อธิบดีอัยการภาค 6 มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง "พอล แชมเบอร์ส" ผู้ต้องหาคดี112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเคอร์ฯ เตรียมส่งสำนวน ให้ผบช.ภ.6พิจารณาเห็นแย้งหรือไม่
1 พฤษภาคม 2568 สำนักงานอัยการสูงสุดเผยแพร่แถลงข่าว ระบุว่า อธิบดีอัยการภาค 6 มีคำสั่ง ไม่ฟ้อง ดร.พอล แชมเบอร์ส (Dr. Paul Chambers) นักวิชาการชาวสหรัฐฯ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดี มาตรา 112 และ พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
สำนวนคดีนี้เริ่มจากการที่ พ.อ.มงคล วีระศิริ เป็นผู้กล่าวหา โดยพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก มีความเห็นควรสั่งฟ้องในข้อหา
อย่างไรก็ตาม อธิบดีอัยการภาค 6 พิจารณาร่วมกับคณะทำงานแนวทางบังคับใช้ ม.112 และมีคำสั่งไม่ฟ้องในทุกข้อกล่าวหา
ในสำนวนที่ส่งจากพนักงานสอบสวน มีความเห็นให้ฟ้อง ดร.พอล ในทั้งสองข้อกล่าวหา โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับ การกระทบต่อความมั่นคงของราชอาณาจักร และข้อมูลอันเป็นเท็จที่นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
อย่างไรก็ดี เนื่องจากคดีนี้ถูกจัดเป็น “คดีสำคัญ” ตามระเบียบของสำนักงานอัยการสูงสุด จึงถูกส่งต่อให้ อธิบดีอัยการภาค 6 เป็นผู้มีอำนาจพิจารณาสั่งคดีขั้นสุดท้าย และมีความเห็น ไม่ฟ้อง ทั้งในส่วนของ มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
การพิจารณานี้สอดคล้องกับแนวทางของคณะทำงานกำหนดแนวทางบังคับใช้กฎหมาย ม.112 ซึ่งเข้ามามีบทบาทในการกลั่นกรองคดีลักษณะนี้ในช่วงหลัง
หลังจากมีคำสั่งไม่ฟ้อง ผู้ต้องหาจะครบกำหนดฝากขังครั้งที่ 2 ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 พนักงานอัยการจังหวัดพิษณุโลกจึงดำเนินการ ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวต่อศาลจังหวัดพิษณุโลก
จากนั้น จะมีการส่งสำนวนพร้อมความเห็นและคำสั่งไม่ฟ้องไปยัง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 (ผบช.ภ.6) เพื่อพิจารณาว่า จะมีความเห็นแย้งคำสั่งของอัยการหรือไม่ ตามที่บัญญัติไว้ใน ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 145/1
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสังเกตคือ ในเอกสารแถลงข่าวของสำนักงานอัยการสูงสุด ไม่มีการระบุเหตุผลอย่างเป็นทางการถึงสาเหตุที่ไม่ฟ้องในทั้งสองข้อกล่าวหา ทำให้ประเด็นนี้ยังคงได้รับความสนใจจากสาธารณะและนักกฎหมาย