svasdssvasds

สหรัฐยึดบิตคอยน์ 4.9 แสนล้าน กลุ่มธุรกิจกัมพูชาเอี่ยวสแกมเมอร์

สหรัฐยึดบิตคอยน์ 4.9 แสนล้าน กลุ่มธุรกิจกัมพูชาเอี่ยวสแกมเมอร์

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ประกาศการยึดบิตคอยน์ครั้งประวัติศาสตร์ มูลค่าสูงถึง 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเครือข่ายฉ้อโกงทางไซเบอร์ข้ามชาติ ที่เรียกกันว่า "Pig Butchering"

SHORT CUT

  • กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ประกาศยึดบิตคอยน์มูลค่ากว่า 4.9 แสนล้านบาท ที่เชื่อมโยงกับขบวนการฉ้อโกงออนไลน์ข้ามชาติ
  • ขบวนการดังกล่าวมีนายเฉิน จื้อ ประธานกลุ่ม Prince Holding Group ในกัมพูชาเป็นผู้นำ ซึ่งถูกตั้งข้อหาฉ้อโกง ฟอกเงิน และติดสินบน
  • เครือข่ายนี้ใช้กลโกงแบบ “Pig Butchering” และมีการบังคับใช้แรงงานในกัมพูชาเพื่อหลอกลวงเหยื่อให้ลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี
  • กลุ่ม Prince Group ถูกสหรัฐฯ ประกาศให้เป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และนายเฉินถูกคว่ำบาตรโดยสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ประกาศการยึดบิตคอยน์ครั้งประวัติศาสตร์ มูลค่าสูงถึง 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเครือข่ายฉ้อโกงทางไซเบอร์ข้ามชาติ ที่เรียกกันว่า "Pig Butchering"

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ประกาศการยึดบิตคอยน์มูลค่าสูงถึง 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 490,500 ล้านบาท จากขบวนการฉ้อโกงทางไซเบอร์ข้ามชาติรูปแบบ “Pig Butchering” ซึ่งมีการบังคับใช้แรงงานในประเทศกัมพูชา โดยขบวนการดังกล่าวนำโดยนายเฉิน “วินเซนต์” จื้อ (Chen “Vincent” Zhi) นักธุรกิจเชื้อสายจีนวัย 38 ปี ผู้ก่อตั้งและประธานกลุ่มบริษัท Prince Holding Group

วานนี้ (14 ต.ค.) อัยการรัฐบาลกลางในเขตบรูกลิน สหรัฐฯ ได้ตั้งข้อหานายเฉินในความผิดฐานฉ้อโกงออนไลน์ (wire fraud), สมรู้ร่วมคิดในการฟอกเงิน และการติดสินบน ซึ่งเกี่ยวพันกับกิจกรรมทางอาญามาอย่างต่อเนื่องนานกว่าทศวรรษ

จากคำฟ้องและคำร้องขอยึดทรัพย์ ระบุว่า นายเฉินเป็นผู้ควบคุม “ฟาร์มโทรศัพท์” ในประเทศกัมพูชา ซึ่งมีการลักลอบนำแรงงานข้ามชาติเข้ามาทำงานในลักษณะบังคับ โดยถูกบีบบังคับให้ดำเนินการหลอกลวงทางออนไลน์ในรูปแบบ “Pig Butchering” ซึ่งเป็นศัพท์ที่ใช้เรียกกลโกงที่ล่อลวงเหยื่อให้ “อ้วนขึ้น” ด้วยความเชื่อใจ เช่น ผ่านความสัมพันธ์หลอกลวง การขอความช่วยเหลือทางการเงิน หรือการชักชวนให้ลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี ก่อนจะหลอกเอาเงินไปในที่สุด

ขบวนการดังกล่าวใช้เงินที่ได้จากการหลอกลวงไปซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย เช่น เรือยอชต์ เครื่องบินเจ็ต นาฬิกาหรู และผลงานศิลปะ รวมถึงภาพวาดของปิกัสโซที่ถูกซื้อจากนิวยอร์ก นอกจากนี้ ยังมีการซื้ออสังหาริมทรัพย์หรูในต่างประเทศ เช่น คฤหาสน์ในลอนดอนมูลค่า 16 ล้านดอลลาร์ และอาคารสำนักงานใจกลางเขตการเงินของลอนดอนมูลค่ากว่า 126 ล้านดอลลาร์ ซึ่งขณะนี้ถูกอายัดไว้แล้ว

 

กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้ออกประกาศให้กลุ่ม Prince Group เป็น “องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ” และประกาศมาตรการคว่ำบาตรต่อนายเฉินและผู้ร่วมขบวนการ ขณะเดียวกัน รัฐบาลสหราชอาณาจักรเปิดเผยว่าจะดำเนินการคว่ำบาตรนายเฉินเช่นกัน

ในเอกสารของศาลยังระบุว่า นายเฉินสามารถโน้มน้าวเหยื่อให้โอนเงินผ่านคริปโตเคอร์เรนซี โดยแสร้งสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจผ่านช่องทางออนไลน์ จากนั้นเงินดังกล่าวจะถูกขโมยและนำไปฟอกผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การพนันและธุรกิจเหมืองแร่

มีรายงานว่าขณะหนึ่ง บริษัทของเฉินสามารถสร้างรายได้สูงถึงวันละ 30 ล้านดอลลาร์ โดยมีการดำเนินการในคอมเพล็กซ์ปิดล้อมที่มีรั้วสูงและลวดหนาม พร้อมข่มขู่แรงงานด้วยความรุนแรงและการทรมาน ทั้งนี้ ทาง DOJ ระบุว่านายเฉินมีหลักฐานภาพถ่ายเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกายและทรมานแรงงานที่ถูกบังคับให้ปฏิบัติการฉ้อโกงเหล่านี้

เหยื่อจำนวนมากถูกติดต่อผ่านแอปพลิเคชันส่งข้อความหรือโซเชียลมีเดีย โดยมีการชักชวนให้ลงทุนในโครงการที่ให้ผลตอบแทนสูง แต่ทั้งหมดเป็นเพียงฉากบังหน้าในการหลอกลวง

บิตคอยน์จำนวนประมาณ 127,271 เหรียญ ซึ่งอยู่ในกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ไม่ได้อยู่ในความดูแลของแพลตฟอร์ม (unhosted wallets) และอยู่ภายใต้การควบคุมของเฉิน ถูกยึดเข้าสู่ความครอบครองของทางการสหรัฐฯ แล้ว

กระทรวงยุติธรรมยังระบุด้วยว่า มีผู้ร่วมขบวนการของกลุ่ม Prince ที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาหมายเลขโทรศัพท์และรหัสผ่านบัญชีจำนวนหลายล้านรายการจากตลาดมืดออนไลน์ เพื่อใช้ในการดำเนินการฉ้อโกง

นอกจากนี้ นายเฉินและผู้บริหารของเขายังถูกกล่าวหาว่าได้ติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างประเทศ และใช้อิทธิพลทางการเมืองเพื่อปกป้องขบวนการนี้ รวมถึงโอ้อวดถึงผลกำไรที่ได้จาก “เงินที่ถูกขโมย” โดยไม่มีต้นทุน

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ย้ำว่าการดำเนินคดีในครั้งนี้เป็นความพยายามในการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ระดับโลกที่แฝงตัวอยู่ภายใต้ธุรกิจถูกกฎหมาย และใช้เทคโนโลยีในการแสวงหาประโยชน์จากผู้บริสุทธิ์ทั่วโลก

อ่านรายละเอียดทั้งหมด ที่นี่

ที่มา : Posttoday 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

 

related