svasdssvasds

กรมวิทย์ เผย โควิด XBB.1.16 พบในไทยตั้งแต่ มี.ค. รวม 27 ราย ยันไม่แรงเท่าเดลตา

กรมวิทย์ เผย โควิด XBB.1.16 พบในไทยตั้งแต่ มี.ค. รวม 27 ราย ยันไม่แรงเท่าเดลตา

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยโควิด-19 สายพันธุ์ XBB.1.16 พบในประเทศไทยตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม 22 ราย โดยล่าสุดพบเพิ่มอีก 5 ราย รวม 27 ราย ยันไม่แรงเท่าเดลตา เผยข้อมูลจากอินเดียพบอาการคล้ายกับไข้หวัดใหญ่

 นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงรายละเอียดเกี่ยวกับสายพันธุ์โควิด 19 ในประเทศไทย โดยระบุว่า สถานการณ์ทั่วโลกและในประเทศไทย สายพันธุ์หลักที่ระบาด ยังเป็นสายพันธุ์  XBB.1.5 ตรวจพบใน 95 ประเทศและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

 ส่วนสายพันธุ์ XBB.1.16 และ XBB.1.9.1 ก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดย XBB.1.16 พบแล้ว 29 ประเทศ  ส่วน  XBB.1.9.1 พบใน 61 ประเทศ

 โควิดสายพันธุ์ XBB.1.16 มีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้น แต่คุณสมบัติด้านการหลบภูมิคุ้มกัน ยังคงเหมือนกับสายพันธุ์ XBB และ XBB.1.15 โดยสายพันธุ์ XBB.1.16 มีรายงานพบครั้งแรกที่ประเทศอินเดีย เมื่อเดือน ม.ค. ซึ่งพบผู้ติดเชื้อมากที่สุด รองลงมาคือสหรัฐอเมริกา  

โดยเมื่อเปรียบเทียบระหว่างสายพันธุ์ XBB.1.15 กับ XBB.1.16 พบว่าสายพันธุ์ XBB.1.16  มีตำแหน่งการกลายพันธุ์บนโปรตีนหนามต่างกัน โดยเป็นลูกผสมของสายพันธุ์ BA.2.10.1 และ BA.2.75  ซึ่งความสามารถในการแพร่กระจาย อาจจะแพร่ได้เร็วกว่า XBB.1.15 เล็กน้อย แต่ยังไม่มีหลักฐานแสดงว่า ส่งผลต่อความรุนแรงของโรค เช่น อาการที่หนักขึ้นจนถึงเสียชีวิต  

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• อาการโควิด "XBB.1.16" น่ากลัวแค่ไหน ผู้ป่วยมีอาการอะไรบ้าง เช็กเลยที่นี่

• ระวัง! โควิด XBB.1.16 สายพันธุ์ใหม่ เช็กอาการ ความรุนแรง พบในไทยแล้ว

• หนุ่มไทยในต่างแดน เผยติดโควิด-19 ครั้งแรก คาดสายพันธุ์ XBB.1.16 ทำตาอักเสบ

 ส่วนอาการหลักของ XBB.1.16 ที่พบคือ จะมีอาการทางระบบทางเดินหายใจ มีไข้ ไอ เจ็บคอ และมีข้อสังเกต คือ พบผู้ป่วยที่มีอาการเยื่อบุตาอักเสบ คันตา ขี้ตาเหนียว ลืมตาไม่ขึ้น

ซึ่งในประเทศอินเดีย อาการนี้มักพบในเด็ก  นอกจากนี้ ผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 สามารถติดเชื้อสายพันธุ์นี้ซ้ำได้ 

 สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของสายพันธุ์ XBB.1.16 ในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 8-14 เม.ย. พบผู้ป่วยเพิ่มจากเดิม 5 ราย ซึ่งก่อนหน้านี้ในช่วงเดือนมีนาคม พบผู้ติดเชื้อแล้ว 22 ราย รวมเป็น 27 ราย มีทั้งผู้ที่ติดเชื้อจากในประเทศและต่างประเทศ โดยมี 1 คน เป็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศอินเดีย และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชาวต่างชาติ อายุมากกว่า 80 ปี ซึ่งอาจจะมีเรื่องของโรคประจำตัวร่วมด้วย    

 ส่วนการพบสายพันธุ์ XBB.1.9.1 มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 5.1% เป็น 15% ขณะที่สายพันธุ์เดิมเริ่มมีจำนวนลดลง

 

 

 อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยืนยันว่า โควิดสายพันธุ์ XBB.1.16 สามารถตรวจคัดกรองได้ด้วยชุดตรวจ RT-PCR และชุดตรวจ ATK ซึ่งสามารถตรวจคัดกรองได้ครอบคลุมทุกสายพันธุ์ ทั้งโอมิครอนและลูกผสม แต่บางกรณีที่ตรวจ ATK ไม่พบ ก็อาจจเกิดจากผลตรวจลวง หรือ ชุดตรวจ ATK มีปัญหา เป็นต้น   

 ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า สายพันธุ์ XBB.1.16 จะไม่มีอาการไข้นั้น ไม่เป็นความจริง  เพราะจากรายงานของประเทศอินเดีย พบว่าผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ XBB.1.16 จะมีอาการคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ ส่วนอาการเยื่อบุตาอักเสบ มักพบในเด็ก และอาการของผู้ป่วยจะไม่รุนแรงเท่าสายพันธุ์เดลตา

 ส่วนการแพร่กระจาย พบว่ามีสัญญาณบางอย่างว่า อาจจะแพร่กระจายเชื้อได้เร็วกว่าเดิมเล็กน้อย แต่ยังต้องมีการตรวจพิสูจน์และเฝ้าสังเกตการณ์อีกระยะ ส่วนการหลบภูมิคุ้มกันนั้น มีต่างกับสายพันธุ์เดิมและไม่มีหลักฐานว่าจะทำให้อาการป่วยรุนแรงขึ้น

 หลังจากนี้ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จะเก็บตัวอย่างผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จากทั่วประเทศมาตรวจสายพันธุ์เพิ่ม ทั้งผู้ป่วยชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะรายที่มีอาการรุนแรง หรือเสียชีวิต  เพื่อเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ต่อไป  ส่วนมาตรการป้องกันส่วนบุคคล ก็เหมือนเดิม คือ ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ซึ่งสามารถฉีดได้ทุกยี่ห้อทุกรุ่น เพื่อช่วยลดการแพร่เชื้อและรับเชื้อจากการเข้าร่วมกิจกรรมที่มีความเสี่ยง

 ส่วนกรณีที่จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มขึ้น เนื่องจากไทยมีการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวและมีการทำกิจกรรมต่างๆ ตามปกติแล้ว  แต่ย้ำว่าประชาชนไม่ต้องตระหนกตกใจ และทางกระทรวงสาธารณสุข ยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์โควิด-19 ของทุกสายพันธุ์อย่างใกล้ชิด

related