SHORT CUT
แม้พระญี่ปุ่นจะมีครอบครัวได้ แต่เรื่องพนันกลับเคร่งครัด! ถือเป็นอบายมุขต้องห้ามร้ายแรง ผิดทั้งหลักธรรมและวินัยสงฆ์ในทุกนิกาย ไม่ว่าจะมีครอบครัวหรือไม่ก็ตาม
ศาสนาพุทธในแต่ละประเทศมีลักษณะเฉพาะที่สะท้อนบริบททางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และการตีความพระธรรมวินัยที่แตกต่างกัน ประเทศญี่ปุ่นซึ่งรับเอาพุทธศาสนาจากจีนในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 6 มีการปรับเปลี่ยนวิถีของพระสงฆ์ให้เหมาะกับสังคมและวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่น โดยเฉพาะนิกายมหายานอย่างเช่น นิกายโจโดะ ชินชู (Jōdo Shinshū) ซึ่งอนุญาตให้พระสามารถมีภรรยาและครอบครัวได้ แต่ในขณะเดียวกัน การกระทำบางอย่างเช่นการเล่นการพนันกลับถูกประณามอย่างหนัก และถือว่าเป็นการกระทำผิดวินัยของพระ แม้จะอยู่ในนิกายที่ยืดหยุ่นเพียงใดก็ตาม
ญี่ปุ่นส่วนใหญ่ยึดถือพุทธศาสนานิกายมหายาน ซึ่งแตกต่างจากเถรวาทในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ไทย ศรีลังกา พม่า ฯลฯ หนึ่งในความต่างที่เห็นชัดเจนคือการยอมรับให้พระมีครอบครัว โดยเฉพาะนิกาย Jōdo Shinshū ซึ่งก่อตั้งโดย “ชินรัน” (Shinran) ในคริสต์ศตวรรษที่ 13 เขาเน้นว่า สัจธรรมพุทธะสามารถเข้าถึงได้โดยไม่ต้องบำเพ็ญเพียรเคร่งครัดหรือปลีกวิเวกจากชีวิตฆราวาส ชินรันเองก็มีภรรยาและบุตร และเชื่อว่าพระสามารถครองเรือนได้โดยไม่ลดทอนคุณธรรมในการเผยแผ่พระธรรม
ภายหลังการปฏิรูปเมจิ (ค.ศ. 1868) รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศยกเลิกข้อห้ามที่ห้ามพระมีครอบครัว ทำให้แม้แต่นิกายที่เคร่งครัดก่อนหน้านี้ เช่น เซน หรือ เทียนไถ (Tendai) ต่างก็มีพระสงฆ์ที่ครองเรือนเป็นเรื่องปกติในปัจจุบัน
เหตุผลหลักไม่ได้เกิดจากการลดทอนศีลธรรม หากแต่เป็นการตีความพระวินัยใหม่ในบริบทของสังคมญี่ปุ่นที่เน้น "ชีวิตจริง" มากกว่าการปลีกตัวเพื่อความหลุดพ้นเพียงผู้เดียว พระหลายรูปยังคงประกอบพิธีกรรม เผยแผ่ธรรมะ และมีบทบาทสำคัญในชุมชนแม้จะมีครอบครัว
นอกจากนี้ พระวินัยที่ใช้ในมหายานญี่ปุ่นไม่ได้อิงตามพระวินัยปาฏิโมกข์เคร่งครัดแบบเถรวาท พระจึงอาจไม่ต้องสละโลกียะอย่างเบ็ดเสร็จ แต่มีแนวทางการถือศีลที่ยืดหยุ่นกว่า เช่น ยึดมั่นในศีล 10 เพียงบางข้อ หรือใช้แนวทางของ "โพธิสัตว์วินัย" แทน
แม้พระในนิกายต่าง ๆ จะมีแนวทางที่ยืดหยุ่นเกี่ยวกับการครองเรือน แต่เรื่องของ “อบายมุข” เช่น การพนัน กลับเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะในศีล 5 ที่ใช้ทั้งกับพระและฆราวาส ข้อ 4 ที่ห้ามการกระทำอันเป็นเหตุให้เกิดความฟุ้งซ่านและมัวเมา เช่น การพนัน ดื่มสุรา หรือมั่วสุมกับสิ่งลุ่มหลง
สำหรับพระสงฆ์ การพนันถือว่าเป็นการทำลายสมาธิ บั่นทอนศีลธรรม และทำให้พระเสียภาพลักษณ์ในสายตาญาติโยม อีกทั้งการใช้เงินจากการบริจาคไปเล่นการพนันถือเป็นเรื่องที่ผิดหลักธรรมและขัดต่อวินัยสงฆ์ แม้แต่ในนิกายที่ยอมให้มีครอบครัวก็ยังมีการกำหนดข้อห้ามเกี่ยวกับการพนันไว้อย่างชัดเจน
ตัวอย่างในช่วงปี 2023 เคยมีกรณีพระญี่ปุ่นรูปหนึ่งถูกสื่อญี่ปุ่นรายงานว่าแอบเล่นพนันออนไลน์จนเป็นหนี้นับล้านเยน ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างรุนแรง และวัดต้นสังกัดได้สั่งพักงานพระรูปนั้นทันที
แม้พระสงฆ์ในญี่ปุ่นจะสามารถมีภรรยาและครอบครัวได้ตามธรรมเนียมและคำสอนของนิกายมหายานโดยเฉพาะ Jōdo Shinshū แต่ก็ยังมีกรอบจริยธรรมพื้นฐานที่ต้องถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด หนึ่งในนั้นคือการละเว้นอบายมุขโดยเฉพาะการพนัน ซึ่งถือเป็นสิ่งผิดในทุกนิกาย ไม่เว้นแม้แต่พระที่ครองเรือนแล้วก็ตาม
ปรากฏการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงการประสานระหว่างความยืดหยุ่นในพระธรรมวินัยกับการรักษาหลักคุณธรรมพื้นฐานที่ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นเถรวาท มหายาน หรือวัชรยาน การยึดมั่นในหลักการละเว้นอบายมุขยังคงเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินชีวิตในพุทธศาสนา
อ้างอิง