svasdssvasds

“องอาจ” ชี้! พิพากษาจำคุก “คดีจีทูจี” ช่วยยับยั้งทุจริตเชิงนโยบาย

“องอาจ” ชี้! พิพากษาจำคุก “คดีจีทูจี” ช่วยยับยั้งทุจริตเชิงนโยบาย

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

 

“องอาจ” ชี้! พิพากษาจำคุก “คดีข้าวจีทูจี” ช่วยยับยั้งทุจริตเชิงนโยบาย

วันที่ 27 ส.ค. 60 – นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงคำพิพากษาจำคุก “คดีข้าวจีทูจี” ที่มีนักการเมือง, ข้าราชการ และนักธุรกิจ ถูกตัดสินจำคุกคนละหลายสิบปีลดหลั่นกันไป ว่า ต้องถือว่า เป็นคำพิพากษาที่เป็นบทเรียนสำคัญของสังคมไทย โดยเฉพาะผู้ที่ทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน ทั้งนักการเมืองและข้าราชการ ที่มีพฤติกรรมทุจริตคอร์รัปชัน

 

 

นายองอาจ กล่าวอีกว่า คำพิพากษาจำคุก “คดีข้าวจีทูจี” ยังมีส่วนอย่างสำคัญในการ “ยับยั้งการทุจริตเชิงนโยบาย” ที่สร้างผลเสียหายแก่ประเทศชาติบ้านเมืองอย่างใหญ่หลวง ในขณะที่ ผู้มีส่วนร่วมกับการทุจริตเชิงนโยบายได้รับประโยชน์จากทรัพย์สินเงินทองที่ทุจริตไปเป็นจำนวนมาก

 

คำพิพากษาจำคุก “คดีข้าวจีทูจี” ครั้งนี้ ถือเป็นบทเรียนที่มีนัยยะสำคัญ ดังนี้

1.เป็นการส่งสัญญาณให้เห็นว่า ถึงแม้จะเป็นผู้บริหารระดับสูงของประเทศ ระดับรัฐมนตรี และข้าราชการระดับสูง ถ้ามีการใช้อำนาจหน้าที่โดยไม่ชอบด้วยการเล่นแร่แปรธาตุ จัดฉาก สร้างหลักฐานเท็จ อำพรางข้อเท็จจริงต่าง ๆ เพื่อทุจริตแสวงหาประโยชน์โดยไม่ชอบ ก็มีโอกาสถูกดำเนินคดีและถูกลงโทษตามกฎหมายได้

2.เป็นบรรทัดฐานทำให้การทุจริตเชิงนโยบายที่เป็นอันตรายต่อบ้านเมือง เป็นเรื่องที่กระทำได้ด้วยความยากลำบากมากขึ้นในอนาคต

3.เป็นอุทาหรณ์สอนใจให้นักการเมือง ข้าราชการ นักธุรกิจ พึงสำเหนียกว่า การร่วมมือกันทุจริตคอร์รัปชันอาจจะเจอชะตากรรมเช่นเดียวกับจำเลยในคดีข้าวจีทูจี

นายองอาจ กล่าวต่อว่า คำพิพากษาคดีข้าวจีทูจีในครั้งนี้ จึงถือเป็นคุณูปการที่สำคัญของการป้องกันปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน โดยกระบวนการยุติธรรม ซึ่งทำให้ระบบนิติรัฐ นิติธรรม ของไทยเดินหน้า เป็นหลักให้บ้านเมืองต่อไปได้

 

related