ท่ามกลางโกรธเคืองหลังการปะทะกับกัมพูชาที่ทำให้มีพลเรือนไทยเสียชีวิต นักวิชาการเตือนคนไทยระมัดระวังการปลุกกระแสคลั่งชาติ เมื่อทุกคนก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน
หลังเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยและกัมพูชาในหลายพื้นที่ เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 24 ก.ค. 68 โดยมีรายงานว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงก่อน ทั้งยังมีพื้นที่ที่พลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตีจากฝ่ายกัมพูชา ทำให้มีคนไทยเสียชีวิต 12 ราย ป็นประชาชน 11 ราย กับทหาร 1 นาย และมีผู้บาดเจ็บอีกอย่างน้อย 30 ราย ส่วนชาวบ้านบริเวณชายแดนต้องเตรียมตัวอพยพ
แน่นอนว่าเหตุการณ์ดังกล่าวได้ก่อให้เกิดความโกรธเคืองในหมู่ชาวไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะกระแสที่เกิดขึ้นในโลกออนไลน์ หลังมีผู้ใช้โซเชียลมีเดียบางคนโพสต์ข้อความแสดงความไม่พอใจที่สื่อให้เห็นถึงความพยายามที่จะ 'แก้แค้น' ด้วยการทำร้ายหรือคุกคามชาวกัมพูชาที่อาศัยในประเทศไทย เช่น ‘ไล่เก็บพวกเหมนที่อยู่ในไทยดีกว่า’ หรือ ‘ใครพูดไม่ชัด...ซัดหมดตอนนี้’ทั้งยังมีผู้ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น กดถูกใจ และแชร์ต่อกันไปเป็นวงกว้าง
อย่างไรก็ตามยังมีกระแสของชาวไทยอีกฝั่งที่มองว่า แม้กัมพูชาจะเป็นฝ่ายผิดและต้องรับผิดชอบต่อการกระทำที่เป็นต้นเหตุให้มีพลเรือนไทยเสียชีวิต แต่ไม่ได้หมายความว่าคนไทยต้องหันไปใช้ความรุนแรงต่อชาวกัมพูชาทุกคนที่อาศัยในประเทศไทย ซึ่งส่วนใหญ่เข้ามาเพื่อรับจ้างทำงานหาเลี้ยงครอบครัว และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำของกองทัพหรือรัฐบาลกัมพูชา จึงมองว่าไม่ควรปลุกปั่นกระแสคลั่งชาติแล้วทำร้ายชาวกัมพูชาอย่างไร้เหตุผล
หนึ่งในนั้นคือนายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการอิสระ ที่โพสต์เฟซบุ๊กเตือนใจคนไทย โดยเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ที่สถานทูตไทยในกัมพูชาถูกเผาและคนไทนในกัมพูชาถูกคุกคามโดยชาวกัมพูชาบางคนที่ 'คลั่งชาติ' พร้อมย้ำว่าคนไทยบางส่วนในวันนี้กำลังอยากทำแบบเดียวกับชาวกัมพูชาในวันนั้น
นายปวินเล่าความรู้สึกในอดีตที่ตนเคยถามตัวเองว่า เราผิดอะไรที่เป็นคนไทย ซึ่งในวันนี้คนกัมพูชาก็คงคิดแบบเดียวกันว่า เขาผิดอะไรที่เป็นคนกัมพูชา
พร้อมย้ำด้วยว่า เกมนี้โหดร้ายป่าเถื่อนมาก ถ้าเราทำคนกัมพูชาในไทย ก็ให้ระวังคนไทยและทรัพย์สินไทยในกัมพูชาด้วย ซึ่งมีมากกว่ามาก และอย่าหวังว่ารัฐบาลกัมพูชาจะคุ้มครอง