SHORT CUT
รัฐสภาไทยประสบความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ในการประชุมสหภาพรัฐสภาโลก (IPU) โดยญัตติเรื่องการปราบปรามสแกมเมอร์และอาชญากรรมข้ามชาติที่ไทยร่วมเสนอ ได้รับการโหวตให้เป็น "วาระเร่งด่วน"
การประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภาโลก (IPU) สมัยที่ 151 ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ บันทึกความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ของรัฐสภาไทย เมื่อร่างข้อมติเรื่อง "การต่อต้านอาชญากรรมองค์กรข้ามชาติ อาชญากรรมไซเบอร์ และภัยคุกคามแบบผสมผสานต่อประชาธิปไตย" ที่ไทยร่วมเสนอกับประเทศพันธมิตร ชนะคะแนนโหวตเหนือกว่า 2 ใน 3 จนได้รับการบรรจุเป็น "วาระเร่งด่วน" เพียงวาระเดียวของปีนี้
การแข่งขันในครั้งนี้มีร่างข้อมติเข้าชิงทั้งหมด 2 ฉบับ ได้แก่
1. ร่างข้อมติมาดากัสการ์ - เสนอโดยแอฟริกาใต้ในนามกลุ่มแอฟริกา เรียกร้องความร่วมมือระดับโลกเพื่อจัดการวิกฤตการณ์การเมืองและมนุษยธรรมในมาดากัสการ์หลังเกิดการรัฐประหาร
ได้คะแนน: 743 เห็นด้วย, 158 ไม่เห็นด้วย
2. ร่างข้อมติของไทยและพันธมิตร - เสนอโดยไทย อาร์เจนตินา ชิลี โปแลนด์ และสวีเดน เน้นการปราบปรามอาชญากรรมองค์กร สแกมเมอร์ และภัยคุกคามรูปแบบใหม่
ได้คะแนน: 850 เห็นด้วย, 200 ไม่เห็นด้วย (เกินเกณฑ์ 2 ใน 3 ที่ต้องการ 601 คะแนน)
จุดเปลี่ยนสู่ชัยชนะ : ขยายขอบเขตตอบโจทย์ทุกภูมิภาค
นายรังสิมันต์ โรม สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ผู้นำเสนอร่างข้อมติต่อที่ประชุมใหญ่ เปิดเผยว่า เดิมไทยมุ่งเน้นเพียงปัญหาสแกมเมอร์และอาชญากรรมไซเบอร์ แต่หลังเจรจากับประเทศพันธมิตร พบว่ากลุ่มละตินอเมริกาและยุโรปต้องการผลักดันประเด็นอาชญากรรมองค์กรและยาเสพติด
ทีมไทยจึงปรับกลยุทธ์รวมประเด็นทั้ง 3 ทวีปเข้าด้วยกัน โดยได้รับการสนับสนุนสำคัญจากออสเตรเลีย โปแลนด์ และสวีเดน ที่ช่วยเชื่อมโยงไทยกับกลุ่มประเทศยุโรปซึ่งมีคะแนนโหวตสูงที่สุด
สส.รังสิมันต์ ระบุในสุนทรพจน์ว่า ศูนย์หลอกลวงทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทำให้ผู้คนนับแสนถูกหลอกลวง ถูกกักขัง และถูกละเมิดศักดิ์ศรี สร้างความเสียหายกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมเตือนว่า "ถ้าเรานิ่งเฉย องค์กรอาชญากรรมนี้จะขยายตัวต่อไป"
ผู้แทนรัสเซียลุกขึ้นคัดค้านว่าข้อเสนอไทยไม่สอดคล้องกับข้อบังคับ เพราะได้รับเอกสารเพียง 3-4 ชั่วโมงก่อนประชุม ทั้งที่ควรได้รับก่อน 48 ชั่วโมง และยืนยันว่าคัดค้าน "ขั้นตอน" ไม่ใช่เนื้อหา
อย่างไรก็ตาม ประธานที่ประชุมและเลขาธิการ IPU ชี้แจงว่า คณะกรรมการบริหาร IPU ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าข้อเสนอของไทยเป็นวาระเร่งด่วนที่ชอบด้วยระเบียบ จึงให้ดำเนินการโหวตต่อไป
ด้าน นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนรัฐสภาไทย เปิดเผยข้อมูลน่าสนใจว่า กัมพูชาแสดงท่าทีสนับสนุนไทยในการประชุมนอกรอบกลุ่มอาเซียน+3 และยังเสนอตัวเป็นผู้ร่วมยกร่างหากข้อมติผ่าน แต่เมื่อถึงเวลาลงมติจริง กัมพูชากลับไม่เข้าร่วมประชุมและไม่ยอมลงคะแนน
นายวันมูหะมัดนอร์ วิเคราะห์ว่า กัมพูชาคงไม่อยากให้ข้อมตินี้ผ่าน เพราะถ้าอยากให้ผ่านก็ต้องเข้าร่วมประชุม เมื่อญัตตินี้เข้าสู่เวที IPU จะทำให้กัมพูชาถูกเพ่งเล็งจากหลายประเทศ เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าเป็นแหล่งของขบวนการผิดกฎหมายทั้งสแกมเมอร์และคอลเซ็นเตอร์จำนวนมาก
สส.รังสิมันต์ เสริมว่า "เป็นเรื่องน่าเสียดาย เพราะการทำงานเรื่องสแกมเมอร์จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกประเทศ"
หลังชนะโหวต ขั้นตอนต่อไปคือการตั้งคณะกรรมาธิการยกร่าง 11 ประเทศ โดยไทยได้รับเลือกเป็นหนึ่งในนั้น เพื่อพัฒนาร่างข้อมติให้สมบูรณ์และนำเสนอต่อที่ประชุมใหญ่ IPU ในวันสุดท้าย
เมื่อได้รับการรับรอง ข้อมติจะถูกส่งต่อไปยังรัฐสภาและองค์กรที่เกี่ยวข้องทั่วโลกเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติจริง
ประธานวันนอร์ กล่าวว่า ประเทศไทยไม่ได้ทำงานให้ตัวเองเท่านั้น แต่ทำงานให้ประชาคมโลก เพราะภัยสแกมเมอร์ทำลายชีวิตผู้คนหลายหมื่นชีวิต มีผู้ถูกจับขัง บังคับใช้แรงงาน และถูกทรมาน สูญเสียทรัพย์สินเป็นแสนล้านบาท
สส.รังสิมันต์ เผยว่า ทีมไทยตั้งเป้าหมายไว้ว่าถ้าได้ประมาณ 700 คะแนนก็ถือว่าประสบความสำเร็จมากแล้ว แต่ผลที่ออกมาได้ถึง 850 คะแนน เกินความคาดหมายอย่างมาก
"นี่คือครั้งแรกที่ไทยเสนอร่างข้อมติเป็นวาระเร่งด่วนและประสบความสำเร็จ ถือเป็นการบันทึกหน้าประวัติศาสตร์ และพิสูจน์ให้เห็นว่าแม้ไทยจะไม่ใช่ประเทศใหญ่ แต่เมื่อยกประเด็นที่เป็นภัยของมวลมนุษยชาติ ก็ได้รับการตอบรับจากชาติต่างๆ ทั่วโลก" สส.รังสิมันต์ กล่าวทิ้งท้าย พร้อมขอบคุณประธานวันนอร์ และทีมเจ้าหน้าที่รัฐสภาทุกคนที่ทำงานหนักจนดึกดื่นทุกคืนจนประสบความสำเร็จ
ร่างข้อมตินี้จะเป็นกรอบให้รัฐสภาทั่วโลกร่วมมือกันสร้างกฎหมายและมาตรการปฏิบัติเพื่อต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติที่กำลังคุกคามความมั่นคงและความปลอดภัยของประชาชนทั่วโลก