SHORT CUT
พาสรุปผลประชุมจีบีล่าสุด! 'กัมพูชา' มีแนวโน้มถอนอาวุธหนักได้ เห็นชอบเก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบไซเบอร์สแกม เร่งติดตามผู้กระทำผิดย้ายข้ามแดน พร้อมระบบแลกเปลี่ยนข้อมูล
ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ประเทศมาเลเซีย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (จีบีซี) สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2 / 2568 ร่วมกับฝ่ายกัมพูชานำโดย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ว่า มีความคืบหน้าเชิงรูปธรรม หลังฝ่ายไทยนำโดย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยัน 4 เงื่อนไขเดิมให้กัมพูชาปฏิบัติร่วมกัน ได้แก่ การถอนอาวุธหนักจากพื้นที่ขัดแย้ง การเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน การปราบปรามขบวนการไซเบอร์สแกม และการจัดระเบียบพื้นที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว โดยที่ประชุมมีมติสอดคล้องและเดินหน้าในรายละเอียดได้จริง
ในประเด็นอาวุธหนัก ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบแผนปฏิบัติการร่วม และลงนามข้อตกลงเพื่อเปิดทางให้อาเซียนส่งคณะผู้สังเกตการณ์ติดตามความคืบหน้าอย่างเป็นขั้นตอน พร้อมกรอบเวลาชัดเจน มุ่งลดความเสี่ยงจากอาวุธทำลายล้างสูงที่อาจกระทบประชาชนในแนวชายแดน
ด้านทุ่นระเบิด ไทยและกัมพูชาจัดทำระเบียบปฏิบัติร่วม (SOP) แล้วเสร็จ ทำให้หน่วยเก็บกู้ของทั้งสองประเทศเริ่มลงพื้นที่ได้ทันที แม้บางจุดยังเป็นเขตที่เห็นต่าง เพื่อสร้างความปลอดภัยให้ประชาชนและทหารที่ปฏิบัติหน้าที่
ส่วนปัญหาไซเบอร์สแกม ทั้งสองฝ่ายจะตั้งกองกำลังเฉพาะกิจระหว่างตำรวจไทย–กัมพูชา เพื่อเร่งติดตามผู้กระทำผิดที่เคลื่อนย้ายข้ามแดน พร้อมระบบแลกเปลี่ยนข้อมูล หลักฐาน และมาตรการคุ้มครองพยาน เพื่อลดเวลาปฏิบัติและเพิ่มประสิทธิภาพการจับกุม
ขณะเดียวกัน ในพื้นที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว ทั้งสองฝ่ายเตรียมร่วมสำรวจแนวหลักเขตที่ 42–47 และปักหมุดชั่วคราวเพื่อยืนยันเส้นอ้างอิงก่อนจัดระเบียบพื้นที่ และเดินหน้าการสร้างรั้วชายแดนในจุดที่มีความชัดเจนตามอธิปไตยของไทย
ไทยย้ำจุดยืนว่า ต้องการเห็นผลลัพธ์เป็นรูปธรรมในทุกประเด็น เพื่อคลายความตึงเครียดและคืนสันติสุขให้พื้นที่ชายแดน เป้าหมายสูงสุดคือความมั่นคงของชาติและความปลอดภัยของประชาชน โดยเดินหน้าความร่วมมือภายใต้ศักดิ์ศรีและอธิปไตยของไทย