svasdssvasds

สรุปจบ ! ก.ล.ต. สั่งปรับ "ต๊อบ เถ้าแก่น้อย" ปมใช้ "ข้อมูลภายใน" ซื้อหุ้น TKN

สรุปจบ ! ก.ล.ต. สั่งปรับ "ต๊อบ เถ้าแก่น้อย"  ปมใช้ "ข้อมูลภายใน" ซื้อหุ้น TKN

สรุปเรื่องราวของเคสเคสเถ้าแก่น้อย! ก.ล.ต. สั่งปรับ "ต๊อบ เถ้าแก่น้อย" พร้อมพวก 5 ราย รวม 16 ล้านบาท ปมใช้ "ข้อมูลภายใน" ซื้อหุ้น TKN

หลังจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เปิดเผยการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับ นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ (ต๊อบ เถ้าแก่น้อย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TKN พร้อมด้วยบุคคลที่เกี่ยวข้องอีก 4 ราย กรณีใช้ข้อมูลภายใน (Insider Trading) ในการซื้อขายหุ้นบริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN

เจาะพฤติการณ์ ใช้ "ข้อมูลภายใน" ซื้อหุ้น TKN 

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลาดหลักทรัพย์ฯ) เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2566 และตรวจสอบเพิ่มเติม พบข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่ทำให้เชื่อได้ว่า ในระหว่างวันที่ 5 สิงหาคม - 9 พฤศจิกายน 2565 บุคคลทั้ง 5 ราย ได้แก่ (1) นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ (2) นายณัชชัชพงศ์ พีระเดชาพันธ์ (3) นางพนิดา วิริยะกิจนุกูล (4) นางสาวฐิติรัตน์ ภานุวัฒน์วนิชย์ และ (5) นายจักรพันธ์ ชาติปรีชา 

บุคคลทั้ง 5 ราย ดังกล่าว ได้กระทำการที่เข้าข่ายเป็นความผิดเกี่ยวกับการซื้อหุ้นโดยอาศัยข้อมูลภายในที่ส่งผลกระทบด้านบวกต่อราคาหุ้น บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN ที่ตนรู้หรือครอบครอง ได้แก่ ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3 ปี 2565 ของ TKN ที่มีกำไรสุทธิจำนวน 179.97 ล้านบาท ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลรอบที่ 2 (รอบพิเศษ) สำหรับผลการดำเนินการของไตรมาสดังกล่าว ในอัตรา 0.08 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่มีสาระสำคัญด้านบวกต่อราคาหุ้น TKN ที่ยังไม่ได้เปิดเผยต่อประชาชนเป็นการทั่วไป 
 

โดยพบว่าภายหลังจากที่นายอิทธิพัทธ์ ซึ่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการบริษัท และนายณัชชัชพงศ์ ซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการ (ฝ่ายสนับสนุนธุรกิจ) ได้รู้หรือครอบครองข้อมูลภายในดังกล่าว นายอิทธิพัทธ์ได้ซื้อหุ้น TKN ผ่านบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของนางพนิดา และนายณัชชัชพงศ์ ได้ซื้อหุ้น TKN ผ่านบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของบุคคล 2 ราย ได้แก่ นางสาวฐิติรัตน์ และนายจักรพันธ์ ก่อนที่ TKN จะเปิดเผยข้อมูลภายในดังกล่าวต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565

การกระทำของนายอิทธิพัทธ์และนายณัชชัชพงศ์ กรณีซื้อหุ้น TKN โดยอาศัยข้อมูลภายในดังกล่าว เป็นความผิดตามมาตรา 242(1) ประกอบมาตรา 243(1) ซึ่งมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 296 และมาตรา 296/2 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535

ส่วนการกระทำของนางพนิดา นางสาวฐิติรัตน์ และนายจักรพันธ์ ที่ยินยอมให้ นายอิทธิพัทธ์ และนายณัชชัชพงศ์

แล้วแต่กรณี ใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์เป็นความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานซื้อหุ้น TKN โดยอาศัยข้อมูลภายในตามมาตรา 242(1) ประกอบมาตรา 315 ซึ่งมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 296 และมาตรา 296/2 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน

คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับผู้กระทำความผิดทั้ง 5 ราย ดังกล่าว โดยกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง ได้แก่ ค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ ชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์ (ห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร) 


ทำไม "อินไซด์" (Insider Trading) จึงเป็นเรื่องใหญ่ในโลกธุรกิจ?

สำหรับคนรุ่นใหม่ที่สนใจโลกการลงทุนและธุรกิจ นี่คือมุมมองเชิงวิเคราะห์ที่คุณต้องทำความเข้าใจ

1. ความโปร่งใส (Transparency) คือหัวใจของตลาดทุน
การที่ผู้บริหารหรือคนวงในใช้ข้อมูลลับที่คนส่วนใหญ่ไม่มีโอกาสรู้ ไปหาผลประโยชน์ส่วนตัวก่อนที่ข้อมูลจะเปิดเผยอย่างเป็นทางการ (เช่น ก่อนรายงานงบการเงินจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ) ถือเป็นการ เอาเปรียบนักลงทุนรายย่อยอย่างร้ายแรง และทำลายความเชื่อมั่นในตลาดทุนอย่างสิ้นเชิง


2. บทบาทของผู้บริหาร "Trustee" ไม่ใช่ "Owner"
แม้ว่าผู้บริหารจะเป็นเจ้าของธุรกิจ แต่เมื่อบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯ สถานะของผู้บริหารจะเปลี่ยนเป็น "ผู้ดูแลผลประโยชน์" (Fiduciary Duty) ของผู้ถือหุ้นทุกคน การนำข้อมูลภายในมาใช้ส่วนตัวจึงถือเป็นการขัดต่อหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Good Corporate Governance) และทำลายความน่าเชื่อถือขององค์กรในระยะยาว
 

3. ผลกระทบที่ไปไกลกว่าแค่ตัวเลข
• ต่อบริษัท: แม้ธุรกิจจะเดินหน้า แต่เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อ ภาพลักษณ์และความเชื่อมั่น ของนักลงทุน ซึ่งอาจส่งผลต่อราคาหุ้นในระยะสั้นและศักยภาพในการระดมทุนในอนาคต
• ต่อตลาดทุนไทย : ทุกคดีของ ก.ล.ต. ตอกย้ำถึงการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวด เพื่อให้ตลาดทุนไทยเป็นพื้นที่ที่ยุติธรรมสำหรับนักลงทุนทุกคน

ถอดบทเรียนสำหรับคนทำธุรกิจคนรุ่นใหม่ (Future Trends & Ethics)

1. จริยธรรมนำหน้ากลยุทธ์
ในยุคที่โลกเชื่อมต่อและโปร่งใสมากขึ้น ความถูกต้องทางจริยธรรม (Ethics) และธรรมาภิบาล (Governance) กลายเป็น "ใบเบิกทาง" สู่การเติบโตอย่างยั่งยืนของทุกองค์กร ข่าวแบบนี้เป็นบทเรียนสำคัญที่ว่า "การมองไกลกว่าเดิม" ไม่ใช่แค่การมองหาเทคโนโลยีใหม่ แต่คือการรักษามาตรฐานทางจริยธรรมสูงสุดด้วย
 

2. รู้กฎหมายเพื่อความยั่งยืน
หากคุณเป็นผู้บริหาร, พนักงาน, หรือแม้แต่นักลงทุนที่เกี่ยวข้องกับบริษัทจดทะเบียน การทำความเข้าใจกฎหมายหลักทรัพย์และข้อกำหนดเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลภายในเป็นเรื่องที่ ห้ามละเลยเด็ดขาด

3. บัญชีไม่ใช่แค่ชื่อ
การใช้บัญชีของบุคคลอื่นในการซื้อขายหุ้นโดยมีเจตนาหลีกเลี่ยงกฎหมาย ก็ถือเป็นการกระทำความผิดและเป็นผู้สนับสนุนเช่นกัน

เถ้าแก่น้อย แจง ‘ต๊อบ อิทธิพัทธ์’ ลาออกแล้ว

ล่าสุดบริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) แจ้งว่าบริษัทฯ ได้รับทราบการเผยแพร่ข่าวดังกล่าวของสำนักงาน ก.ล.ต. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว บริษัทฯ อยู่ระหว่างการพิจารณาและรวบรวมข้อเท็จจริงจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย และเพื่อให้เป็นไปตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีต่อไป

อย่างไรก็ดี ในวันที่ 27 ตุลาคม 2568 นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ได้ลาออกจากตำแหน่งกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ แต่อย่างใด บริษัทฯ จะเร่งดำเนินการสรรหาบุคคลที่มีความเหมาะสมเข้าดำรงตำแหน่งแทนที่ตำแหน่งที่ว่างลงทุกตำแหน่ง และบริษัทฯ จะรายงานความคืบหน้าต่อตลาดหลักทรัพย์เพิ่มเติมต่อไป

related