svasdssvasds

ปัดฝุ่นพันธุ์ทิพย์สู่อาณาจักรค้าส่งใหม่เฉิดโฉมไฉไลใหญ่สุดอาเซียน !

ปัดฝุ่นพันธุ์ทิพย์สู่อาณาจักรค้าส่งใหม่เฉิดโฉมไฉไลใหญ่สุดอาเซียน !

ธุรกิจค้าส่งบ้านเราย่านประตูน้ำถือว่า เป็นแหล่งใหญ่ หนึ่งในนั้นคือศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์ ที่ค้าปลีกค้าส่งสินค้าไอที แต่วันนี้ได้ถูกแปลงโฉมใหม่แล้วให้เป็น“AEC TRADE CENTER - PANTIP WHOLESALE DESTINATION” ศูนย์ค้าส่งครบวงจรใหญ่สุดในภูมิภาคอาเซียน

ปัดฝุ่นพันธุ์ทิพย์สู่อาณาจักรค้าส่งใหม่เฉิดโฉมไฉไลใหญ่สุดอาเซียน !

ค้าส่งคืออีกหนึ่งธุรกิจหนึ่งที่สามารถวัดดัชนีผู้บริโภคในประเทศหลาย ๆอย่างได้เช่นกัน วัดกำลังซื้อของผู้บริโภค ภาวะเศรษฐกิจสภาพรวม รวมถึงเศรษฐกิจฐานรากด้วย หากกลุ่มค้าปลีกมีความคึกคักนั่นก็เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าค้าส่งก็คึกคักเหมือนกัน หากมาดู ๆ ศูนย์ค้าส่งบ้านเราก็มีมากมายให้พ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อสินค้าไปขายปลีกต่อไม่ว่าจะเป็นการส่งออก หรือจำหน่ายในประเทศ

 

ย่านประตูน้ำคือแหล่งค้าปลีกใหญ่ของไทยที่ใคร ๆ ก็รู้จักนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวไทยยังไงก็ต้องขอแวะช้อปสินค้าติดไม้ติดมือกลับบ้านเพราะสินค้าไทยก็ไม่ได้ด้อยกว่าชาติใดในโลกอยู่แล้ว ส่วนใกล้ๆกันก็ คือ ศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์ ที่ใคร ๆก็รู้จักในนามศูนย์ค้าปลีก ค้าส่ง สินค้าไอที จากนี้ไปคุณรู้หรือไม่ว่า ? วันนี้พันธุ์ทิพย์ ได้ถูกบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเครือเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี แปลงโฉมใหม่ปัดฝุ่นพัฒนาเป็นศูนย์การค้าส่งแห่งใหม่ใหญ่สุดในภูมิภาคอาเซียนภายใต้ชื่อ “AEC TRADE CENTER - PANTIP WHOLESALE DESTINATION”

 

 เรื่องนี้ถูกเปิดเผยโดย นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) บอกว่า บริษัทฯได้ลงนามความร่วมมือกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมการค้า รวม 11 หน่วยงาน จุดพลุเดินหน้าโครงการ “AEC TRADE CENTER - PANTIP WHOLESALE DESTINATION” หลังได้เปลี่ยนชื่อและเปลี่ยนตำแหน่งทางการตลาด (Repositioning) จาก “พันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำ” ซึ่งมีพื้นที่รวมกว่า 30,000 ตร.ม. สู่การพัฒนาเป็นศูนย์กลางการค้าส่งใจกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อสนับสนุนไทยในภาคธุรกิจต่างๆ ทั้งผู้ผลิต ผู้ส่งออก และนำเข้าสินค้า ในการแสวงหาโอกาสในการขยายธุรกิจ ด้วยช่องทางในการขายสินค้าและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยตั้งเป้าว่าจะมียอดขายประมาณ 1,000 ล้านบาท /เดือน และปรับตัวดีขึ้นหลังจากโควิด- 19 เริ่มระบาดทั่วโลกน้อยลง

ขณะที่ นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการค้าในภูมิภาคที่เชื่อมโยงทั้งตลาดและโลจิสติกส์ซึ่งมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยในฐานะตัวแทนของผู้ประกอบการภาคเอกชน ซึ่งมีเครือข่ายครอบคลุม ทั่วประเทศจากหอการค้าในภูมิภาค สมาคมการค้า หอการค้าต่างประเทศ มีสมาชิกกว่า 100,000 ราย และมีนโยบายในการสนับสนุนและช่วยเหลือผู้ประกอบไทย โดยเฉพาะ SMEs ซึ่งในปัจจุบัน SMEs มีจำนวนไม่ต่ำกว่า 95% ของภาคธุรกิจรวมของประเทศ ให้อยู่รอดภายใต้ภาวะวิกฤติโควิด-19 ซึ่งมีผลกระทบตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา

 

ทั้งนี้เชื่อว่าการเกิดขึ้นของศูนย์ค้าส่งครบวงจรตรงนี้จะช่วยให้คู่ค้าสามารถเจรจาธุรกิจได้ตลอด 365 วัน เสริมศักยภาพให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าในภูมิภาคอย่างแท้จริงและเป็นการสร้างโอกาสสำคัญให้คู่ค้าได้มาสรรหา (Sourcing) สินค้าในพื้นที่เดียวทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลา ซึ่งทางสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยยังคงเดินหน้าที่จะช่วยเหลือสนับสนุน SMEs ทั้งซัพพลายเชนต่อไป โดยการแสวงหาตลาด ช่องทาง และเครื่องมือทางธุรกิจใหม่ๆ เพื่อเชื่อมโยง ผู้ผลิต ผู้ค้าปลีก ผู้ค้าส่ง ผู้นำเข้า ผู้ส่งออก รวมถึงผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ เพื่อส่งเสริมการค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างครบวงจร

 

ทางด้านนายอนันต์ ลาภสุขสถิต หัวหน้าคณะกลุ่มโฮลเซลล์ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมว่า โมเดลนี้จะช่วยผู้ประกอบการเปิดพื้นที่กระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มศักยภาพการค้า โดยไม่เก็บค่าเช่าเป็นเวลา 6 เดือน เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในช่วงนี้ อีกทั้งผลักดันให้มีสินค้าจากผู้ผลิตต้นน้ำที่มีคุณภาพในหลากหลายหมวดสินค้า เช่นเฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ตกแต่งภายใน ของเล่น ของชำร่วย เครื่องเขียน ของขวัญ ของตกแต่งบ้าน นวัตกรรมการพิมพ์

อย่างไรก็ตามแนวคิดของ AWC ในการพัฒนาศูนย์ค้าส่งครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค CLMVT (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม ไทย) และเชื่อมโยงไปยังประเทศจีน เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้านานาชาติของอาเซียนครบวงจร ซึ่งปัจจุบันใกล้เสร็จสมบูรณ์วางแผนจะเปิดในต้นปี 2564

 

นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจาก Yiwu หรือ Zhejiang China Commodities City Group Co., Ltd. (CCC Group) ผู้พัฒนาและบริหารตลาดค้าส่งสินค้าเบ็ดเตล็ดที่ใหญ่ที่สุดในโลกจากเมืองอี้อู (Yiwu) ประเทศจีน มาเปิดศูนย์นำเข้าและส่งออกที่โครงการ โดยจะมีศูนย์แสดงสินค้าคุณภาพคัดสรร “Yiwu Selection Thailand Showcase” เพื่อให้โครงการเป็นศูนย์ค้าส่งระดับภูมิภาค ให้ผู้ซื้อจากต่างประเทศได้มาเลือกสินค้าที่ไทย

 

ต้องจับตาต่อไปว่าศูนย์การค้าส่งแห่งนี้ที่จะเปิดตัวเร็ว ๆ ว่าจะอลังการดาวล้านดวงแค่ไหน และจะช่วยผู้ประกอบการไทยให้มีลมหายใจต่อไปได้แค่ไหน รวมถึงว่าจะสร้างรายได้ตามที่ตั้งเป้าไว้หรือไม่ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ที่ทั่วโลกต้องเผชิญ

ปัดฝุ่นพันธุ์ทิพย์สู่อาณาจักรค้าส่งใหม่เฉิดโฉมไฉไลใหญ่สุดอาเซียน !

               

related