ดร.จอห์น นำทัพสภากทม. ปรับปรุง MOU สภาเซี่ยงไฮ้ ยกระดับพัฒนาคน-เมือง
ดร.จอห์น นำทัพสภากทม. ปรับปรุง MOU สภาเซี่ยงไฮ้ ยกระดับพัฒนาคน พัฒนาเมืองร่วมกัน ต่อยอดความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นที่มีมาอย่างยาวนานกว่า 26 ปี
วันที่ 17 มิ.ย. 68 เวลา17.35 น. ตามเวลาท้องถิ่นสาธารณรัฐประชาชนจีน นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา (ดร.จอห์น) ประธานสภากรุงเทพมหานคร นำคณะสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เดินทางเข้าเยี่ยมคารวะ นางสาวหวง ลี่ซิน ประธานสภาประชาชนเทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ และร่วมพิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการแลกเปลี่ยนความร่วมมือฉันมิตร ระหว่าง สภาประชาชนเทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ กับสภากรุงเทพมหานครแห่งราชอาณาจักรไทย โดยมีคณะผู้แทนจากสภาประชาชนเทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ ร่วมเป็นสักขีพยาน
โดยการปรับปรุง MOU ในครั้งนี้ เป็นการต่อยอดความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นที่มีมาอย่างยาวนานกว่า 26 ปี นับตั้งแต่ลงนามฉบับแรกในปี พ.ศ. 2542 (ค.ศ. 1999) โดยมุ่งเน้นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านกฎหมายท้องถิ่น การบริหารจัดการเมือง การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงการส่งเสริมศักยภาพของประชาชนในทั้งสองมหานคร
ในฐานะประธานสภากรุงเทพมหานคร ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้นำคณะสมาชิกมาเยือนนครเซี่ยงไฮ้อีกครั้ง พร้อมร่วมลงนามปรับปรุงบันทึกความเข้าใจฉบับใหม่ ที่สะท้อนเจตนารมณ์ร่วมกันของทั้งสองเมืองในการเดินหน้าพัฒนาอย่างยั่งยืน ดร.จอห์น กล่าวระหว่างพิธี
ผมขอแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งต่อการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากสภาประชาชนเทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ เซี่ยงไฮ้เป็นมหานครที่มีพลังสร้างสรรค์ เติบโตอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน กรุงเทพฯ ก็เป็นเมืองที่มีชีวิตชีวา เต็มไปด้วยศักยภาพ ความร่วมมือนี้จะเป็นสะพานเชื่อมโยงการพัฒนาคนและเมืองของทั้งสองฝ่าย ให้สามารถเรียนรู้ แลกเปลี่ยน และเติบโตไปด้วยกันในยุคแห่งความเปลี่ยนแปลง
ความร่วมมือที่ลงนามครั้งนี้ยังเกิดขึ้นในช่วงเวลาสำคัญคือเนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ซึ่งตอกย้ำถึงมิตรภาพอันยั่งยืนและแนวทางการพัฒนาร่วมกันในระดับเมือง
"แม้กรุงเทพฯ และเซี่ยงไฮ้จะมีบริบทที่แตกต่างกัน ทั้งด้านภูมิศาสตร์ วัฒนธรรม และโครงสร้างเมือง แต่สิ่งที่เรามีเหมือนกันคือความมุ่งมั่นในการสร้างเมืองที่น่าอยู่สำหรับประชาชนของเรา การจับมือกันครั้งนี้ จะช่วยให้เราสามารถเดินหน้าสู่เป้าหมายร่วมกันได้มั่นคงยิ่งขึ้น" ดร.จอห์น กล่าวทิ้งท้าย
ภายใต้บันทึกความเข้าใจฉบับใหม่นี้ ทั้งสองเมืองจะเดินหน้าสานต่อความร่วมมือในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านการบริหารเมืองอัจฉริยะ การจัดการสิ่งแวดล้อม การพัฒนาเยาวชน และการส่งเสริมบทบาทของสภาท้องถิ่นในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้นอย่างแท้จริง
