svasdssvasds

ระวัง! "ทองปลอม" แบบใหม่ ใช้ผงโลหะทังสเตนผสม ไม่สามารถแยกได้ด้วยตาเปล่า

ระวัง! "ทองปลอม" แบบใหม่ ใช้ผงโลหะทังสเตนผสม ไม่สามารถแยกได้ด้วยตาเปล่า

สถาบันอัญมณีฯ เตือนภัยพบ "ทองคำปลอม" รูปแบบใหม่ ใช้ผงโลหะทังสเตน ไปผสมในทองคำ หรือยัดไส้ ส่งผลให้ตรวจสอบได้ยาก แนะซื้อทองคำไว้ใช้หรือเพื่อลงทุน ควรซื้อจากร้านที่ได้ใบรับรองคุณภาพจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้

ในปัจจุบันราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นตลอดเวลา โดยทำสถิติสูงขึ้นสูงสุดในรอบหลายปี ทำให้มีการฉวยโอกาสนำทองคำปลอมมาหลอกขายในรูปแบบต่างๆ เหตุผลหลักอาจเป็นเพราะประชาชนมีความต้องการซื้อทองคำเพิ่มขึ้น ทั้งการซื้อเก็บเพื่อสะสมเป็นทรัพย์สิน ซื้อเก็บไว้เป็นมรดกให้กับลูกหลานในอนาคต หรือการซื้อเพื่อเก็งกำไร ทำให้มีคนฉวยโอกาสเกิดขึ้น

กลโกงใหม่ในการขายทองคำปลอม

นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT เปิดเผย ว่า ได้รับรายงานพบกลโกงใหม่ในการขายทองคำปลอม โดยมิจฉาชีพจะนำผงโลหะทังสเตน ซึ่งมีน้ำหนักใกล้เคียงกับทองคำไปผสมในก้อนโลหะทองคำ และหลอมเป็นทองคำ รวมถึงทำเป็นตัวเรือน โดยนิยมทำเป็นลักษณะทองรูปพรรณเก่าเก็บ

ทำให้ผู้รับซื้อไม่สามารถแยกได้ด้วยตาเปล่า เพราะการตรวจสอบทั่วไปและการตรวจสอบจากห้องปฏิบัติการตรวจสอบขนาดเล็ก ที่มีเครื่องมือไม่เพียงพอ จะตรวจสอบส่วนผสมได้ยาก

การตรวจสอบว่าเป็นทองคำแท้ จะต้องนำไปหลอมเพื่อแยกธาตุเคมี หรือการตัดก้อนทองคำ เพื่อดูความเป็นเนื้อเดียวกัน หากเป็นทองแท้ เมื่อตัดเนื้อทองออกมา จะเห็นได้ว่าผิวที่ตัด มีความเป็นเนื้อเดียวกัน มันวาวเป็นประกายทองคำ แต่หากตัดผ่าก้อนทองคำแล้วเห็นว่ามีการแยกตัวของชั้นโลหะ มั่นใจได้เลยว่าผสมโลหะอื่นๆแน่นอน

โดยมีการปลอมทองคำในรูปแบบต่างๆ เช่น

  • ทองเกรด A
  • ทองไมครอน
  • ทองโคลนนิ่ง
  • ทองยัดไส้
  • เครื่องประดับทองปลอม

ล่าสุดการนำผงทังสเตนมาใส่ไว้ด้านใน โดยด้านนอกเป็นทองคำแท้ ยิ่งทำให้ตรวจสอบยากขึ้น และมีร้านทองคำ มีโรงรับจำนำ ที่ถูกหลอกขายทองคำปลอมเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน

เลือกซื้อทองจากร้านที่ได้ใบรับรองคุณภาพจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้

ในการซื้อขายทองคำ หรือต้องการซื้อทองคำเพื่อลงทุน GIT มีข้อแนะนำให้เลือกซื้อจากร้านค้าที่ได้ใบรับรองคุณภาพจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าสินค้าที่ซื้อไปมีคุณภาพ มาตรฐาน หรือเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ในโครงการซื้อด้วยความมั่นใจ ผ่านใบรับรอง GIT หรือที่รู้จักในชื่อโครงการ Buy With Confidence (BWC) เพราะร้านเหล่านี้มั่นใจได้ว่าขายสินค้าดี มีคุณภาพถูกต้องตามมาตรฐานที่กำหนด

 8 วิธีการตรวจสอบทองคำในเบื้องต้น 

  1. ดูขนาดของทอง วิธีนี้ต้องใช้การสังเกตให้ดี ต้องรู้ว่าทองคำหนัก 1 บาท หรือ 2 บาทนั้น ควรมีขนาดแค่ไหน น้ำหนักกับขนาดต้องสอดคล้องกัน ถ้าบอกหนัก 1 บาทแต่มีขนาดใหญ่มากก็ให้ระวังไว้เลยว่าอาจเป็นทองปลอมได้
  2. วัดจากน้ำหนักของทองคำ วิธีนี้ถ้าไม่มีเครื่องชั่งก็ต้องมีทองคำแท้อีกชิ้นหนึ่งไว้เทียบกัน เพราะทองคำแท้ไม่ว่าจะเส้นใหญ่หรือเส้นเล็ก ถ้าน้ำหนัก 1 บาท ก็จะมีน้ำหนักเท่ากันเสมอ 
  3. ดูที่ตราหรือโลโกร้าน ใช้แว่นขยายส่องดูตามข้อหรือห่วงของทอง ทองแท้ทั่วไปจะมีการตีตราร้านไว้อย่างชัดเจนเพื่อเป็นการการันตี บอกแหล่งที่มา หรือมีการตอกตัวเลขบอกความบริสุทธิ์ของทองไว้ด้วย เช่น 14k 18k 22k 24k  ถ้าตรานั้นเบลอ ไม่ชัดเจน ก็ให้ระวังไว้ก่อนว่าอาจเป็นของปลอม ให้หลีกเลี่ยงการซื้อทองที่มีลักษณะนี้
  4. หยดด้วยน้ำกรดไนตริก ทองคำแท้เมื่อหยดด้วยกรดไนตริก จะไม่เกิดปฏิกิริยา ไม่เปลี่ยนสี หรือหลอมละลาย แต่ถ้าทองคำนั้นมีโลหะอื่นผสม เช่น ทองแดง ก็จะละลายไปอย่างเห็นได้ชัดเจน วิธีนี้อาจทำได้ยาก หรือต้องทำที่ร้านทอง เพราะกรดไนตริก หาซื้อไม่ได้ตามร้านค้าทั่วไป
  5. ทดสอบโดยใช้แม่เหล็ก ถ้าใช้แม่เหล็กแล้วดูดติดทันที ทองเส้นนั้นเป็นทองปลอมแน่นอนเพราะใส่เหล็กในปริมาณมาก แต่ถ้าเป็นทองคำแท้แม่เหล็กจะดูดไม่ติด
  6. ดูจากรอยต่อหรือจุดที่ทองเสียดสีกัน วิธีนี้สามารถใช้แว่นขยายดูตามรอยต่อหรือจุดเสียดสี ถ้าเป็น "ทองคำแท้" จะไม่มีรอยถลอก ลอก หรือเปลี่ยนสี แต่ถ้าเป็นทองคำชุบหรือทองปลอม ตามรอยต่อเหล่านี้จะเกิดการลอกหรือถลอกได้
  7. ทดสอบโดยการกัดด้วยฟัน ทองคำแท้จะมีความแข็งไม่มาก ถ้ากัดก็จะเกิดรอยบุ๋มเห็นได้ชัด แต่ถ้าเป็นทองปลอม ทองผสมเหล็กหรือทองแดง หรือทองชุบ จะแข็งมาก กัดแล้วไม่เกิดรอยบุ๋ม

  8. โยนลงบนกระจก ทองคำเป็นโลหะที่มีเนื้อนุ่ม ไม่แข็งเหมือนเหล็กหรือทองแดง ถ้าโยนไปกระทบกับกระจกจะได้ยินเสียงกระทบกันแบบนุ่มๆ ไม่มีเสียงแหลม ไม่ดัง แต่ถ้าเป็นทองปลอมเสียงจะดัง แก๊งๆ อย่างชัดเจน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

 

related