svasdssvasds

กระทรวงเกษตรฯ เร่งช่วยเกษตรกรน้ำท่วม ระบายน้ำ เยียวยา ป้องกันโรค

กระทรวงเกษตรฯ เร่งช่วยเกษตรกรน้ำท่วม ระบายน้ำ เยียวยา ป้องกันโรค

เกษตรกรเฮ! กระทรวงเกษตรฯ มีแนวทางรับมือและเยียวยาน้ำท่วมครบวงจร ทั้งเร่งระบายน้ำ, สายด่วน 1460, เจ้าหน้าที่ดูแลใกล้ชิด, แถมคู่มือป้องกันโรคพืช-สัตว์เฉพาะภูมิภาค

SHORT CUT

  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน เกาะติดสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และมีแนวทางในการ เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่เกษตรทันที พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ และเฝ้าระวังฝนตกซ้ำและน้ำจากต้นน้ำไหลหลากอย่างต่อเนื่อง
  • เจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอและตำบลทำหน้าที่เป็นด่านหน้า ในการเฝ้าระวังและให้คำแนะนำเกษตรกรอย่างใกล้ชิด
  • มีคำแนะนำสำหรับเกษตรกรในพื้นที่เสี่ยงภัยและชาวประมงให้ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

เกษตรกรเฮ! กระทรวงเกษตรฯ มีแนวทางรับมือและเยียวยาน้ำท่วมครบวงจร ทั้งเร่งระบายน้ำ, สายด่วน 1460, เจ้าหน้าที่ดูแลใกล้ชิด, แถมคู่มือป้องกันโรคพืช-สัตว์เฉพาะภูมิภาค

นายเอกภาพ พลซื่อ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งกรมชลประทานเกาะติดสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด หลังฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำน้ำล้นตลิ่งในหลายพื้นที่ พร้อมย้ำแนวทางปฏิบัติในช่วงประสบภัยพิบัติ ดังนี้

1. เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่เกษตรทันทีเมื่อน้ำเริ่มขัง พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ
2. เฝ้าระวังสถานการณ์ฝนตกซ้ำ และน้ำจากต้นน้ำไหลหลาก
3. ประสานกับท้องถิ่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคีเครือข่ายในพื้นที่เพื่อสนับสนุนการตอบสนองเร่งด่วน
4. ให้เจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอและตำบล เป็นด่านหน้าในการเฝ้าระวังและให้คำแนะนำเกษตรกรอย่างใกล้ชิด

กระทรวงเกษตรฯ เร่งช่วยเกษตรกรน้ำท่วม ระบายน้ำ เยียวยา ป้องกันโรค

ทั้งนี้กรมชลประทานได้ร่วมทำงานกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อร่วมกันแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง และพร้อมที่จะเข้าไปช่วยประชาชนได้ตลอดเวลา 
กระทรวงเกษตรฯ เร่งช่วยเกษตรกรน้ำท่วม ระบายน้ำ เยียวยา ป้องกันโรค

ล่าสุด ขอให้ประชาชนในพื้นที่ลุ่มน้ำปิง วัง ยม น่าน รวมไปถึงพื้นที่เสี่ยงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่าอย่างต่อเนื่อง และขอให้ติดตามประกาศจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด หากต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกรมชลประทาน 1460 หรือ โครงการชลประทานใกล้บ้านได้ตลอด 24 ชั่วโมง

กระทรวงเกษตรฯ เร่งช่วยเกษตรกรน้ำท่วม ระบายน้ำ เยียวยา ป้องกันโรค

นายเอกภาพ ขอย้ำเตือนเกษตรกรในพื้นที่เสี่ยงภัย ที่มีฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ให้ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากช่วงวันที่ 23-25 ก.ค. 68 ชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง  พร้อมมีแนะนําเกษตรกร ดังนี้ 

ภาคเหนือ เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคใบจุดและโรคเน่าเละในพืชตระกูลกะหล่ำและผักกาด เช่น คะน้า กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก บรอกโคลีกวางตุ้ง ผักกาดขาว และผักกาดหอม เป็นต้น นอกจากนี้ควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่การเกษตร

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกษตรกรควรดูแลหลังคาโรงเรือนเลี้ยงสัตว์อย่าให้มีรอยรั่วซึม และทำแผงกำบังลมและฝนให้แก่สัตว์เลี้ยง นอกจากนี้ไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่ชื้นแฉะเป็นเวลานานเพราะอาจทำให้เป็นโรคปากและเท้าเปื่อยโดยเฉพาะสัตว์เท้ากีบ เช่น โค กระบือ และสุกร เป็นต้น และควรระวังโรคที่มาพร้อมกับน้ำท่วม เช่นโรคเครียด โรคฉี่หนู โรคน้ำกัดเท้า โรคตาแดง และโรคอุจจาระร่วง เป็นต้น

ภาคกลาง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก นอกจากนี้ควรดูแลสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันโรคพืชที่เกิดจาก
เชื้อรา

กระทรวงเกษตรฯ เร่งช่วยเกษตรกรน้ำท่วม ระบายน้ำ เยียวยา ป้องกันโรค

ภาคตะวันออก เกษตรกรควรผูกยึดค้ำยันกิ่งไม้ผลให้มั่นคงแข็งแรง สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ น้ำในบ่อเลี้ยงไม่ควรปล่อยให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อ เพราะจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยน สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน ทำให้อ่อนแอ และเป็นโรคได้ง่าย หลังจากฝนตกควรเปิดเครื่องตีน้ำ เพื่อป้องกันน้ำแยกชั้นและเพิ่มออกซิเจนให้กับน้ำ

ภาคใต้ เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อเลี้ยงไม่ควรปล่อยให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อ เพราะจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยน สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน ทำให้อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย หลังจากฝนตกควรเปิดเครื่องตีน้ำ เพื่อป้องกันน้ำแยกชั้นและเพิ่มออกซิเจนให้กับน้ำ นอกจากนี้ควรดูแลสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา

related