"เงินบาทแข็งค่า" คนไทยมีโอกสาสทำไรบ้าง? เพื่อชิงความได้เปรียบ

เชื่อว่าปลายปีแบบนี้หลายคนวางแผนไปเที่ยวต่างประเทศ หรือบางคนมีแผนที่จะไปเรียนต่อต่างประเทศ แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะ…เงินบาทไทยมีแนวโน้มแข็งค่า โดยเห็นได้จากช่วงที่ผ่านมาเงินบาทแข็งค่าที่สุดในรอบ 4 ปี แข็งกว่าเงินหลายสกุลในภูมิภาคเดียวกัน โดย ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ SCB EIC เผยว่าว่า ตั้งแต่ต้นปี 2568 เงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นมากว่าร้อยละ 8 และแข็งค่ามากสุดในรอบ 4 ปี นำค่าเงินภูมิภาค ซึ่งหากพิจารณาดัชนีค่าเงินบาทเปรียบเทียบค่าเงินบาทกับสกุลเงินคู่ค้าและคู่แข่ง (NEER) พบว่าปรับแข็งค่าสูงสุดตั้งแต่วิกฤติการเงินเอเชียปี 2540

สำหรับสาเหตุที่ทำให้เงินบาทแข็งค่า คือ

1.ดอลลาร์อ่อนค่าเร็ว

2.ราคาทองคำเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทำ New high ตามความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์

3.ปัจจัยระยะสั้น เงินทุนไหลกลับเข้าตลาดบอนด์ไทย

ทั้งนี้จากปัจจัยดังกล่าวจึงทำให้เงินบาทแข็งค่าสวนทางปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจไทยที่เติบโตต่ำ ทำให้ซ้ำเติมการส่งออกไทยไปอีก ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ต้องเผชิญแรงกดดันจากภาษี Reciprocal tariff ของสหรัฐฯ แต่แนวโน้มในอนาคตระยะข้างหน้าเงินบาทจะแข็งค่าเพิ่มอีกไม่มาก เนื่องจากตลาดได้ Price-in ปัจจัยส่วนต่างดอกเบี้ยสหรัฐฯ-ไทยไปมากแล้ว

รวมไปจนถึงแรงกดดันที่จะทำให้ดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเพิ่มเติมมีน้อยลง นอกจากนี้ปัจจัยหนุนให้ราคาทองคำสูงขึ้นต่อเริ่มมีน้อยลง จึงทำให้อุปสงค์ทองคำอาจไม่เร่งตัวมากเท่าช่วงที่ผ่านมา แรงกดดันเงินบาทแข็งจึงอาจมีไม่มาก จึงมองกรอบเงินบาทปลายปีนี้ที่ราว 31.50-32.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

อย่างไรก็ตามสำหรับคนไทยที่ทำธุรกิจ หรือคนที่อยากชิงความได้เปรียบ สบช่องหาโอกาสในช่วงที่เงินบาทแข็งค่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) เผยว่า สามารถชิงความได้เปรียบได้ดังนี้

• คนไทยจะซื้อของนำเข้าถูกลง
• ท่องเที่ยวต่างประเทศคุ้มค่า
• เรียนต่อต่างประเทศประหยัด
• ใช้หนี้ต่างประเทศเบาลง
• สินค้านำเข้าภายในประเทศถูกลง เพราะช่วยกดเงินเฟ้อได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• เงินบาทแข็งค่าที่สุดใน 4 ปี เพราะเงินเทากัมพูชาเข้ามาฟอก?

• สำรวจ “นครหลวงเวียงจันทน์” ลาว นักท่องเที่ยวไทยยังเบอร์1 ใช้เงินบาทได้ปกติ

• ธปท. เผยสาเหตุค่าเงินบาทผันผวน กับปัจจัยต่างประเทศ