svasdssvasds

ส่องสถิติชาวเน็ต ถกปม #แบนเที่ยวเกาหลี บนโลกโซเชียล โต้ตอบกันถล่มทลาย

ส่องสถิติชาวเน็ต ถกปม #แบนเที่ยวเกาหลี บนโลกโซเชียล โต้ตอบกันถล่มทลาย

ร้อนแรงไม่หยุดกับ #แบนเที่ยวเกาหลี หลังมีชาวไทยถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศเกาหลีใต้และมาแชร์ความผิดหวังผ่านแฮชแท็กดังกล่าวบน X (Twitter) มากมาย 

#แบนเที่ยวเกาหลี

ส่องสถิติชาวเน็ต ถกปม #แบนเที่ยวเกาหลี บนโลกโซเชียล โต้ตอบกันถล่มทลาย

บริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัด จึงได้ทำการเก็บข้อมูลตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม - 7 พฤศจิกายน 2566 ผ่านเครื่องมือ ZOCIAL EYE พบว่า มีการพูดถึงเรื่อง #แบนเที่ยวเกาหลี บนโลกโซเชียลมากกว่า 12,000 ข้อความ และกวาดเอ็นเกจเมนต์รวม 3.7 ล้านเอ็นเกจเมนต์ เฉลี่ยมีเอ็นเกจเมนต์สูงถึง 300,000 เอ็นเกจเมนต์ต่อวัน โดยมาจากช่องทาง X เป็นหลัก คิดเป็น 90% และช่องทางอื่นๆ 10% 

ส่องสถิติชาวเน็ต ถกปม #แบนเที่ยวเกาหลี บนโลกโซเชียล โต้ตอบกันถล่มทลาย

เมื่อดูสถิติการพูดถึง พบว่า 75% เป็นผู้หญิง และถูกพูดถึงในช่วงวัย 18-24 ปีมากกว่า 50% เนื้อหาที่พูดถึงเกี่ยวข้องกับ 3 ประเด็นหลัก คือ

1.มาตรฐานการคัดเลือกคนของตม.

ประเด็นที่ถูกพูดถึงเป็นส่วนใหญ่คือ มาตรฐานการคัดเลือกคนเข้าประเทศของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของประเทศเกาหลี มีนักท่องเที่ยวชาวไทยหลายคนโพสต์ว่าตนเองต้องการจะไปเที่ยวจริงๆ ทำแผนการท่องเที่ยวเรียบร้อย แต่ถูกตม.เพ่งเล็ง และไม่ฟังคำอธิบาย อีกทั้งยังตัดสินและส่งกลับประเทศ มองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากเรื่องการจัดการแรงงานลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายที่ควรเข้มงวดมากกว่านี้ และให้ศึกษาประเทศที่ให้ฟรีวีซ่าไทย เพราะไม่ได้ส่งคนไทยกลับเยอะขนาดนี้

ส่องสถิติชาวเน็ต ถกปม #แบนเที่ยวเกาหลี บนโลกโซเชียล โต้ตอบกันถล่มทลาย

 

 

 

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นการปฏิบัติตนต่อนักท่องเที่ยวไทยของตม. ทั้งพูดจาไม่ดีและหงุดหงิด มีเคสการถูกยึดโทรศัพท์และอ่านแชทส่วนตัวที่ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เคสถูกอดข้าวตลอด 24 ชั่วโมง ลงท้ายด้วยการเปรียบเทียบการไปท่องเที่ยวในประเทศใกล้ๆ อย่างญี่ปุ่น และไต้หวัน ที่หากเลือกได้คงไปสองประเทศนี้แทน

2.การเหยียดเชื้อชาติของคนเกาหลี

อีกหนึ่งประเด็นร้อนแรงบน X ที่ถูกพูดถึงคือเรื่อง การเหยียดเชื้อชาติ ชาว X มีมาแชร์ว่าบนพื้นที่โซเชียลของชาวเกาหลีเองมีการเหยียดคนไทยให้เห็นอยู่บ้าง โดยเหยียดตั้งแต่เรื่องภาพลักษณ์, สีผิว, LGBTQ​+, ลอกเลียนแบบวัฒนธรรมเกาหลี เช่น T-POP ที่เหมือน K-POP หรือหมูกระทะที่เลียนแบบหมูย่างเกาหลี ไปจนถึงมองว่าไทยเป็นประเทศด้อยพัฒนา ซึ่งมีหลายคนเข้าไปแสดงความไม่พอใจกับสิ่งนี้ พร้อมแนะนำให้เลิกสนับสนุนอุตสาหกรรมจากประเทศเกาหลีในทุกรูปแบบ

3.สงครามชาวโซเชียลไทย vs เกาหลี

อีกหนึ่งเอกลักษณ์ของชาวโซเชียลไทยคือ หากมีใครมารุกราน เราก็พร้อมสู้! ชาวไทยมีความครีเอทีฟสูงในเรื่องการด่า ทั้ง “เป็นแค่ประเทศที่ดองผัก เพราะไม่มีจะกิน อย่ามาแหยมกับประเทศที่ดองเพราะกินไม่ทัน”, “อย่างน้อยประเทศไทยก็มี

ส่องสถิติชาวเน็ต ถกปม #แบนเที่ยวเกาหลี บนโลกโซเชียล โต้ตอบกันถล่มทลาย

ภาคเหนือ”, “ออกเสียง F ให้ได้ก่อน” เรียกได้ว่า ทั้งเจ็บ ทั้งฮา ก็ต้องมาจากชาวโซเชียลไทยนี่แหละ เอเนอร์จี้เรียกว่าไม่แพ้ชาติใดในโลกจริงๆ 

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ชาวโซเชียลยังคงคาดหวังให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เร่งหารือแนวทางแก้ไขปัญหาเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวไทยในการเดินทางไปสัมผัสบรรยากาศ และประสบการณ์ท่องเที่ยวเกาหลีอย่างประทับใจในอนาคต

 

 

related