยอัตราเพิ่ม 2% ต่อปี 

related