svasdssvasds

ธุรกิจไทยในกัมพูชา 5 หมื่นล้านบาท เริ่มผวา! หากข้อพิพาทลากยาว

ธุรกิจไทยในกัมพูชา 5 หมื่นล้านบาท เริ่มผวา! หากข้อพิพาทลากยาว

ธุรกิจไทยในกัมพูชา เริ่มผวา! ข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา หากยืดเยื้อกดดันความเชื่อมั่นทุนไทย 5 หมื่นล้านบาท ฉุดธุรกิจติดหล่ม ชี้การลงทุนระยะยาวที่ต้องการเสถียรภาพด้านนโยบาย ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

SHORT CUT

  • ต้องยอมรับว่าข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา หากยืดเยื้อ ย่อมไม่ส่งผลดีต่อทั้งสองประเทศอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในเรื่องของเศรษฐกิจการค้า เพราะธุรกิจไทยก็เข้าไปลงทุนในกัมพูชาจำนวนมาก
  • ในตอนนี้ธุรกิจไทยกัมพูชา เริ่มผวา ข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา หากยืดเยื้อกดดันความเชื่อมั่น ทุนไทย 5 หมื่นล้านบาท ฉุดธุรกิจติดหล่ม
  • ในอดีตไทยเคยเป็นนักลงทุนต่างชาติอันดับต้น ๆ ของกัมพูชา แต่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ที่มีปัญหากลายเป็นอุปสรรคจนไทยหล่นไปอยู่อันดับ 9

ธุรกิจไทยในกัมพูชา เริ่มผวา! ข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา หากยืดเยื้อกดดันความเชื่อมั่นทุนไทย 5 หมื่นล้านบาท ฉุดธุรกิจติดหล่ม ชี้การลงทุนระยะยาวที่ต้องการเสถียรภาพด้านนโยบาย ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

แน่นอนว่าข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา หากยืดเยื้อ ย่อมไม่ส่งผลดีต่อทั้งสองประเทศอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในเรื่องของเศรษฐกิจการค้า เพราะธุรกิจไทยก็เข้าไปลงทุนในกัมพูชาจำนวนมากอยู่เหมือนกัน วันนี้เราจะมาเช็กดูความเคลื่อนไหวภาคธุรกิจไทยที่เข้าไปลงทุนยังกัมพูชาว่าเป็นอย่างไรบ้าง โดย ฐานเศรษฐกิจ เปิดเผยโดยอ้างอิงบทสัมภาษณ์ นายวรทัศน์ ตันติมงคลสุข ประธานสภาธุรกิจไทย-กัมพูชา ระบุว่า ถ้าหากสถานการณ์ข้อพิพาทลุกลามจนถึงขั้นปิดด่านการค้าทั้งหมดระหว่างสองประเทศ จะก่อให้เกิดความเสียหายเฉลี่ยถึง 500 ล้านบาทต่อวัน จากมูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนไทย-กัมพูชาปีที่แล้วมีมูลค่ากว่า 1.8 แสนล้านบาท

ทั้งนี้มูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ปี2567 ที่ผ่านมามีมูลค่า 1.81 แสนล้านบาท(เฉพาะการค้าชายแดนมีมูลค่า 1.75 แสนล้านบาท) หากนำมาหารเฉลี่ย 365 วันจะอยู่ที่ราว 493 ล้านบาท หรือกลม ๆ คือ 500 ล้านบาทต่อวัน หากทุกอย่างหยุดนิ่ง สินค้าไปไม่ได้จะกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างหนัก

ธุรกิจไทยในกัมพูชา 5 หมื่นล้านบาท เริ่มผวา! หากข้อพิพาทลากยาว

 

ในส่วนของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นยังสร้างความกังวลให้กับภาคธุรกิจไทยที่เข้าไปลงทุนในกัมพูชา โดยเฉพาะในภาคการผลิต การค้าปลีก และธุรกิจบริการต่าง ๆ ที่ขณะนี้มีจำนวนผู้ประกอบการไทยเข้าไปลงทุนมากกว่า 100 ราย มีมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 50,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามธุรกิจหลักที่ไปตั้งฐานในกัมพูชา อาทิ แม็คโคร ซีพี แฟรนไชส์ 7-อีเลฟเว่น บิ๊กซี SCG โฮมมาร์ท โกลบอลเฮ้าส์ กลุ่มโรงงานการ์เมนต์ นิคมอุตสาหกรรมศรีโสภณ ของที.เค.กรุ๊ป รวมถึงกลุ่มพลังงานและบริการ เช่น ปตท. และร้านกาแฟอเมซอนที่มีสาขาในกัมพูชากว่า 600-700 แห่ง ร้านกาแฟอินทนิลของบางจาก รวมถึงธุรกิจร้านอาหารไทยอีกจำนวนมาก

ทั้งนี้มีนักลงทุนไทยอยู่ในกัมพูชาหลายร้อยราย ส่วนใหญ่เป็นการค้าปลีกและภาคบริการ สร้างงานจำนวนมากให้กับแรงงานท้องถิ่น ปัญหาความไม่แน่นอนในเวลานี้ทำให้นักลงทุนเริ่มลังเล โดยเฉพาะการลงทุนระยะยาวที่ต้องการเสถียรภาพด้านนโยบายและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ในอดีตไทยเคยเป็นนักลงทุนต่างชาติอันดับต้น ๆ ของกัมพูชา แต่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ที่มีปัญหากลายเป็นอุปสรรคจนไทยหล่นไปอยู่อันดับ 9 ของนักลงทุนต่างชาติในกัมพูชา รองจากจีน สหรัฐฯ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

 

related