svasdssvasds

สว.ชี้ "ทักษิณ" ถูกพักโทษ เชื่อรู้ตัวเองดีหรือชั่ว แขวะ "เศรษฐา'' ดาวไร้แสง

สว.ชี้ "ทักษิณ" ถูกพักโทษ เชื่อรู้ตัวเองดีหรือชั่ว แขวะ "เศรษฐา'' ดาวไร้แสง

''กิตติศักดิ์'' เหนื่อยใจ ''ทักษิณ'' ถูกพักโทษ เชื่อรู้ตัวเองทำดีหรือชั่ว มั่นใจป่วยทิพย์ แขวะ "เศรษฐา'' กลายเป็นดาวไร้แสง สมชาย แนะ ป.ป.ช.เดินหน้าตรวจสอบ จนท.รัฐ เอื้อทักษิณกลับบ้าน จี้ รพ.ตร.แจงอาการป่วยทักษิณให้สังคมคลายสงสัย

SHORT CUT

  • "กิตติศักดิ์'' เหนื่อยใจ ''ทักษิณ'' ถูกพักโทษ เชื่อรู้ตัวเองทำดีหรือชั่ว มั่นใจป่วยทิพย์  แขวะ "เศรษฐา'' กลายเป็นดาวไร้แสง
  • สมชาย แนะ ป.ป.ช.เดินหน้าตรวจสอบ จนท.รัฐ เอื้อทักษิณกลับบ้าน จี้ รพ.ตร.แจงอาการป่วยทักษิณให้สังคมคลายสงสัย
  • "ชูศักดิ์" ชี้กระบวนการพักโทษทักษิณไม่ได้ทำให้สังคมบิดเบี้ยว ไม่ผิดมาตรฐาน ยืนยัน สส.ขอเข้าพบขอความรู้ได้

''กิตติศักดิ์'' เหนื่อยใจ ''ทักษิณ'' ถูกพักโทษ เชื่อรู้ตัวเองทำดีหรือชั่ว มั่นใจป่วยทิพย์ แขวะ "เศรษฐา'' กลายเป็นดาวไร้แสง สมชาย แนะ ป.ป.ช.เดินหน้าตรวจสอบ จนท.รัฐ เอื้อทักษิณกลับบ้าน จี้ รพ.ตร.แจงอาการป่วยทักษิณให้สังคมคลายสงสัย

นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับการพักโทษ และกลับไปพักที่บ้านพักแล้วว่า  รู้สึกเหนื่อยใจ และเคยบอกแล้วว่า นายทักษิณ จะกลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่หลายเรื่องต้องบันทึกไว้ในโลกนี้ และเชื่อว่านายทักษิณ จะได้รับกรรม และตกนรกทั้งเป็น ที่ใจตัวเองย่อมรู้ว่า ทำดี หรือทำชั่ว  

ส่วนเรื่องอาการป่วยของนายทักษิณ ที่จนถึงตอนนี้ยังไม่ชัดเจนนั้น นายกิตติศักดิ์ เชื่อว่า ประชาชนทั่วไป หากมีใจเป็นกลาง ก็ทราบได้ว่า นายทักษิณไม่ได้ป่วยจริง แต่ก็ไม่สามารถปรักปรำได้ เพราะนายทักษิณดำเนินการตามช่องทางของกฎหมาย ซึ่งคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา จะขอหารือการตรวจสอบของ กรมราชทัณฑ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จากกรณีที่นายทักษิณ ถูกคำพิพากษาในคดีทุจริต จนหนีไปต่างประเทศ

แต่เมื่อกลับมาแล้ว กลับไม่ถูกจำคุกแม้แต่วันเดียว ซึ่งไม่เป็นธรรมกับนักโทษกว่า 200,000 คนในเรือนจำ และหากนายทักษิณ ยังทำตัวเหนือกฎหมายเช่นนี้ ก็เป็นห่วงว่า บ้านเมืองจะมีความขัดยแย้งของประชาชนมากขึ้น จึงสามารถกล่าวหาได้เลยว่า นายทักษิณ เป็นตัวปัญหา ที่สร้างความแตกแยกให้กับคนไทยทั้งประเทศ

นายกิตติศักดิ์ ยังยืนยันว่า ในกรณีของนายทักษิณ จะต้องถูกหยิบยกขึ้นมาอภิปรายในการอภิปรายทั่วไปของวุฒิสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 แน่นอน

ส่วนนายทักษิณ จะเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารประเทศในอนาคตหรือไม่นั้น นายกิตติศักดิ์ เห็นว่า ประเทศไทยยังมีคนดีอีกมาก หากไม่มีนายทักษิณ ประเทศก็สามารอยู่ได้ และเห็นว่า คนไทยที่ไม่ใช่นายทักษิณ จะต้องมาช่วยกันดูแลบ้านเมือง แก้ไขปัญหาให้ประเทศ แต่หากเอานักโทษที่หนีคดีไปกว่า 10 ปี แต่ไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียวมาบริหารประเทศ ตนยังมองไม่ออกว่า ประเทศไทยจะเดินไปสู่จุดไหน 

นายกิตติศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่คนพรรคเพื่อไทย รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาลเตรียมเดินสายเข้าพบในทักษิณที่บ้านพักว่า ในแวดวงการเมือง ไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร ตนไม่สามารถไปละเมิดความรัก ความคิดของคนได้ ดังนั้น ใครจะไปไหว้ หรือกราบใคร ก็ถือเป็นสิทธิ์ แต่สำหรับตนเอง จะไหว้แต่คนดี มีคุณธรรมเท่านั้น

ส่วนกรณีที่ผู้นำฝ่ายค้านฯ ประเมินหลังจากนี้จะมีสภาวะนายกรัฐมนตรี 2 คนนั้น นายกิตติศักดิ์ มองว่า อาจจะมีมากกว่าสองคน เพราะยังมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย อีก 1 คน จึงถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของประเทศไทย แต่เชื่อว่า สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ ใครทำผิด คนอื่นไม่รู้ สวรรค์รู้ ซึ่งตั้งแต่แรกไม่ได้ให้ราคานายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว แล้วยิ่งนายทักษิณกลับมาแล้ว นายเศรษฐา ก็จะกลายเป็นดาวที่ไร้แสง

นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึงการพักโทษนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และกลับไปที่บ้านพักแล้วว่า แม้นายทักษิณ จะได้รับการพักโทษ และยังเป็นนักโทษเด็ดขาด เพราะยังเหลือโทษจำคุกอีก 6 เดือน ดังนั้น ข้อปฏิบัติระหว่างการพักดทาจะต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ข้อกังวลต่าง ๆ ในการเคลื่อนไหว นายทักษิณ จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะสังคมกำลังตั้งคำถามในกระบวนการยุติธรรม มิเช่นนั้น รัฐบาลอาจเข้าข่ายกระทำความผิด และทำให้นายทักษิณ อาจถูกยกเลิกการพักโทษได้ และดีใจกับครอบครัวของนายทักษิณ ที่ได้รับการพักโทษ ส่วนสังคมก็จะต้องร่วมกันตรวจสอบต่อไป 

ในการพักโทษของนายทักษิณนั้น นายสมชาย มั่นใจว่า จะนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองในอนาคตมากขึ้น จึงขอให้ทุกฝ่ายที่เดินหน้าตรวจสอบ ตั้งสติให้ดี และใช้กระบวนการทางกฎหมาย เช่น กรรมการ ป.ป.ช. ที่มีหน้าที่ตรวจสอบ และรับเรื่องไว้เรียบร้อยแล้ว โดยเชื่อว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องฝ่ายปฏิบัติทั้งนายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม, ข้าราชการกรมราชทัฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ จะต้องถูกตรวจสอบ และไม่สามารถอ้างว่าไม่ทราบไม่ได้

ซึ่งในอดีตก็มีตัวอย่างให้เห็นแล้วจากคดีจำนำข้าวที่ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ต้องคิดคุก และยังไม่ทราบว่า อากาารเจ็บป่วยเรื้อรังจนวิกฤตของนายทักษิณ คืออะไร ซึ่งตัวแทนโรงพยาบาลตำรวจ ก็ไม่สามารถชี้แจงได้ แต่กรรมาธิการของวุฒิสภา จะทำหน้าที่ตรวจสอบต่อไป เพื่อส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.เอาผิดผู้เกี่ยวข้อง พร้อมขอให้ ป.ป.ช. ยังคงทำหน้าที่ตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐที่ปฏิบัติหน้าที่มิชอบต่อไป เหมือนคดีการสลายการชุมนุม และคดีจำนำข้าว และกรรมาธิการของวุฒิสภา ก็พร้อมให้ความร่วมมือ 

นายสมชาย ยังกล่าวถึงกรณีการสวมใส่เฝือกอ่อนที่คอ และแขนของนายทักษิณว่า ตนเองไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ และขอให้สังคมเป็นผู้ตั้งคำถาม เพราะหากอาการป่วยร้ายแรงต่อเนื่อง จะมีคำนิยามไว้อยู่แล้ว และตนเห็นด้วยกับการพักโทษในกรณีผู้ป่วยร้ายแรงที่จะได้รับสิทธิผู้ป่วย และออกจากเรือนจำไปสถานที่คุมขังอื่นในวาระสุดท้าย แต่จากภาพนายทักษิณที่ปรากฏ จะเป็นไปตามหลักเกณฑ์หรือไม่ หรือนายทักษิณ อาจจะป่วยจริง แต่คำแถลงของกรมราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจไม่ชัดเจน เพราะหากชี้แจงให้ชัดเจนว่าป่วยจริง หรือใกล้เสียชีวิตแล้ว ก็เชื่อว่า สังคมไทยจะยอมรับได้

ดังนั้น วันนี้จึงยังไม่สายที่ครอบครัว หรือแพทย์ผู้รักษาโรงพยาบาตำรวจออกมาชี้แจงให้ชัดเจนว่า นายทักษิณป่วยด้วยโรคอะไร เพื่อให้สังคมยอมรับ แต่หากยังคลุมเครือ ผู้ปฏิบัติหน้าที่ทั้งแพทย์ ข้าราชการกรมราชทัณฑ์ ก็จะต้องรับผิดชอบ 

ส่วนจะได้รับคำชี้แจงผ่านการอภิปรายทั่วไปรัฐบาลตามรัฐธรรมนูญมาตรา 153 หรือไม่นั้น นายสมชาย ยังไม่ยืนยัน และยังไม่ทราบว่า ในการอภิปรายฯ วันที่ 25 มีนาคมนี้ รัฐบาลจะเลื่อนจนให้สมาชิกวุฒิสภาหมดวาระอีกหรือไม่ เพราะเป็นสิ่งที่เคยกระทำมาในอดีต เพราะหากพ้นวันที่ 9 เมษายนนี้ ก็ถือว่า ปิดสมัยประชุมแล้ว ซึ่งการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 วาระที่ 2 ก็ถูกเลื่อนออกไปแล้ว

แต่หากสมาชิกวุฒิสภา ชุดใหม่ยังไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง สมาชิกวุฒิสภาชุดนี้ ก็ยังสามารถอภิปรายได้ และเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้จจะไม่ถูกนำไปอภิปรายในสภา สังคมก็มีการตั้งคำถามอยู่แล้ว และตนไม่อยากให้เรื่องนี้ เป็นประเด็นที่ค้างคาใจสังคม

จึงขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบว่าไปตามถูกผิด และให้ผู้ที่เกี่ยวข้องออกมาชี้แจงการป่วยของนายทักษิณว่า ป่วยด้วยโรคร้ายแรงอะไร เพื่อให้สังคมไม่ต้องค้างคาใจ เพราะตนเองก็สนับสนุนให้นายทักษิณ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว และตนเองก็เคยแนะนำให้โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ปรับห้องพักแพทย์-พยาบาล เป็นห้องพักพิเศษนายทักษิณ เพื่อเสมือนเข้ากระบวนการ แต่กระทรวงยุติธรรม กลับชี้แจงว่า การพักโรงพยาบาลตำรวจ ก็ถือว่า เข้ากระบวนการยุติธรรมแล้ว จึงเหมือนป็นศรีธนนท์ชัยทางกฎหมาย

ด้านนายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรค กล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ที่มีต่อการพักโทษของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยยืนยันว่า กระบวนการที่เกิดขึ้น เป็นไปตามกระบวนการ ซึ่งกระทรวงยุติธรรม ได้ชี้แจงแล้วว่า เป็นไปตามระเบียบ ไม่ได้ทำให้สังคมบิดเบี้ยว เพราะยังมีผู้ที่ได้รับการพักโทษอีกกว่า 900 คน ไม่ได้เป็น 2 มาตรฐานตามที่มีการกล่าวหากัน 

ส่วนที่สมาชิกวุฒิสภา กังวลถึงการพักโทษครั้งนี้จะทำให้กลายเป็นความขัดแย้งทางการเมืองครั้งใหม่นั้น นายชูศักดิ์ ย้ำว่า นายทักษิณ ได้รับการปฏิบัติตามกระบวนการยุติธรรมที่มี ไม่ได้ผิดไปจากมาตรฐาน และไม่ได้ออกนอกลู่นอกทาง ไม่ได้ทำให้สังคมมองว่าเป็นเรื่องร้ายแรง เพราะเป็นไปตามกระบวนการ ไม่ได้ทำให้สังคมรู้สึกว่า เป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัส

นายชูศักดิ์ ยังกล่าวถึงการเตรียมไปเยี่ยมขอคำแนะนำจากนายทักษิณที่บ้าน โดยเห็นว่า ขณะนี้ นายทักษิณยังป่วย จึงควรให้อยู่พักผ่อนกับครอบครัวก่อน และการขอคำแนะนั้น เป็นเรื่องของพรรคการเมือง ซึ่งก็มีกรรมการบริหารพรรคอยู่แล้ว หรือรัฐบาล นายกรัฐมนตรี ก็แถลงถึงการขอคำแนะแล้วว่า ให้เป็นไปตามครรลอง จึงไม่น่าเป็นห่วง

ส่วนที่มีกระแสข่าวถึงการปรับขนาดรัฐมนตรีภายหลังนายทักษิณได้รับการพักโทษ นายชูศักดิ์ ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์เนื่องจากเป็นเรื่องของรัฐบาล และนายกรัฐมนตรี ที่ย้ำมาตลอดว่า ตนมีอำนาจเต็มเพียงคนเดียว ซึ่งตนเอง ก็ยังมั่นใจในตัวนายกรัฐมนตรี จึงขอให้ฟัง ให้ความเชื่อมั่น และให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี 

ส่วนการเดินสายไปพบปะกับกลุ่มผู้สนับสนุนภายหลังได้รับการพักโทษนั้น นายชูศักดิ์ เห็นว่า เมื่อนายทักษิณ ได้รับการพักโทษ คนเสื้อแดงก็ดีใจ มีความสุข ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดา เพราะนายทักษิณ ถือเป็นปูชนียบุคคลของพรรค ทำประโยชน์ให้พรรคมานาน แต่การจะเดินสายนั้น ก็เป็นเรื่องการตัดสินใจของนายทักษิณ

นายชูศักดิ์ ยังกล่าวถึงความเหมาะสมหาก สส.จะไปเข้าพบ เพื่อหารือกับนายทักษิณว่า การที่ สส.หรือพรรคฯ จะไปหารือใคร เป็นสิทธิเสรีภาพของ สส และพรรคฯ นั้น เพราะมีทั่วไป และถือเป็นการไปขอความรู้ได้ ซึ่งรัฐธรรมนูญ และกฎหมายไม่ได้ห้าม แต่ที่ผ่านมา มักมีการโจมตีว่า เป็นการครอบงำพรรค แต่ในทางปฏิบัตินั้น ไม่ใช่ เพราะเป็นการไปขอความรู้ เช่น เรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งเป็นเรื่องปกติ

ส่วนนายทักษิณแยกออกจากรัฐบาลแล้วชัดเจนใช่หรือไม่นั้น นายชูศักดิ์ ย้ำว่า นายทักษิณไม่มีตำแหน่ง ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี หัวหน้ารัฐบาล และนายกรัฐมนตรี แต่ยอมรับว่า นายทักษิณ มีประสบการณ์ เคยเป็นผู้นำประเทศ จึงมีผู้ยอมรับในความรู้ความสามารถ

ทางฝั่งของนายวรชัย เหมะ ที่ปรึกษาของรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ชินวัตร ได้รับการพักโทษว่า ตนเชื่อว่าเป็นเรื่องที่ทำให้คนไทยส่วนใหญ่ดีใจ เพราะคนไทยส่วนใหญ่เคยได้สัมผัสกับความสุขในสมัยที่รัฐบาลของนายทักษิณ บริหารประเทศ คนไทยมีเกียรติยศศักดิ์ศรี ปากท้องอิ่ม ลูกหลานได้ไปเรียนต่างประเทศ ไม่มีหนี้สิน สังคมไทยปราศจากยาเสพติด เหล่านี้คือสิ่งที่คนไทยได้รับในยุครัฐบาลไทยรักไทย

วันนี้เมื่อนายทักษิณ ได้รับการพักโทษ แม้จะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่เชื่อว่าจะสร้างความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลที่มาจากพรรคที่นายทักษิณ วางรากฐานไว้ และจะนำไปสู่ความเชื่อมั่นของประเทศในที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการลงทุน การท่องเที่ยว การส่งออก การค้าการขาย จะทำให้ประเทศฟื้นคืนกลับมาเหมือนเดิมอีกในไม่นาน

คนไทยรอความหวังจากอดีตนายกฯทักษิณ เพราะท่านมีประสบการณ์จากการอยู่ต่างประเทศหลายปี รู้จักนักธุรกิจนักลงทุนต่างประเทศจำนวนมาก อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนเหล่านี้ตัดสินใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้น อีกเรื่องที่สำคัญการพักโทษครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการเริ่มต้นของการปรองดอง ความคิดขัดแย้งที่เคยมีมาจะหายไป เกิดสามัคคีประเทศไทย ทุกกลุ่มทุกสีเสื้อจะเลิกขัดแย้งร่วมมือกันแก้ปัญหาประเทศ 

นายวรชัย ยังกล่าวว่า ในวันที่ 25 ก.พ. เวลา 17.00 น. พวกเราแกนนำเสื้อแดงฝ่ายประชาธิปไตย ขอเชิญพี่น้องคนไทยที่รักประชาธิปไตยและรักนายทักษิณ โดยเฉพาะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ และตน จะร่วมกันจัดงานเลี่ยง ที่อิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง เพื่อขอบคุณพี่น้องคนเสื้อแดงที่ยังมีอุดมการณ์ประชาธิปไตย และส่งกำลังใจไปให้นายทักษิณ เพื่อให้ท่านนายกฯทักษิณ แข็งแรงเร็ววัน จะได้นำความรู้ความสามารถประสบการณ์ที่มีมาบอกกล่าวกับสังคม ถ้ารัฐบาลเห็นว่าเป็นประโยชน์จะได้นำไปปรับใช้ เพื่อให้การทำงานของรัฐบาลลื่นไหวและสามารถแก้วิกฤติประเทศได้เร็วขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related