svasdssvasds

66 วัน 4 ลูกเรือประมงไทยถูกลอยแพ ไร้ความหวังได้กลับบ้าน ฉะ กต.ทำงานหยาบ

66 วัน 4 ลูกเรือประมงไทยถูกลอยแพ ไร้ความหวังได้กลับบ้าน ฉะ กต.ทำงานหยาบ

#สรุปให้ 66 วันที่ 4 ลูกเรือประมงไทยถูกไทยลอยเท้งเต้ง ยังไร้ทางได้กลับบ้าน วิโรจน์ขนญาติเยี่ยมถึงเกาะสอง ฉะกระทรวงการต่างประเทศไม่ใส่ใจ “เหมือนรัฐบาลลืมพวกเขาไปแล้ว”

SHORT CUT

  • ครบ 66 วันแล้ว ที่ 4 ลูกเรือประมงชาวไทย ถูกจับกุมควบคุมตัวที่เมียนมา ยังไร้วี่แววจะได้กลับบ้านในเร็ววันนี้
  • วิโรจน์ พาญาติข้ามไปเยี่ยม พบความจริงว่ากระทรวงการต่างประเทศประสานงานบกพร่องในหลายระดับ ญาติ 2 ครอบครัวไม่เคยได้รับการติดต่อ ไม่รู้ต้องประสานงานกับใคร
  • ไทยติดกระดุมเม็ดแรกผิดหรือไม่? สรุปแล้วเรือประมงล้ำแดนเมียนมาจริงๆ หรือเราบกพร่องในการพิสูจน์สิทธิอธิปไตยเหนือพื้นที่พิพาท?

#สรุปให้ 66 วันที่ 4 ลูกเรือประมงไทยถูกไทยลอยเท้งเต้ง ยังไร้ทางได้กลับบ้าน วิโรจน์ขนญาติเยี่ยมถึงเกาะสอง ฉะกระทรวงการต่างประเทศไม่ใส่ใจ “เหมือนรัฐบาลลืมพวกเขาไปแล้ว”

จาก 30 พฤศจิกายน 2567 ถึง 4 กุมภาพันธ์ 2568 ครบ 66 วันแล้วที่ 4 ลูกเรือประมงไทย ถูกจำคุกควบคุมตัวไว้ที่เรือนจำจังหวัดเกาะสอง ประเทศเมียนมา ฝั่งตรงข้าม จ.ระนอง เราลืมเขาไปแล้วหรือยัง? พวกเขาทั้ง 4 คน ล้วนเป็นผู้สูงอายุ มีครอบครัวที่รอคอยอยู่ และยังไม่รู้ว่าจะได้กลับบ้านเมื่อไร…

 

วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.พรรคประชาชน ประธาน กมธ.การทหาร สภาผู้แทนราษฎร นำทีม กมธ.และบรรดาญาติทั้ง 4 ครอบครัวรวม 6 คน ข้ามแดนไปเยี่ยมพวกเขาเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 ที่เรือนจำเกาะสอง ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับทีม SPRiNG มีข้อสังเกตต่อเรื่องนี้ ดังนี้

 

กระทรวงการต่างประเทศทำงานได้หยาบมาก

วิโรจน์ บอกว่า ที่ผ่านมากระทรวงการต่างประเทศไม่เคยใช้กลไกคณะกรรมการร่วมระดับท้องถิ่นไทย-เมียนมา(TBC) ที่เน้นแฟ้นและเข้มแข็งได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเลย ใช้วิธีการแก้ปัญหาในระดับรัฐบาลต่อรัฐบาล โดยละเลยการประสานงานระดับท้องถิ่น ซึ่งใกล้ชิดกว่ามาก เช่น การไปเยือนเกาะสองครั้งนี้ กมธ.ได้ประสานให้กระทรวงฯ ขออนุญาตทางการเมียนมา พบว่ามีการประสานไปยังเนปิดอว์จริง แต่หน่วยงานในพื้นที่ทั้งฝั่งไทยและเมียนมากลับ “ไม่รู้เรื่อง” เกือบจะไม่ได้ไปยกคณะ ทำให้เห็นว่า เป็นการทำงานที่ “หยาบ” ไม่ละเอียด และไม่ใส่ใจ

ไม่ประสานญาติ เคยพาญาติข้ามไปเยี่ยมแค่ “คนเดียว” คนที่เหลือ “เคว้ง”

ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศ เคยพา “ตัวแทนญาติ” ข้ามไปเยี่ยมผู้ถูกคุมขัง “1 ครั้ง” และพาไปแค่ “คนเดียว” คือคุณปริญกมร ธันชร ภรรยาของไต๋วิโรจน์ สพานทอง ณ นคร เจ้าของเรือ ต.88 แต่พบว่า ไม่มีการประสานไปยังญาติคนอื่นๆเลย และครอบครัวมงกุฏทอง ครอบครัวพรหมนิมิตร ไม่เคยทราบความคืบหน้าหรือการติดต่อเลย

 

ซ้ำร้าย หลังจากเกิดการ “ผิดดีล”​ ที่ผู้นำฝั่งไทยเคยบอกว่าหลังวันที่ 4 มกราคม จะมีข่าวดี แต่พอความจริงไม่เป็นไปตามนั้น ญาติทั้งหมดเหมือนโดนลอยแพ ไม่มีความหวัง ไม่มีข้อมูล ไม่รู้ต้องถามใครว่าญาติเขาจะได้กลับบ้านเมื่อไร? 

 

วิโรจน์ บอกว่า รมว.ต่างประเทศ ควรต้องมีแผนการว่าจะทำอย่างไรต่อเมื่อเกิดผิดดีล แต่นี่ไม่มีเลย ไม่มีการมอบหมายหน้าที่ ไม่มีการแจ้งว่าญาติต้องประสานใคร ไร้ความคืบหน้าว่าไทยได้ขออภัยโทษแล้วหรือยัง ไม่มีอะไรเลย

 

ผบ.เรือนจำเกาะสองจะอนุญาตให้ญาติได้เยี่ยม แต่ยังไร้เจ้าหน้าที่ไทยรับผิดชอบ

วิโรจน์ บอกว่า ตนได้พบกับท่านชิส่วย ผบ.เรือนจำเกาะสอง ได้บอกว่า เรือนจำจะเปิดให้ญาติได้เยี่ยมลูกเรือประมงไทยได้ 3 วัน ได้แก่วันที่ 5,17 และ 30 แต่จะให้เยี่ยมได้ทั้ง 3 วันต่อเดือนหรือให้เลือกหนึ่งในสาม จะยืนยันอีกครั้ง แต่ปัญหาคือ “คนไทยต้องประสานใครก่อนจะไปเยี่ยมญาติ?” ตอนนี้ยังไม่มี จะต้องให้ญาติเขียนขอเรือนจำเมียนมาเองหรือ ไทยใจร้ายไปหรือเปล่า?

ติดกระดุมผิดตั้งแต่แรก? ถึงตอนนี้ รัฐบาลลืมพวกเขาไปแล้วหรือยัง?

วิโรจน์ มองว่า ไทยติดกระดุมผิดตั้งแต่เม็ดแรก ตนได้รับการยืนยันว่า ในวันนั้น เรือประมงไทยเพียงแต่ล้ำแนวเส้นปฏิบัติการของกองทัพเรือ พื้นที่ที่เข้าไปเรียกว่า “พื้นที่พิเศษที่ยังไม่มีฝ่ายใดอ้างสิทธิ” แต่การให้สัมภาษณ์ของนายภูมิธรรม ทางยอมรับว่าเราล้ำเขต และการที่เราปล่อยให้คนไทยถูกดำเนินคดีเข้าเมืองผิดกฎหมาย เป็นสิ่งที่ทำให้เราเสียเปรียบตั้งแต่แรก เราไปยอมรับว่าคนของเราผิด

แม้แต่ในวันที่ศาลเมียนมาพิพากษา เรายังไม่มีการจัดทนายความไปช่วย เราไม่ได้รู้ก่อนด้วยซ้ำว่าคนของเรากำลังจะถูกตัดสิน เพราะเราได้ละเลยกระบวนการที่เข้มแข็งที่สุด คือกลไก TBC คณะกรรมการระดับท้องถิ่น

วิโรจน์ สพานทอง ณ นคร (อายุ 69 ปี) เจ้าของเรือ ส.เจริญชัย 8

สมปอง วิวัฒน์ (อายุ 61 ปี)

สุนันท์ มงกุฎทอง (อายุ 68 ปี)

ถาวร พรหมนิมิตร (อายุ 64 ปี)

ทั้ง 4 คน ยังติดคุกอยู่ที่เกาะสอง และยังรอคอยวันที่จะได้กลับบ้าน เหมือนซิงซิง นักแสดงจีนที่ถูกจับตัวไป เหมือนตัวประกันคนไทยในฉนวนกาซ่า ช่วยทำให้ทั้ง 4 คน ได้รับการช่วยเหลือในมาตรฐานเดียวกันด้วย อย่าลืมพวกเขา

related