ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
ชาวอเมริกันออกมาประท้วงเรียกร้องความเอกภาพ หลังเหตุปะทะหนักเมืองชาร์ลอตส์วิลล์ ขณะที่เมืองบอสตัน ผู้ประท้วงหลายหมื่น พร้อมใจชุมนุม ต่อต้านกิจกรรมของฝ่ายขวาจัด จนตำรวจต้องเข้าควบคุมสถานการณ์
ประชาชนทั่วสหรัฐฯ ออกมาเดินขบวนตามท้องถนนเมืองใหญ่ ตั้งแต่รัฐแคลิฟอร์เนีย จนถึงนอร์ธ แคโลไรนา เพื่อเรียกร้องถึงความสามัคคีและเอกภาพ หลังเหตุปะทะหนักระหว่างการประท้วงของกลุ่มแนวคิดขวาจัดในเมืองชาร์ลอตส์วิลล์ รัฐเวอร์จิเนีย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน
ผู้ชุมนุมในเมืองฮูสตัน และเดอร์แฮม รวมถึงในรัฐแคลิฟอร์เนีย ยังเรียกร้องให้รัฐบาลท้องถิ่น ถอนรูปปั้นของบุคคลสำคัญในสมาพันธรัฐอเมริกา หรือรัฐเจ็ดทาส ที่อนุญาตการใช้แรงงานทาสด้วย แต่บรรยากาศการประท้วงนั้นเป็นไปอย่างสันติ ไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น
จุดที่น่าสนใจที่สุดของวันนี้ คือที่เมืองบอสตัน ประชาชนกว่า 4 หมื่นคน พร้อมใจกันออกมาชุมนุมตามท้องถนน เพื่อต่อต้านการเหยียดสีผิว รวมถึงพยายามขัดขวางกิจกรรมชุมนุมที่เรียกว่า "การแสดงออกอย่างเสรี" ที่มีการเชิญวิทยากรจากกลุ่มแนวคิดขวาจัดหลายคนมาร่วมกิจกรรม ซึ่งจัดขึ้นที่สวนสาธารณะคอมมอน ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมการชุมนุมของกลุ่มแนวคิดขวาจัดนั้นมีเพียงไม่กี่สิบคนเท่านั้น
สถานการณ์ชุมนุมของประชาชนที่ต่อต้านการเหยียดผิว และฝ่ายขวาจัดในเมืองบอสตันนั้น ส่งผลให้ตำรวจต้องนำกำลังกว่า 500 นาย เข้าควบคุมสถานการณ์ พร้อมตั้งแผงเหล็กและใช้รถเก็บขยะขนาดใหญ่ กั้นกลางระหว่างผู้ประท้วงสองฝ่าย ไม่ให้เผชิญหน้ากัน รวมถึงเป็นการป้องกันคนที่ไม่ประสงค์ดี ขับรถเข้ามาชนฝูงชน เหมือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่เมืองชาร์ลอตส์วิลล์ด้วย
ขณะที่ ผู้บังคับบัญชาตำรวจเมืองบอสตันเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ประท้วงทั้งหมด 27 ราย ด้วยเหตุผลว่า ไม่ปฏิบัติตามกฏระเบียบและก่อเหตุทำร้ายร่างกาย จนเกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้ชุมนุม
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ทวิตข้อความ สนับสนุนผู้ประท้วงต่อต้านการเหยียดสีผิว มีเนื้อหาว่า “ประเทศของเราแตกแยกมาหลายทศวรรษแล้ว บางครั้งก็ต้องใช้การประท้วงเพื่อเยียวยา ให้สหรัฐฯแข็งแกร่งยิ่งกว่าแต่ก่อน” นายทรัมป์ยังระบุว่า เขาขอชื่นชมผู้ประท้วงต่อต้านการเหยียดสีผิวในเมืองบอสตัน ที่กล้าออกมาแสดงออกถึงการต่อต้านทิฐิและความเกลียดชัง ซึ่งจะช่วยให้สหรัฐฯมีเอกภาคในไม่ช้า