ดินแดนแห่งนายพลของเกาหลีเหนือ ค่านิยมความภักดีเพื่อสิทธิพิเศษ
นายพลในกองทัพเกาหลีเหนือทะลุ 1,000 สะท้อนความเป็นประเทศแห่งการมียศถาบรรดาศักดิ์ สร้างความระบบความภักดีเพื่อรักษาอำนาจ
เกาหลีเหนือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีจำนวนทหารมากที่สุดในโลก กองทัพประชาชนเกาหลี (KPA) มีทหารประจำการราว 1.2–1.3 ล้านนาย ทำให้เป็นกองทัพขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวน “นายพล” หรือเจ้าหน้าที่ทหารชั้นนายพล ในกองทัพนี้กลับเต็มไปด้วยความไม่ชัดเจน เนื่องจากรัฐบาลเปียงยางไม่ได้เปิดเผยข้อมูลนี้อย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ตามในการศึกษาชื่อ Pyongyang Republic ที่จัดทำโดยผู้เชี่ยวชาญของสหรัฐฯ เพื่อศึกษาเรื่องสิทิพลเมืองในเกาหลีเหนือ คาดการณ์ว่า เกาหลีเหนือมีนายพลหรือเจ้าหน้าที่ระดับนายพลรวมทั้งหมดประมาณหลักพันคน ตัวเลขที่มักถูกอ้างถึงคือประมาณ 1,400 คน ซึ่งสูงกว่าประเทศเกาหลีใต้ที่มีนายพลเพียง 450 คน (ข้อมูลปี 2014) ซึ่งหมายความว่าเกาหลีเหนือมีสัดส่วนนายพลมากกว่าสามเท่าเมื่อเทียบกับกองทัพเกาหลีใต้ที่มีกำลังพลประมาณครึ่งหนึ่งของเกาหลีเหนือเอง
ระบบอุปถัมภ์ ค้ำจุนอำนาจในเกาหลีเหนือ
ข้อมูลจากรายงานยังชี้ให้เห็นถึงการใช้นายพลจำนวนมากในระบบบริหารกองทัพของเกาหลีเหนือ โดยผู้นำสูงสุดใช้การเลื่อนยศนายพลเป็นวิธีสร้างความภักดี ตัวอย่างเช่น รายงานของสภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (CFR) ระบุว่า คิม จองอิล ได้เคยแต่งตั้งหรือเลื่อนยศนายพลไปแล้ว 1,131 คน จากนายพลทั้งหมดราว 1,400 คน ของกองทัพ ซึ่งสะท้อนว่าเหล่านายพลจำนวนมากในปัจจุบันได้รับตำแหน่งในยุคผู้นำตระกูลคิม และยังบ่งบอกถึง ระบบอุปถัมภ์ (patronage) ภายในกองทัพที่ผู้นำใช้ตอบแทนความจงรักภักดีของนายทหารระดับสูงด้วยยศถาบรรดาศักดิ์และสิทธิพิเศษต่าง ๆ เช่น บ้านพัก การศึกษา เสบียงอาหาร สุรา และพาหนะส่วนตัว
ยิ่งไปกว่านั้น เกาหลีเหนือไม่มีระบบเกษียณอายุที่ชัดเจนสำหรับนายทหารระดับสูง (หลายคนดำรงตำแหน่งตลอดชีวิตเว้นแต่จะเสียชีวิตหรือถูกปลดด้วยสาเหตุทางการเมือง) ยิ่งทำให้ยอดสะสมของนายพลเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป
ส่วนสาเหตุที่ไม่เปิดเผยข้อมูลนายพล อาจเพราะถูกมองว่าอ่อนไหว และอาจถือว่าเป็นการเปิดช่องให้เกิดความไม่ไว้วางใจภายในหรือกระทบต่อภาพลักษณ์ของผู้นำ ในสายตาของประชาชนชาวเกาหลีเหนือเอง สื่อของรัฐจะนำเสนอเฉพาะสิ่งที่ผู้นำต้องการให้เห็น เช่น ข่าวการเลื่อนยศนายทหารบางคนในโอกาสสำคัญ แต่จะไม่กล่าวถึงภาพรวมทั้งหมด การที่ประชาชนทั่วไปไม่รู้ข้อมูลเหล่านี้ช่วยรักษาการควบคุมของรัฐบาลต่อการรับรู้ของประชาชน และลดโอกาสที่ข้อมูลภายในจะรั่วไหลออกนอกประเทศ
