SHORT CUT
‘ศ.กิตติคุณ ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ’ อดีตประธาน กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ และเลขาฯ ครม. ตอบรับนั่ง รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ในโผ ครม. “อนุทิน 1” โควตาคนนอก (8 ก.ย. 2568)
เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2568 ในการจัดทำโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ ภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีรายงานว่าได้มีการทาบทาม ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และอดีตเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เข้ารับตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี เพื่อดูแลงานด้านกฎหมายของรัฐบาล ล่าสุด ดร.บวรศักดิ์ได้ตอบรับเข้าร่วมแล้ว
ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร. บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เกิดเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2497 ที่จังหวัดสงขลา เป็นบุตรคนที่ 7 ของครอบครัวอุวรรณโณ ซึ่งมีสายสัมพันธ์กับนักกฎหมายและนักวิชาการชื่อดังอย่างศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร. วิษณุ เครืองาม เส้นทางชีวิตของบวรศักดิ์เต็มไปด้วยบทบาทสำคัญทั้งด้านวิชาการ การเมือง และการปฏิรูปรัฐ โดยเขาถือเป็นหนึ่งในนักกฎหมายที่มีอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์การเมืองไทยสมัยใหม่
บวรศักดิ์เริ่มต้นการศึกษาในโรงเรียนท้องถิ่นที่สงขลา ก่อนจะเข้ามาเรียนมัธยมที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กรุงเทพฯ จากนั้นสอบเข้าคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และจบการศึกษาในปี พ.ศ. 2518 ด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่งเหรียญทอง ก่อนสอบเป็นเนติบัณฑิตไทยได้อันดับ 3 ของรุ่น เมื่ออายุเพียงยี่สิบต้น ๆ เขาได้รับทุนไปศึกษาต่อที่ประเทศฝรั่งเศส จบปริญญาโทด้านกฎหมายปกครองและปริญญาเอกกฎหมายมหาชนทั่วไปจากมหาวิทยาลัยปารีส ได้รับการยอมรับในแวดวงวิชาการว่าเป็นผู้มีความรู้ลึกซึ้งด้านกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายปกครอง
เส้นทางอาชีพของบวรศักดิ์เริ่มต้นจากการเป็นอาจารย์ที่คณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ ตั้งแต่ปี 2519 ซึ่งต่อมาเขาก้าวขึ้นเป็นคณบดีในปี 2538 นอกจากงานสอนแล้ว เขายังเข้าสู่การทำงานทางการเมืองและนโยบาย โดยเคยดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองในช่วงปลายทศวรรษ 2530 ก่อนหวนกลับสู่สายวิชาการอีกครั้ง เขามีบทบาทสำคัญในฐานะเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้าและเลขาธิการคณะรัฐมนตรี รวมทั้งเคยเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญปี 2540 และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติหลังรัฐประหาร 2549
หลังการรัฐประหาร พ.ศ. 2557 บวรศักดิ์ได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญปี 2558 และรองประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติด้านกฎหมาย แม้ร่างรัฐธรรมนูญในเวลานั้นไม่ผ่านประชามติ แต่บทบาทของเขาสะท้อนถึงความไว้วางใจที่ผู้มีอำนาจรัฐและสังคมมีต่อความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายของเขาอย่างต่อเนื่อง เขายังทำงานในภาคเอกชน เป็นกรรมการอิสระของบริษัทพลังงานและก่อสร้างหลายแห่ง ควบคู่ไปกับงานวิชาการและการพัฒนานโยบายสาธารณะ
ตลอดเส้นทางชีวิต เขาได้รับรางวัลนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขานิติศาสตร์ ปี 2542 และได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์กิตติคุณในปี 2545 อีกทั้งยังได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงของไทย รวมถึงเครื่องราชฯ ต่างประเทศ เช่น Order of Orange-Nassau จากเนเธอร์แลนด์ และ National Order of Merit จากฝรั่งเศส
ในปัจจุบัน บวรศักดิ์ยังคงทำงานเพื่อสังคมในฐานะนายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา และประธานมูลนิธินักศึกษาสถาบันพระปกเกล้าเพื่อสังคมที่มุ่งพัฒนาเครือข่ายเยาวชน เขาถูกมองว่าเป็น “สมองทางกฎหมาย” ที่ขับเคลื่อนทั้งรัฐและสังคมไทย และล่าสุดยังได้รับการทาบทามให้เป็นรองนายกรัฐมนตรี เพื่อช่วยงานด้านกฎหมายในรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง