รมว.-รมช.เกษตรฯ ลุย “น่าน-พะเยา” สู้ภัยน้ำท่วม เร่งฟื้นฟูเกษตรกร
รมว.-รมช.เกษตรฯ ลุย “น่าน-พะเยา” สู้ภัยน้ำท่วม! เร่งฟื้นฟูเกษตรกร-ปรับนโยบายรับโลกร้อน ดัน “บางระกำโมเดล” พลิกโฉมเกษตรไทย
SHORT CUT
- รัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ลงพื้นที่จังหวัดน่านและพะเยา เพื่อประเมินความเสียหายและให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยจากพายุโซนร้อน "วิภา" อย่างเร่งด่วน.
- ที่จังหวัดน่าน นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ได้สั่งการให้ส่งความช่วยเหลือทันที เช่น รถบรรทุกน้ำ เครื่องสูบน้ำ ถุงยังชีพ และอาหารสัตว์ หลังพบพื้นที่เกษตรเสียหายกว่า 56,749 ไร่ พร้อมเน้นการทำงานเชิงรุกร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่น.
- ที่จังหวัดพะเยา นายอัครเดช ยอดจำปา ได้ติดตามการบริหารจัดการน้ำ และเสนอแนวทาง "บางระกำโมเดล" เพื่อรับมือภาวะโลกร้อน โดยรวมถึงการสร้างแก้มลิง ส่งเสริมการปลูกข้าวนาปรัง และการปรับพื้นที่นาเป็นบ่อปลาในช่วงน้ำท่วม เพื่อลดความเสี่ยงจากน้ำท่วมและสนับสนุนรายได้เกษตรกร.
รมว.-รมช.เกษตรฯ ลุย “น่าน-พะเยา” สู้ภัยน้ำท่วม! เร่งฟื้นฟูเกษตรกร-ปรับนโยบายรับโลกร้อน ดัน “บางระกำโมเดล” พลิกโฉมเกษตรไทย
เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในภาคเหนือ ซึ่งได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อน “วิภา” อย่างรุนแรง โดยมีพื้นที่เกษตรกรรมและบ้านเรือนได้รับความเสียหายจำนวนมาก
นายอรรถกร เดินทางไปยังจังหวัดน่าน ตรวจสอบความเสียหายและประชุมหารือแนวทางจัดการน้ำกับหัวหน้าส่วนราชการ ณ สนามบินน่านนคร พร้อมสั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งลงพื้นที่สำรวจข้อมูลความเสียหายอย่างละเอียด พบว่าพื้นที่เกษตรได้รับผลกระทบรวมกว่า 56,749 ไร่ ครอบคลุม 11 อำเภอ โดยเป็นพื้นที่ปลูกข้าวกว่า 39,600 ไร่ พืชไร่-ผัก 8,400 ไร่ และไม้ผล-ไม้ยืนต้นอีกกว่า 8,600 ไร่
ทั้งนี้ ได้จัดทีมเจ้าหน้าที่พร้อมรถบรรทุกน้ำ เครื่องสูบน้ำ ถุงยังชีพ และหญ้าอาหารสัตว์ลงช่วยเหลือในทันที โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอท่าวังผา ซึ่งรัฐมนตรีได้เดินทางไปให้กำลังใจประชาชนพร้อมมอบถุงยังชีพกว่า 1,000 ชุด และสนับสนุนสารชีวภัณฑ์เพื่อการฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำลด พร้อมเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานทำงานเชิงรุก บูรณาการกับท้องถิ่นโดยเร็ว บนหลักความปลอดภัยสูงสุด
ขณะเดียวกัน นายอัครา พรหมเผ่า ได้ลงพื้นที่จังหวัดพะเยา ประชุมติดตามการบริหารจัดการน้ำ ณ ห้องประชุมสถานีประมงน้ำจืด พร้อมชื่นชมการทำงานของกรมชลประทานที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดี และคาดว่าหากไม่มีฝนตกเพิ่ม จะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 3-5 วัน
ในโอกาสนี้ นายอัคราได้มอบนโยบายเชิงรุกให้หน่วยงานในสังกัดปรับแนวทางทำงานสู้โลกร้อน โดยนำ "บางระกำโมเดล" มาปรับใช้ อาทิ สำรวจพื้นที่สาธารณะทำแก้มลิงและจุดกักเก็บน้ำ เพิ่มการเกษตรแบบนาปรังแทนนาปี และแปลงนาปีให้เป็นบ่อประมงในฤดูน้ำหลาก พร้อมให้ส่งเจ้าหน้าที่ถ่ายภาพพื้นที่น้ำท่วมเพื่อเร่งทำแผนเยียวยาเกษตรกรโดยเร็ว และมอบหมายกรมพัฒนาที่ดินบูรณาการกับองค์กรที่เกี่ยวข้องเพื่อทำจุดกักเก็บน้ำนอกเขตชลประทาน
จากนั้น นายอัคราและคณะได้เดินทางต่อไปยังชุมชนบ้านบุญเกิด อ.ดอกคำใต้ และบริเวณกว๊านพะเยา อ.เมือง เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม พร้อมลงพื้นที่มอบข้าวกล่อง น้ำดื่ม และประกอบอาหารเมนู “ข้าวไข่เจียวฮักบ้านเกิด” ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นแก่ประชาชน
ต่อมา ได้เดินทางไปยังเทศบาลตำบลบ้านสาง อ.เมือง เพื่อรับฟังผลการดำเนินโครงการพัฒนากว๊านพะเยา โดยมีแผนขุดลอกตะกอนดินกว่า 82,400 ลูกบาศก์เมตร ลึก 2.5 เมตร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกักเก็บและระบายน้ำ พร้อมวางระบบควบคุมและผันน้ำจากกว๊านสู่แปลงเกษตร ลดความเสี่ยงน้ำท่วมและสร้างรายได้ต่อเนื่องให้ชุมชน
นายอรรถกรย้ำว่า ทั้งกระทรวงเกษตรฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะไม่ละเลย พร้อมเร่งฟื้นฟูและช่วยเหลือเกษตรกรให้กลับมาดำเนินชีวิตตามปกติโดยเร็วที่สุด ทั้งในจังหวัดน่านและพะเยา โดยถือเป็นภารกิจสำคัญเร่งด่วนของรัฐบาลในช่วงวิกฤตภัยธรรมชาตินี้.
