svasdssvasds

ข้อแนะนำ เมื่อใช้รถไฟฟ้า EV เกิดอุบัติเหตุ ควรทำอย่างไรเพื่อความปลอดภัย

ข้อแนะนำ เมื่อใช้รถไฟฟ้า EV เกิดอุบัติเหตุ ควรทำอย่างไรเพื่อความปลอดภัย

เปิดข้อแนะนำ เมื่อใช้รถไฟฟ้า EV เกิดอุบัติเหตุรุนแรงถึงขั้นส่งผลต่อระบบไฟฟ้า ต้องทำอย่างไรเพื่อความปลอดภัย

ตลาดรถไฟฟ้า EV ในปัจจุบันกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยราคาและความประหยัดแถมเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกใช้ 

และด้วยความนิยมในการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้หลายคนให้ความสนใจในเรื่องการทําประกันภัยรถยนต์ของรถไฟฟ้า เพื่อให้ผู้ใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้ามีความมั่นใจและปลอดภัย ในการใช้รถฯ และในการคุ้มครองรถยนต์จากอุบัติเหตุ 

ข้อแนะนำเบื้องต้นเพื่อเป็นแนวทางในการดูแลเรื่องความปลอดภัยในขณะใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเมื่อเกิดอุบัติเหตุที่รุนแรงถึงขั้นส่งผลต่อระบบไฟฟ้า ดังต่อไปนี้

ข้อแนะนำ เมื่อใช้รถไฟฟ้า EV เกิดอุบัติเหตุ ควรทำอย่างไรเพื่อความปลอดภัย

  • รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเกิดอุบัติเหตุและเสียหายถึงระบบไฟฟ้าไม่สามารถขับเคลื่อนได้ ขอให้หลีกเลี่ยงการเคลื่อนย้ายรถเอง

รถยนต์พลังงานไฟฟ้าบางรุ่นเมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้ว ล้อรถยนต์จะล็อกเองโดยทันที รถไม่สามารถเคลื่อนได้ ดังนั้นจะต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญในการเคลื่อนย้ายรถอย่างถูกวิธีเช่นกัน

  • เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ไม่ควรรีรอให้นำกุญแจรถออกห่างรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างเร่งด่วน

หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า สิ่งที่ควรจดจำคือ ให้นำกุญแจรถออกห่างจากตัวรถยนต์เกินกว่า 5 เมตร รวมถึงให้ถอดขั้วแบตเตอรี่ 12 โวลต์ออก เพื่อเป็นการตัดระบบไฟฟ้าภายในและตัดการทำงานของแบตเตอรี่ก่อนสร้างความเสียหายรุนแรง

  • กรณีถุงลมนิรภัยระเบิดเองหรือระบบไฟฟ้าไม่ยอมตัด สามารถจัดการได้

หากถุงลมนิรภัยเกิดระเบิดแบบไม่ทันตั้งตัว และระบบไฟฟ้าของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าไม่ยอมตัดไฟ ให้ตั้งสติพร้อมนำกุญแจรถออกห่างจากตัวรถเกินกว่า 5 เมตร เพื่อตัดระบบไฟฟ้าโดยทันที และประสานงานกับเจ้าหน้าที่เพื่อยกรถยนต์ไฟฟ้าไปยังศูนย์ซ่อมที่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุที่สุดโดยใช้รถบรรทุกพื้นเรียบพร้อมล้อสะเก็ต กรณีฉุกเฉินไม่สามารถซ่อมได้ ณ จุดเกิดเหตุ

  •  วางแผนพร้อมรับมือกับอุบัติเหตุบนท้องถนนทุกรูปแบบ

อุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดและสามารถพบเจอได้ทุกวัน ดังนั้น การเตรียมความพร้อมและวางแผนล่วงหน้าสำหรับการลดอุบัติเหตุได้อย่างครอบคลุม อย่างการตรวจสอบและหมั่นสังเกตสัญญาณเตือนแบตเตอรี่ต่ำของรถอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันปัญหารถดับกลางทาง หรือการมองหาแผนประกันอุบัติเหตุรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เพื่อคุ้มครองตนเองและคนที่รักได้อย่างปลอดภัยด้วย แอกซ่า ประกันรถยนต์ชั้น 1 สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็น Electric Vehicle (EV) หรือ Plug-in Hybrid Electric Vehicle (PHEV)

แอกซ่าประกันภัย

โดยจุดเด่นของการซื้อประกันรถยนต์พลังงานไฟฟ้าชั้น 1 (EV และ PHEV) กับแอกซ่าประกันภัยฯ คือ ให้ความคุ้มครองเต็มที่จากประกันรถยนต์ชั้น 1 ซื้อผ่านออนไลน์ได้ง่ายภายใน 3 นาที รับกรมธรรม์ทันทีผ่านอีเมล คุ้มครองทุกภัยทั้งรถ ผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และคู่กรณี รวมถึงรถสูญหาย รถไฟไหม้ และภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม แผ่นดินไหว พายุ หรือ ลูกเห็บ เพิ่มความพิเศษด้วยความคุ้มครองความเสียหาย หรือสูญหายต่อเครื่องชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่บ้าน / สายชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และความรับผิดต่อบุคคลภายนอกจากอุบัติเหตุ เนื่องจากการใช้งานเครื่องชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่บ้าน และสถานีชาร์จสาธารณะ สามารถเลือกซ่อมศูนย์ (ซ่อมห้าง) สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าอายุไม่เกิน 5 ปี พร้อมรับส่วนลดเบี้ยประกัน เมื่อเลือกแผนระบุผู้ขับขี่ และคุ้มครองอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติมมาตรฐานจากโรงงาน สูงสุดถึง 20,000 บาท/ครั้ง

ทั้งนี้ ยังมีบริการพิเศษไม่เสียค่าใช้จ่ายสำหรับตรวจสภาพรถ บริการ AXA Roadside Service ช่วยเหลือฉุกเฉินทุกที่ทุกเวลา ตลอด 24 ชม. ตลอดจนสิทธิพิเศษ AXA 4 U ไม่หักค่าเสื่อมราคา 4 รายการหลัก ในกรณีความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุที่เกิดความเสียหายต่อยาง แบตเตอรี่ (ยกเว้นแบตเตอรี่ที่ใช้สำหรับใช้กับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า) น้ำมันเครื่อง สารหล่อลื่น สารหล่อเย็นของระบบแอร์ และระบบเครื่องเสียงที่ติดตั้งมาจากโรงงานผลิตรถยนต์ ซึ่งทุกบริการได้รับการออกแบบและคิดค้นเพื่อผู้ขับขี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้อย่างรอบด้าน พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ในการดำเนินชีวิตอย่างแท้จริง

*เงื่อนไขการรับประกันภัยและความคุ้มครองเสริมเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related