เปิด 3 กลุ่มที่ถูกจำกัดวงเงินโอน 5 หมื่นบาท/วัน ไม่ใช่ทุกคน !
ธนาคารแห่งประเทศไทย ชี้ไม่ต้องกังวล ไม่ใช่ทุกคนจะถูกจำกัดวงเงินโอน 5 หมื่นบาทต่อวัน พาเปิด เปิด 3 กลุ่มที่จะถูกจำกัดวงเงินโอน
SHORT CUT
- ทุกวันนี้บ้านเรายังแนวโน้มการถูกมิจฉาชีพ หรือแก็งคอลเซนเตอร์ หลอกลวงให้โอนเงินต่างๆ ยังอยู่ระดับสูง
- ล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ยอดถูกหลอกผ่านมิจฉาชีพยังพุ่งสูงขึ้น จึงพร้อมเตรียมออกมาตรการลดความเสียหายจากการถูกหลอก โดยการให้แบงก์กำหนดการโอนเงิน หรือชำระเงินขั้นต่ำไม่เกิน 5 หมื่นบาทต่อวัน
- ลูกค้าบางกลุ่มที่จะถูกกำหนดวงเงินไม่เกิน 50,000 บาท ได้แก่ เสี่ยงเป็นมิจฉาชีพ สถาบันการเงินยังรู้จักน้อย และลูกค้าที่ปกติโอนไม่เกิน 50,000 บาท
ธนาคารแห่งประเทศไทย ชี้ไม่ต้องกังวล ไม่ใช่ทุกคนจะถูกจำกัดวงเงินโอน 5 หมื่นบาทต่อวัน พาเปิด เปิด 3 กลุ่มที่จะถูกจำกัดวงเงินโอน
ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้บ้านเรายังแนวโน้มการถูกมิจฉาชีพ หรือ แก็งคอลเซนเตอร์ หลอกลวงให้โอนเงินต่างๆ ยังอยู่ระดับสูง โดยล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ยอดถูกหลอกผ่านมิจฉาชีพยังพุ่งสูงขึ้น จึงพร้อมเตรียมออกมาตรการลดความเสียหายจากการถูกหลอก โดยการให้แบงก์กำหนดการโอนเงิน หรือชำระเงินขั้นต่ำไม่เกิน 5 หมื่นบาทต่อวัน
ทั้งนี้ลูกค้าจะได้วงเงินที่เหมาะสมกับจำนวนเงินที่เคยโอนตามปกติ อย่างเช่น ปกติโอนเกิน 50,000 บาท ก็จะได้รับวงเงินสูงกว่า 50,000 บาท
อย่างไรก็ตามเพื่อให้มาตรการที่ออกมาได้ผลตามที่ต้องการจะมีลูกค้าบางกลุ่มที่จะถูกกำหนดวงเงินไม่เกิน 50,000 บาท ได้แก่
1. เสี่ยงเป็นมิจฉาชีพ
2. สถาบันการเงินยังรู้จักน้อย
3. ปกติโอนไม่เกิน 50,000 บาท
ซึ่งลูกค้ากลุ่ม 2 และ 3 หากจำเป็นต้องโอนเงินกรณีฉุกเฉิน หรือต้องการวงเงินเพิ่มขึ้น สามารถติดต่อสถาบันการเงินได้ ผ่านช่องทางที่แต่ละสถาบันการเงินกำหนด เช่น mobile baking/ call center / สาขา ในส่วนลูกค้าสูงวัยที่อาจมีความเสี่ยง สถาบันการเงินจะดูแลเป็นพิเศษ โดยปรับวงเงินให้เหมาะสมกับจำนวนเงินที่ลูกค้าโอนตามปกติ แต่ลูกค้าสามารถยืนยันขอใช้วงเงินเดิมได้
อย่างไรก็ตาม ธปท. ได้ตระหนักว่าธุรกรรมดังกล่าว อาจกระทบต่อการทำธุรกรรมสำหรับลูกค้าบางคน หรือบางกลุ่มได้ ดังนั้นการกำหนดวงเงินการโอนเงิน จะขึ้นอยู่การพิจารณาของแบงก์ โดยดูจากพฤติกรรม และธุรกรรมการเงินในอดีตร่วมด้วย อย่างไรก็ดีมาตรการดังกล่าวสำหรับลูกค้าปัจจุบันภายในสิ้นปี 2568 แต่สำหรับลูกค้าใหม่ มาตรการนี้จะมีผลบังคับใช้ทันที เพื่อคุ้มครองลูกค้าได้เร็วขึ้น ทั้งนี้ทั้งหมดนี้หากธนาคารใดมีความพร้อมสามารถดำเนินมาตรการดังกล่าวได้ทันที
ในส่วนขอแนวโน้มการถูกทุจริตการเงิน พบว่า ความเสียหายจากการถูกหลอกโอนเงินยังอยู่ระดับสูง โดยยังไม่ได้ลดลงหากเทียบกับอดีต โดยเฉพาะการถูกหลอกให้โอนเงินให้มิจฉาชีพเอง ที่พบว่าความเสียหาย ในไตรมาสที่ 2 ยังอยู่ระดับสูงที่ 6,000 ล้านบาท เฉลี่ย 2,000 ล้านต่อเดือน ลดลงจากไตรมาส 2/2567 มีมูลค่าความเสียหาย 8,590 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน ณ เดือนกรกฎาคม 2568 สามารถระงับบัญชี 3 ล้านบัญชี คิดเป็นรายชื่อม้า 1.77 แสนรายชื่อ ทั้งนี้หากดูข้อมูลความเสียหายจากการหลอกลวงในเดือนมิถุนายน 2568 มีจำนวนความเสียหาย 24,500 เคส ความเสียหายรวม 2,800 ล้านบาท เฉลี่ย 114,000 บาทต่อเคส
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
