SHORT CUT
พร้อมชี้ว่า ความสำเร็จของการขายไม่ได้ขึ้นอยู่เพียงแค่การนำสินค้าไปให้คนที่มีชื่อเสียงทำการไลฟ์สดเท่านั้น แม้ว่าคนดังคนนั้นจะมีจำนวนยอดคนดูสูงมากถึง 200,000 ถึง 300,000 คนก็ตาม
นักสื่อสื่อสารการตลาด ชี้ การจ้างคนดังไลฟ์สดยอดไม่เข้าเป้า เพราะความสำเร็จอยู่ที่ ‘คุณภาพสินค้า-ราคา’ ไม่ใช่แค่ชื่อเสียง กรณีแบรนด์จ้าง ‘เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น’ ชี้การตัดสินใจซื้อมี “หลายองค์ประกอบ”
จากปรากฏการณ์เจ้าของแบรนด์แห่จ้าง "เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น" ให้มาทำการไลฟ์ขายสินค้า บางรายปังมาก แต่บางรายออกมาโอดครวญว่าผลลัพธ์ที่ได้กลับไม่เป็นไปตามเป้าหมายยอดขายที่ต้องการ จนนำไปสู่การเกิดดราม่าตามมา ล่าสุดบนโลกออนไลน์มีนักการสื่อสารการตลาด และนักสร้างแบรนด์จำนวนหนึ่งออกมาให้ความคิดเห็นในเรื่องนี้ว่า การที่คนเราจะตัดสินใจซื้ออะไรสักอย่างนั้นประกอบด้วย "หลายองค์ประกอบมาก" ความสำเร็จของการขายไม่ได้ขึ้นอยู่เพียงแค่การนำสินค้าไปให้คนที่มีชื่อเสียงทำการไลฟ์สดเท่านั้น แม้ว่าคนดังคนนั้นจะมีจำนวนยอดคนดูสูงมากถึง 200,000 ถึง 300,000 คนก็ตาม
ส่วนองค์ประกอบสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อองค์ประกอบที่มีผลโดยตรงต่อการตัดสินใจกดตะกร้า สั่งซื้อ และโอนเงินนั้น ไม่ได้มาจากอิทธิพลของคนดังอย่างเดียว แต่มาจากตัวสินค้าและกลยุทธ์การตั้งราคาเอง โดยสามารถสรุปเป็นข้อๆ ได้ดังนี้
1. ความรู้จักของสินค้า (Product Recognition) สินค้าที่นำมาไลฟ์สดนั้นพอจะเป็นที่รู้จักมาก่อนหรือไม่
2. ความสมเหตุสมผลของราคาและคุณภาพ (Quality and Price Balance) คุณภาพของสินค้ากับราคานั้นมีความสมเหตุสมผลกันหรือไม่
3. ความเสี่ยงในการซื้อต่ำ (Low Trust Factor) หากเป็นสินค้าที่ขายง่ายและไม่จำเป็นต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจสูงมากนัก (เช่น กลุ่มของกิน น้ำพริก หรือของใช้ที่ทำความเข้าใจง่าย) อาจมีโอกาสที่คนจะกดสั่งซื้อได้ง่ายกว่า
4. หลีกเลี่ยงสินค้าแปลกหน้า สำหรับสินค้าอุปโภคบริโภคที่ต้องใช้ความเชื่อมั่นสูง เช่น สกินแคร์ ครีม หรือสบู่ คนส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยซื้อของที่แปลกหน้ามาก ๆ หรือของที่ไม่เคยเห็นเลย
ความจริงเกี่ยวกับความคาดหวังยอดขายสูง
หากแบรนด์มีความคาดหวังสูงมากถึงขั้นอยากได้ยอดขายเป็น "พันบ้าน" (พันล้าน) จากการไลฟ์สดเพียงครั้งเดียว ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าสินค้าจำเป็นต้องมีคุณสมบัติที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง คือ สินค้าจะต้องเป็นที่รู้จักมาอยู่ก่อนแล้ว และที่สำคัญที่สุดคือ ราคาจะต้อง "ดีจริง"
ทั้งนี้หากสินค้าเป็นเพียงสินค้าธรรมดาๆ แต่มีการตั้งราคาที่สูงเกินจริงจะไม่มีคนซื้ออย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ผู้บริโภคสามารถเดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ (เช่น เซเว่น) และสามารถพบสินค้าประเภทเดียวกันที่ตั้งราคาอย่างสมเหตุสมผล
เปลี่ยนมุมมอง โฟกัสความคุ้มค่าด้าน Exposure
สำหรับเจ้าของแบรนด์ที่รู้สึกว่าผลลัพธ์ยอดขายไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ "เปลี่ยน mindset ใหม่" โดยหันมาโฟกัสที่มูลค่าของการเข้าถึง (Exposure Value) แทน
• ความคุ้มค่าด้านจำนวนผู้ชม การได้นำสินค้าไป "ออกกล้องในไลฟ์ของเจนนี่" ซึ่งมีคนดูหลักเป็นแสนวิว ในช่องทางของคนดังนั้น ถือว่าคุ้มค่ามากแล้ว
• ความคุ้มค่าด้านต้นทุน ในกรณีนี้การรับไลฟ์สดในราคาเพียง 50,000 บาท ถือว่าคุ้มค่าอย่างมาก เนื่องจากปกติแล้ว สำหรับคนดังที่มีผู้ติดตามหลัก 13 ล้านคน การไลฟ์สดหนึ่งครั้งอาจมีราคาสูงถึงหลักแสนบาท หรือ 200,000-300,000 บาทได้ด้วยซ้ำ
• เปรียบเทียบกับค่าโฆษณา เงิน 50,000 บาท ในการจ้างไลฟ์สด ถือว่าคุ้มค่ากว่าเมื่อเทียบกับการนำเงินจำนวนเดียวกันนี้ไปใช้ "ยิงแอด" ในสถานการณ์ปัจจุบัน
ผู้เชี่ยวชาญเน้นย้ำว่า เจ้าของแบรนด์ควรทำความเข้าใจในประเด็นนี้ และยอมรับว่าเพียงแค่สินค้าได้ไปออกกล้องในไลฟ์ของคนดังก็ถือว่า "คุ้มแล้ว" ส่วนการปั้นแบรนด์ในระยะยาว หรือการไลฟ์สดเพื่อสร้างยอดขายให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างมหาศาล อาจจะต้องรอโอกาสใน รอบต่อไปหรือจังหวะต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง