svasdssvasds

ทาง 3 แพร่งการเมืองไทย จับตาเก้าอี้ประธานสภา ชี้ชะตา ใครเป็นนายกฯ

ทาง 3 แพร่งการเมืองไทย จับตาเก้าอี้ประธานสภา ชี้ชะตา ใครเป็นนายกฯ

จับตาเก้าอี้ประธานสภา ชี้ชะตา ใครจะเป็นนายกฯ คนต่อไป และจินตนาการทางการเมืองเวอร์ชั่นใหม่ “บิ๊กป้อม” ฟื้นคืนชีพ เป็นคู่ชิงตำแหน่งนายกฯ โดยมี “สุชาติ ตันเจริญ” ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย เป็น “ประธานสภา”

ในวันที่ 28 มิถุนายน ที่จะถึงนี้ อีเวนต์สำคัญที่ต้องจับตาห้ามกระพริบ ก็คือข้อสรุประหว่าง “พรรคก้าวไกล” กับ “พรรคเพื่อไทย” ว่าตำแหน่ง "ประธานสภา" จะเป็นของพรรคใด ที่จะทำให้เห็นแนวโน้มของเก้าอี้นายกฯ โดยมีทาง 3 แพร่ง ดังต่อไปนี้

แพร่งที่ 1 หากได้ข้อสรุป “เพื่อไทย” ยอมให้ “ก้าวไกล” ได้เก้าอี้ประธานสภา

ชั่วโมงนี้ต้องขอบอกว่า การที่ “พิธา” จะได้เป็นนายกฯ มีโอกาสน้อยมาก เพราะด่านสำคัญที่สุด ก็คือ ส.ว. ซึ่งยังไม่มีสัญญาณบวกใดๆ ที่บ่งชี้ว่า จะมี ส.ว. 64 คนขึ้นไปโหวตให้กับ “พิธา” แม้ประเด็น “การถือหุ้นสื่อไอทีวี” จะอ่อนกำลังลงไปแล้ว แต่ก็มีข้ออ้างอื่นๆ ที่สามารถนำมาใช้ได้อีกมากมาย โดยเฉพาะประเด็น “การแก้กฎหมาย ม.112”

ซึ่งถ้าในวันที่ 28 มิถุนายน “ก้าวไกล” กับ “เพื่อไทย” ตกลงกันได้ ให้ “ก้าวไกล” ได้เก้าอี้ “ประธานสภา” และในวันที่ 4 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันโหวตเลือก “ประธานสภา” ไม่มีการเกมหักเหลี่ยมเฉือนคมใดๆ “ก้าวไกล” ได้เก้าอี้ “ประธานสภา” ตามข้อตกลง ก็มั่นใจได้ในระดับหนึ่ง ในการได้เข้าร่วมรัฐบาลของ “พรรคก้าวไกล”   

ช็อตต่อไปในวันโหวตเลือกนายกฯ หาก “พิธา” ไม่ได้รับมติสนับสนุนเกิน 376 เสียงของทั้ง 2 สภา “เพื่อไทย” ในฐานะพรรคอันดับ 2 ก็มีความชอบธรรมที่จะสลับขึ้นมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยเสนอชื่อ “เศรษฐา ทวีสิน” เป็นนายกฯ ในการโหวตรอบ 2 แต่สิ่งที่ต้องลุ้นกันก็คือ จะได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. เพียงพอที่จะทำให้นายกฯ คนต่อไปชื่อ “เศรษฐา ทวีสิน” ได้หรือไม่

ทาง 3 แพร่งการเมืองไทย จับตาเก้าอี้ประธานสภา ชี้ชะตา ใครเป็นนายกฯ

หรือในกรณีที่ “เพื่อไทย” สลับขึ้นมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นอกจาก 8 พรรคที่จับมือกันในเวลานี้แล้ว อาจดึง “พรรคร่วมรัฐบาลเดิม” เข้ามาผสม ซึ่งถ้าเป็น “พรรคภูมิไทย” ก็จะสามารถปิดสวิตช์ ส.ว. ได้เลยทันที เพราะคะแนนเสียงที่สนับสนุนจะพุ่งขึ้นเป็น 383 เสียง แต่สมมตินะ สมมติว่า หาก “ภูมิใจไทย” เล่นแง่ไม่เข้าร่วมด้วย “รัฐบาลเพื่อไทย” ก็ยังไปต่อไม่ได้

แต่ด้วย “ประธานสภา” เป็นคนของ “พรรคก้าวไกล” หากสมมติว่ามีการสมรู้ร่วมคิดดีด “ก้าวไกล” ไปเป็นฝ่ายค้าน ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ นัก เพราะในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ยังไม่เคยมีกรณี “ประธานสภา” เป็นคนของพรรคฝ่ายค้านเลย  

ซึ่งเอาเข้าจริงๆ แล้วคิดว่า “พรรคก้าวไกล” ก็รู้ดีแหละว่า “พิธา” มีโอกาสน้อยมากที่จะได้เป็นนายกฯ แต่การได้เก้าอี้ “ประธานสภา” ก็จะทำให้อุ่นใจได้ระดับหนึ่งว่า มีโอกาสได้เป็นรัฐบาลค่อนข้างแน่นอน   

ทาง 3 แพร่งการเมืองไทย จับตาเก้าอี้ประธานสภา ชี้ชะตา ใครเป็นนายกฯ

บทความที่น่าสนใจ

แพร่งที่ 2 หากได้ข้อสรุป “ก้าวไกล” ยอมให้ “เพื่อไทย” ได้เก้าอี้ “ประธานสภา”

หากการเจรจากันระหว่าง 2 พรรค ได้บทสรุปว่า “พรรคเพื่อไทย” ได้เก้าอี้ "ประธานสภา" ก็จะทำให้ “พรรคก้าวไกล” อยู่ในสภาพขาลอย ไม่มีหลักยึดใดๆ ในการเป็นรัฐบาลเลย ซึ่งสมมตินะ สมมติว่า มีดีลลับสกัด “ก้าวไกล” ไม่ให้เป็นรัฐบาล ขั้นตอนต่างๆ ก็เป็นไปอย่างราบรื่น เรียกได้ว่าถ้ามาทางเวย์นี้ นอกจาก “พิธา” จะหมดโอกาสเป็นนายกฯ แล้ว “ก้าวไกล” อาจถูกบีบหรือดีดไปไปเป็นฝ่ายค้านได้อย่างง่ายดาย

ทาง 3 แพร่งการเมืองไทย จับตาเก้าอี้ประธานสภา ชี้ชะตา ใครเป็นนายกฯ

แพร่งที่ 3 “พลังประชารัฐ” เสนอชื่อ ส.ส.ของ “เพื่อไทย” เข้าชิง “ประธานสภา”

แพร่งที่ 3 นี้ มีความเป็นไปได้ 2 โมเดล โดยโมเดลที่ 1 หากทั้ง “พรรคเพื่อไทย” และ “พรรคก้าวไกล” ตกลงกันไม่ได้ นำไปสู่การฟรีโหวตในวันเลือก “ประธานสภา” ก็มีแนวโน้มสูงว่า คนของพรรคเพื่อไทย จะได้ตำแหน่งนี้ไปครอง โดยได้เสียงสนับสนุนส่วนหนึ่งจาก ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาลเดิม ส่วน “พรรคก้าวไกล” มีโอกาสสูงที่จะถูกบีบหรือดีดให้ไปเป็นฝ่ายค้าน

ส่วนโมเดลที่ 2 ซึ่งกำลังเป็นประเด็นร้อนที่ถูกพูดถึงในเวลานี้ ซึ่งอาจไม่เกิดขึ้นจริง เป็นเพียงอีกจินตนาการทางการเมืองเท่านั้น สมมติว่า ในวันที่ 28 มิถุนายน “ก้าวไกล” และ “เพื่อไทย” ได้ข้อสรุป ชูคนของก้าวไกลเป็นประธานสภา ท่ามกลางความไม่พอใจของ ส.ส.เพื่อไทย จำนวนมาก

ในวันโหวตเลือก “ประธานสภา” สมมติว่า “พรรคพลังประชารัฐ” เสนอชื่อ “สุชาติ ตันเจริญ” ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ขึ้นมาแข่งกับคนของพรรคก้าวไกล ก็มีความเป็นไปได้สูงว่า จะเกิดปรากฏการณ์เสียงแตก โดยจะมี ส.ส.เพื่อไทย ส่วนหนึ่งโหวตให้กับ “สุชาติ” และชนะคนของก้าวไกลไปได้ในที่สุด

ซึ่งถ้ามาทางเวย์ ก็มีแนวโน้มว่า จะเกิดการฟอร์มทีมรัฐบาลใหม่ พรรคหลักๆ จะประกอบด้วย “เพื่อไทย” , “พลังประชารัฐ” และ “ภูมิใจไทย” รวมกับพรรคอื่นๆ ทั้งในฝั่งอนุรักษ์นิยม และเสรีนิยม จนได้เสียง ส.ส. เกิน 250 เสียง สามารถเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากได้เลย ส่วน “ก้าวไกล” ก็ต้องกลายเป็นฝ่ายค้านไปโดยปริยาย และอาจมีเซอร์ไพรส์ มีการเสนอชื่อ “บิ๊กป้อม - พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี

แม้ในแพร่งที่ 3 โมเดลที่ 2 นี้ ดูเป็นไปได้ยาก แทบไม่มีทางที่จะเป็นไปได้ แต่ก็อย่างที่บอก นี่อาจเป็นเพียงจินตนาการทางการเมือง ส่วนจินตนาการจะกลายเป็นเรื่องจริงได้หรือไม่ ก็จับตาและติดตามกันต่อไป

นอกจากนี้ก็ยังมีการพูดถึงโมเดลรัฐบาลเสียงข้างน้อย ซึ่งก็คือพรรคร่วมรัฐบาลเดิมทั้งหมด แม้จะบวกกับเสียง ส.ว. ได้เกิน 376 เสียง แต่ถ้าจะให้ได้รัฐบาลที่มีเสถียรภาพ ก็ต้องอาศัยงูเห่าเป็นจำนวนมากกว่า 60 ชีวิต ดังนั้นจึงมีโอกาสความเป็นไปได้ในระดับที่ยากมากๆ เช่นกัน

related