SHORT CUT
มติ กมธ. ศึกษาเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ศึกษาผลกระทบเสร็จ ก.ค. 68 พร้อมมีมติเชิญ นายกฯ และอดีตนายกฯ 5 คน ทักษิณ-เศรษฐา-อภิสิทธิ์-ชวน-สมชาย เข้าให้ข้อมูล
คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) วุฒิสภา ซึ่งมีนายวีระพันธ์ สุวรรณนามัย สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เป็นประธาน ได้จัดประชุมที่รัฐสภาเพื่อวางกรอบแนวทางการทำงานและจัดตั้งคณะอนุกรรมาธิการเพื่อศึกษาผลกระทบในด้านต่างๆ จากการเปิดสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโนและพนันออนไลน์ในประเทศไทย
ภายหลังการประชุม นายวีระพันธ์ได้เปิดเผยว่า คณะกรรมาธิการฯ มีมติให้เชิญคณะรัฐมนตรี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินนโยบายเรื่องกาสิโนในการประชุมครั้งต่อไป โดยเน้นย้ำว่าต้องการให้นายกรัฐมนตรีมาชี้แจงด้วยตนเอง
นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการฯ ยังมีแผนที่จะเชิญอดีตผู้นำประเทศหลายท่านมาให้ข้อมูลและแสดงความคิดเห็นต่อประเด็นดังกล่าว ประกอบด้วย อดีตนายกรัฐมนตรีหลายท่าน ได้แก่ นายทักษิณ ชินวัตร นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายชวน หลีกภัย นายเศรษฐา ทวีสิน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รวมถึงอดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร อาทิ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ นายอาทิตย์ อุไรรัตน์
การเชิญผู้นำทั้งในอดีตและปัจจุบันมาให้ข้อมูลสะท้อนถึงความพยายามของคณะกรรมาธิการฯ ในการรวบรวมความคิดเห็นที่หลากหลายและครอบคลุมจากทุกฝ่าย เพื่อให้การพิจารณาประเด็นดังกล่าวเป็นไปอย่างรอบด้านและเป็นกลาง
ที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ มีมติจัดตั้งคณะอนุกรรมาธิการ 2 คณะ เพื่อศึกษาผลกระทบในด้านต่างๆ จากการเปิดสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโน ได้แก่
1. คณะอนุกรรมาธิการวิสามัญศึกษาผลกระทบทางสังคมและกฎหมาย ของการมีสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโนและพนันออนไลน์
โดยมีนายนิพนธ์ เอกวานิช สว. เป็นประธาน คณะอนุกรรมาธิการชุดนี้จะรับผิดชอบศึกษาประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบทางสังคม สิ่งแวดล้อม การผังเมือง ประเด็นเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ ยุทธศาสตร์ชาติ และการทำประชาพิจารณ์ตามมาตรา 77
2. คณะอนุกรรมาธิการวิสามัญศึกษาผลกระทบทางเศรษฐกิจ ของการมีสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโนและพนันออนไลน์
โดยมีนายสรชาติ วิชย สุวรรณพรหม สว. เป็นประธาน คณะอนุกรรมาธิการชุดนี้จะรับผิดชอบศึกษาผลกระทบด้านเศรษฐกิจ การลงทุน การท่องเที่ยว และการจ้างงานที่อาจเกิดขึ้นจากการเปิดสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโน
ในการประชุมครั้งนี้ คณะกรรมาธิการฯ ได้หารือกันใน 3 หัวข้อหลัก ได้แก่ ผลกระทบด้านสังคม เศรษฐกิจ และกฎหมาย โดยมีประเด็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง ดังนี้
ที่ประชุมมีการถกเถียงอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับการกำหนดนิยามของ "สถานบันเทิงครบวงจร" โดยมีข้อเสนอให้ใช้คำที่ชัดเจนและตรงไปตรงมามากขึ้น เพื่อให้ประชาชนเข้าใจได้ง่ายและครอบคลุมถึงกิจกรรมการพนันทุกรูปแบบ มีการเสนอทางเลือกหลายรูปแบบ เช่น
สุดท้าย ที่ประชุมมีความเห็นให้ใช้คำว่า "สถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโนและพนันออนไลน์" เพื่อให้ครอบคลุมการพนันทุกรูปแบบ และเพื่อป้องกันความสับสนในกรณีที่ต้องมีการทำประชามติในอนาคต
ในช่วงแรกของการประชุม มีการเสนอให้แยกการศึกษาด้านกฎหมายออกมาเป็นอีกหนึ่งคณะอนุกรรมาธิการ เพื่อศึกษากฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายเกี่ยวกับการขายสุรานอกเวลา พระราชบัญญัติโรงแรม การจัดโซนนิ่ง รวมถึงการปรับปรุงกฎหมายการพนันเดิม และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมไม่เห็นด้วยกับการแยกคณะอนุกรรมาธิการด้านกฎหมายออกมาต่างหาก เนื่องจากกังวลว่าอาจทำให้ลดทอนความสำคัญของประเด็นเรื่องกาสิโนลง จึงตัดสินใจให้รวมการศึกษาด้านกฎหมายไว้ในคณะอนุกรรมาธิการด้านสังคมและกฎหมาย
นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังมีการหยิบยกประเด็นเรื่องอำนาจทางการเมืองที่อาจส่งผลต่อการผลักดันกฎหมาย โดยมีการแสดงความกังวลว่าอาจมีฝ่ายการเมืองที่คุมเสียงในสภาและสามารถล้มกฎหมายได้ แต่ไม่สามารถล้มรัฐธรรมนูญ จึงเสนอให้คำนึงถึงประเด็นนี้ด้วย
นายวีระพันธ์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของความเป็นกลางในการพิจารณาศึกษาเรื่องนี้ โดยกล่าวว่า "ต้องล้างความเห็นส่วนตัวทั้งหมด ต้องเป็นกลางที่สุด เพื่อรับฟังความเห็นทุกด้าน" และยืนยันว่าคณะกรรมาธิการฯ จะไม่พิจารณาโดยมีธงคำตอบล่วงหน้า แต่จะนำเสนอข้อมูลในภาพรวมที่เป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลและประชาชน
สำหรับกรอบเวลาการทำงาน แม้จะมีกำหนดเดิมที่ 180 วัน แต่ที่ประชุมมีความเห็นให้เร่งจัดทำร่างรายงานให้แล้วเสร็จก่อนสิ้นเดือนกรกฎาคม 2568 เนื่องจากมีการเปิดสมัยประชุมสภาในต้นเดือนกรกฎาคม และคณะกรรมาธิการฯ กังวลว่ารัฐบาลอาจเสนอกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาก่อนที่การศึกษาจะแล้วเสร็จ
ในที่ประชุมยังมีการหารือเกี่ยวกับการทำประชาพิจารณ์เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการกำหนดรูปแบบและวิธีการดำเนินการที่ชัดเจน โดยนายวีระพันธ์กล่าวว่า "ยังไม่มีการกำหนดว่า จะมีการดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร" ซึ่งคาดว่าจะมีการหารือเพิ่มเติมในการประชุมครั้งต่อไป