SHORT CUT
ตั้งเป้าใหญ่ แต่คนทำมีไม่พอ ? อาชีพ “นักวาดอนิเมะ" ในญี่ปุ่นกำลังขาดแคลนอย่างหนัก คนแห่ลาออก ทำงานจนหลับคาโต๊ะ แต่รายได้น้อยกว่าค่าแรงขั้นต่ำ โจทย์ใหญ่ที่ญี่ปุ่นต้องแก้
สำนักข่าว Nikkei Asia รายงานว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ อาชีพ “นักวาดอนิเมะ” ในญี่ปุ่นกำลังเป็นที่ต้องการมาก หลังรัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมส่งออกเนื้อหาสู่ตลาดโลก มูลค่ากว่า 6.2 ล้านล้านเยน หรือราว 1.3 ล้านล้านบาท
ในปี 2023 อุตสาหกรรมอนิเมะสร้างรายได้ให้ประเทศญี่ปุ่นมากถึง 3.3 ล้านล้านเยน หรือราว 7.4 แสนล้านบาท (1.72 ล้านล้านเยนมาจากต่างประเทศ) เป็นปีแรกที่อุตสาหกรรมนี้มีรายได้รวมทะลุ 3.3 ล้านล้านเยน แต่เชื่อหรือไม่ว่า ญี่ปุ่นมีนักวาดอนิเมะแค่ราว ๆ 6,000 คนเท่านั้น
ทุกคนรู้ดีว่าอนิเมะจากญี่ปุ่นยอดเยี่ยมแค่ไหน เมื่อพูดถึงอนิเมะใคร ๆ ก็ต้องนึกถึงญี่ปุ่นเป็นชื่อแรก รัฐบาลญี่ปุ่นตั้งเป้าไว้ว่าภายในปี 2030 อุตสาหกรรมอนิเมะต้องกวาดรายได้รวม 20 ล้านล้านเยน หรือราว 4.4 ล้านล้านบาท (รวมวิดีโอเกมด้วย)
ประเด็นก็คือคนในแวดวงอุตสาหกรรมอนิเมะมีความกังวลว่าญี่ปุ่นจะประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานในเร็ว ๆ นี้ ด้วย 2 เหตุผลหลัก อย่างแรกคือ คนไม่พอ โยสุเกะ ยาซุอิ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจากสถาบันวิจัยญี่ปุ่น คาดการณ์ว่า อุตสาหกรรมนี้ต้องการอนิเมเตอร์และครีเอทีฟเพิ่ม อีก 30,000 คน จึงจะเพียงพอตามเป้าหมายของรัฐบาล
อย่างที่สองคือ สภาพการทำงานที่ย่ำแย่ เช่น เวลาการทำงาน ค่าตอบแทน ฯลฯ นักวาดอนิเมะส่วนใหญ่ได้รับค่าจ้างประมาณ 1,300 เยน/ชั่วโมง หรือราว 300 บาท แม้จะสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำในญี่ปุ่น แต่ยังต่ำกว่าอาชีพอื่น ๆ ที่ได้รับค่าจ้างเฉลี่ย 2,400 เยน/ชั่วโมง หรือราว 540 บาท
จากการสำรวจของ Nippon Anime & Film Culture Association (NAFCA) พบว่า อนิเมเตอร์กว่า 45% มีรายได้น้อยกว่า 2.4 ล้านเยน/ปี หรือราว 5.4 แสนบาท ในรายของรุ่นใหญ่ได้รับค่าตอบแทนกันอยู่แถว ๆ 1 ล้านเยน/ปี หรือราว 2.2 แสนบาท
และที่สำคัญคือ ส่วนใหญ่ทำงานในฐานะฟรีแลนซ์ภายใต้สัญญาจ้าง มีเพียงไม่กี่เปอร์เซนต์เท่านั้นที่สามารถฝ่าฟันและพิสูจน์ฝีมือจนสามารถถูกจ้างในฐานะพนักงานประจำ การแข่งขันยิ่งสูงขึ้นในบริษัทผลิตอนิเมะชื่อดังของประเทศ
ด้วยเหตุนี้ บรรดาอนิเมเตอร์หน้าใหม่จึงไม่ค่อยได้รับโอกาส เพราะบรรดารุ่นใหญ่ก็เหนื่อยที่จะสอนงาน และหน่ายที่ต้องมาตามแก้ไขข้อผิดพลาดในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งมีความสำคัญมาก กระแสอนิเมเตอร์รุ่นใหม่ในญี่ปุ่นจึงมองไม่ค่อยเห็นโอกาสในการก้าวหน้าในอาชีพการงาน
ด้วยเหตุผล 2 ข้อนี้ โยสุเกะ ยาซุอิ คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมอนิเมะในญี่ปุ่น จะมีคนทำงานลดลงจากเดิม 6,000 เหลือเพียงแค่ 4,562 คนในปี 2050 นี่ยังไม่รวมถึงบรรดานักวาดรุ่นเก๋าที่เตรียมตัวจะวางปากกาในเร็ว ๆ นี้
ทาดาชิ ซูโดะ นักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมอนิเมะญี่ปุ่น แสดงทรรศนะไว้ว่า “เนื่องจากอนิเมะมีลายเส้น และการสร้างที่ละเอียดมากขึ้น จึงต้องการพนักงานเพิ่ม สมัยนี้ ไม่สามารถอาศัยแรงจากอนิเมเตอร์ทักษะสูงอย่างเดียวได้อีกต่อไปแล้ว แต่พนักงานระดับกลางที่ดูแลงานพื้นฐานก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน”
หนึ่งในโมเดลที่อุตสาหกรรมอนิเมะญี่ปุ่นทำกันอยู่คือ ให้ทุนกับนักวาดหน้าใหม่ เพื่อฝึกปรือฝีมือ เรียนรู้การทำงานจากรุ่นเก๋า ยกตัวอย่างเช่น บริษัท TMS Entertainment สตูดิโอแอนิเมชันที่มีชื่อเสียงอันดับต้น ๆ ในญี่ปุ่น ให้ทุนนักวาดรุ่นใหม่ 5 คน/ปี โดยมีเงินเดือนให้ 150,000 เยน/เดือน หรือราว 3.3 หมื่นบาท สำหรับใช้ดำรงชีพ
โปรแกรมการฝึกคือ จันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึง 19.00 น. เมื่อจบโปรแกรมแล้ว ทางบริษัท TMS จะพิจารณาจ้างอนิเมเตอร์รุ่นใหม่ และให้เงินเดือนราว 250,000 เยน/เดือน หรือราว 5.6 หมื่นบาท
ไอนะ ซูงิซาวะ หนึ่งในอนิเมเตอร์รุ่นใหม่ชาวญี่ปุ่น เธอชื่นชอบการวาดอนิเมะมาตั้งแต่ยังเยาว์ แต่เกือบล้มเลิกความฝันไป เพราะเงินเดือนน้อย กระทั่งได้มาเจอกับโปรแกรมฝึกของ TMS จึงเข้าร่วม และก่อรูปความฝันขึ้นมาอีกครั้ง
สังเกตว่ายังไม่มีท่าทีหรือนโยบายจากฝ่ายรัฐบาลญี่ปุ่นในการแก้ปัญหาดังที่ได้กล่าวมา เพื่อให้อุตสาหกรรมอนิเมะ ซึ่งเปรียบเสมือนเป็น “หน้าตาของประเทศ” ให้ดีขึ้น เพราะจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย หากตั้งเป้าหมายไว้สูงลิบ แต่คนทำงานยังได้ค่าตอบแทนต่ำ
ที่มา: Nikkei Asia
ข่าวที่เกี่ยวข้อง