มาร์เก็ตบัซซ ร่วมกับวิทยาลัยโลกคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดผลสำรวจปี 2566 พบ 'ปัญหาสิ่งแวดล้อม' กลับมาขึ้นแท่นอันดับ 1 ที่คนไทยกังวลใจสูงสุดถึง 42% แซงเรื่องค่าครองชีพ , เศรษฐกิจ
เนื่องในเดือนแห่งวันสิ่งแวดล้อมโลก ที่ตรงกับทุกวันที่ 5 มิถุนายนของทุกปี มาร์เก็ตบัซซ ได้ร่วมกับวิทยาลัยโลกคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดทำการสำรวจหัวข้อ "10 อันดับแรกที่คนไทยวิตกกังวลมากที่สุด" อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2562 โดยผลการสำรวจล่าสุดในปี 2566 มีผู้ตอบแบบสอบถามรวม 1,000 คน ในเดือนเมษายน 2566 พบว่า
ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่คนไทยมีความกังวลใจสูงที่สุดถึง 42% หากเทียบกับผลสำรวจในปี 2565 คนไทยส่วนใหญ่มีความกังวลในเรื่องของค่าครองชีพที่สูงขึ้นจากการปรับราคาของสินค้าอุปโภคบริโภค แต่ในปัจจุบันปัญหาสิ่งแวดล้อมกลายมาเป็นสิ่งที่คนไทยมีความกังวลมากที่สุด มีตัวเลขเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับปี 2565 ที่ผ่านมา
นอกเหนือจากหัวข้ออื่นๆ ที่เป็นคำถามหลักของการสำรวจในเรื่องความกังวลในระดับประเทศ เช่น เรื่องของการทุจริตคอรัปชั่น การดูแลสุขภาพ การจราจร อาชญากรรม และสภาพเศรษฐกิจโดยรวม
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
ความกังวลต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยความกังวลอันดับต้นๆ จะเป็นเรื่องระดับปัญหามลพิษในประเทศไทย ซึ่งเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ โดยค่ามลพิษจะมีค่าสูงสุดในช่วงเดือนพฤศจิกายนและเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ปัญหามลพิษทางอากาศได้กลายเป็นปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและส่งผลต่อสุขภาพที่ร้ายแรงในประเทศไทย และคนไทยยังคงมีความกังวลกับปัญหานี้อย่างต่อเนื่อง
ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่คนไทยพูดถึงและกังวลตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เราได้มีการจัดทำแบบสำรวจ โดย 71% ของคนไทยเชื่อว่าปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อคุณภาพชีวิตของพวกเขา ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่มีตัวเลขของการสำรวจอยู่ที่ 62% และสิ่งที่น่ากังวลคือ กว่า 51% ของคนไทยเชื่อว่าสถานการณ์ปัญหาสิ่งแวดล้อมจะมีความเลวร้ายลงอีกใน 5 ปีข้างหน้า
10 ปัญหาที่คนไทยกังวลสูงสุดปี 2566
มร.แกรนท์ บาร์โทลี่ กล่าวเสริมว่า "เมื่อพูดถึงความรับผิดชอบ ผู้คนมองหาความเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นระบบจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกภาคส่วนทั้งจากภาครัฐบาลและภาคธุรกิจ เพื่อส่งเสริมให้มีคุณภาพชีวิตและสุขอนามัยที่ดีขึ้น มีความเป็นอยู่ที่ยั่งยืน ในช่วงหลายปีที่เราได้ทำการศึกษาจะเห็นได้ชัดว่า ความกังวลปัญหาสิ่งแวดล้อมสามารถนำไปใช้เพื่อกำหนดแผนของการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ดีได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับประเทศไทย คนไทยคาดหวังว่ารัฐบาลจะมีบทบาทสำคัญและมีอิทธิพลต่อข้อกำหนดและการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ และต้องการให้คนไทยมีความรับผิดชอบเท่าเทียมกันและสร้างความคาดหวังให้ทุกคนปรับเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตของตนเองและร่วมมือกันในเรื่องนี้ ผลการศึกษานี้ทำให้เห็นถึงความชัดเจนของคนไทยที่ต้องการให้เกิดความเปลี่ยนแปลงและเต็มใจที่จะมีส่วนร่วมในเรื่องของสิ่งแวดล้อม"
จากผลการสำรวจในด้านของสิ่งแวดล้อม 3 อันดับต้นๆ ที่ผู้บริโภคชาวไทยมีความกังวลมากที่สุด 44% เป็นเรื่องของสภาวะโลกร้อน, 44% มลพิษทางอากาศ และการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ อีก 25%
ผศ.ดร.ประภาภรณ์ ติวยานนท์ มงคลวนิช คณบดีวิทยาลัยโลกคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่เห็นว่าคนไทยตระหนักถึงภัยคุกคามจากภาวะโลกร้อน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (climate change) และมลภาวะต่อชีวิตที่พวกเรากำลังเผชิญมากขึ้น แม้ว่าต้องเผชิญกับความท้าทายอื่นๆ อีกมากมายก็ตาม งานของเราที่คณะวิชาโลกคดีศึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มุ่งเน้นไปที่การทำความเข้าใจ ความท้าทายต่างๆ ผ่านสาขาวิชาที่หลากหลายและมุ่งเน้นให้ความรู้เพื่อให้พวกเขาเป็นผู้นำด้านสิ่งแวดล้อมในอนาคต สามารถขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่จำเป็นและเอาชนะกับความท้าทายเหล่านี้"
คนไทยรักษาสิ่งแวดล้อมแบบไหนแต่ละวัน
ผศ.ดร.ประภาภรณ์ ติวยานนท์ มงคลวนิช ได้กล่าวเสริมอีกว่า "สิ่งสำคัญที่สุดคือทุกคนมีหน้าที่รับผิดชอบในการปกป้องสิ่งแวดล้อมของเรา นอกเหนือไปจากการริเริ่มของภาครัฐ ด้วยเหตุนี้ จึงไม่มีคำว่าสายเกินไปที่เราจะมาร่วมมือกันสร้างอนาคตที่ยั่งยืน ด้วยการทำหน้าที่ในส่วนของแต่ละคนเพื่อช่วยลดผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม