SHORT CUT
สุดารัตน์ชี้ไทยวิกฤต ผู้นำไร้วิสัยทัศน์ เสนอ 3 ทางรอด ฟื้นประเทศด้วยการเมืองสุจริต ปฏิรูปโครงสร้าง และปกป้องสถาบันหลัก
พรรคไทยสร้างไทยจัดสัมมนาเชิงยุทธศาสตร์ภายใต้หัวข้อ "เศรษฐกิจไทยจะรอดได้อย่างไร" โดยช่วงเช้าได้รับเกียรติจากนักเศรษฐศาสตร์ร่วมบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกและไทย ขณะที่ภาคบ่ายเป็นเวทีระดมความคิดเห็นเพื่อกำหนดอุดมการณ์ ยุทธศาสตร์ และนโยบายพรรค สำหรับการขับเคลื่อนประเทศไทยในอนาคต
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวระหว่างเปิดงานว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ โดย GDP เติบโตต่ำเพียง 1.5–2% กำลังซื้อของประชาชนถดถอย รายได้ไม่พอเลี้ยงชีพ และขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง พร้อมเปรียบเทียบว่า
“ประเทศไทยวันนี้เหมือนคนแก่ที่ยากจนและกำลังป่วยหนัก”
หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทยระบุว่า รากเหง้าของปัญหาเศรษฐกิจและสังคมที่รุมเร้าประเทศ มาจากการบริหารที่ล้มเหลวในหลายด้าน ทั้งการศึกษาที่ไม่ตอบโจทย์ โครงสร้างเศรษฐกิจล้าหลัง ค่าแรงที่สูงเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพ แรงงานไร้ทักษะ ขาดนวัตกรรม และการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยโดยปราศจากการเตรียมพร้อม
อีกทั้ง โครงสร้างงบประมาณล้าสมัย ยังเปิดช่องให้เกิดการรั่วไหลสูงถึง 30% ในบางโครงการ และกฎหมายจำนวนมากยังคงเป็นอุปสรรคต่อการลงทุนและการประกอบอาชีพ
ด้านการเมืองก็ไม่ต่างกัน โดยเฉพาะการใช้เงินมหาศาลในการเลือกตั้งที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนถึงระบบที่ขาดวิสัยทัศน์ มุ่งเน้นเพียงผลประโยชน์ระยะสั้น ใช้นโยบายประชานิยมเพียงเพื่อหาเสียง และกลายเป็นช่องทางแสวงหาผลประโยชน์ผ่านโครงการรัฐ
ด้าน ดร.โภคิน พลกุล ประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยสร้างไทย เสริมว่า ประเทศไทยกำลังเสี่ยงเป็น "รัฐล้มเหลว" จากปัญหาคอร์รัปชัน การเมืองไร้จริยธรรม และระบบราชการที่ไร้ประสิทธิภาพ พร้อมชี้ว่าไทยไม่สามารถปรับตัวตามโลกที่เปลี่ยนแปลงได้ทัน ไม่ว่าจะเป็นสงครามการค้า สินค้าราคาถูกจากต่างชาติ ปัญหาสิ่งแวดล้อม หรือการใช้เทคโนโลยีและ AI ที่รัฐบาลยังไม่จริงจัง
นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่าประเทศไทยเคยมีโอกาสเติบโตทางเศรษฐกิจจากการส่งออกและดึงดูดการลงทุน แต่ในยุคปัจจุบันจำเป็นต้องคิดใหม่และลดการพึ่งพาภายนอก หันมาเน้นการผลิตในประเทศ การปฏิรูปกฎหมาย สนับสนุน SMEs อย่างแท้จริง และใช้วิทยาศาสตร์-สติปัญญาแทนความเชื่อแบบเดิม
วิทยากรที่ร่วมบรรยาย ต่างเห็นพ้องว่าประเทศจำเป็นต้องปฏิรูปโครงสร้างทั้งการเมือง การบริหาร และระบบเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน หากยังคงปล่อยให้น้ำเน่า – หมายถึงการเมืองที่ทุจริต – ไหลเวียนอยู่ ปลาแม้จะแข็งแรงแค่ไหนก็ไม่อาจอยู่รอดได้ พร้อมย้ำว่าประชาชนต้องมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนประเทศอย่างแท้จริงเพื่อฟื้นความหวังของชาติไทยในอนาคต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง