
SHORT CUT
ขณะที่ไทยพูดกันมานานเรื่องการแก้ปัญหาความยากจน มองไปที่จีนแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจีนฉบับที่จะเริ่มใช้ในปีหน้า มีเป้าหมายใหญ่ที่การลดจำนวนคนจนลง
“หลายสิบปีที่ผ่านมา จีนเปลี่ยนแปลงจากประเทศที่ยากจนและล้าหลังขั้นขีดสุด มาเป็นประเทศที่มีรายได้เฉลี่ยต่อหัวมากกว่า 13,000 ดอลลาร์สหรัฐ” นายจาง เจี้ยนเว่ย เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย กล่าวในพิธีเปิดการอบรม “มองจีนยุคใหม่” ครั้งที่ 7 เพื่อถ่ายทอดให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและสังคมของจีนที่มากขึ้นตามลำดับ
ปีหน้าจะเป็นปีเริ่มต้นของแผนพัฒนาเศรษฐกิจจีนฉบับที่ 15 (2569-2573) แผน 5 ปีจากนี้จะขับเคลื่อนการเติบโตของประเทศจีนทั้งในแง่ของตัวเลข GDP และ การปลดล็อกประชาชนให้หลุดพ้นจากความยากจนมากขึ้นไปอีก และ สร้างภาพจำของจีนให้กลายเป็นประเทศนวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่
ผศ.ดร.ชาดา เตรียมวิทยา อาจารย์ประจำสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง ให้มุมมองการขับเคลื่อนของมังกรอย่างจีนไว้อย่างน่าสนใจ โดยอาจารย์มองว่า จีนมีตัวชี้วัดครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม
สำหรับการแก้ปัญหาความยากจน ในโอกาสที่ฉลองครบรอบ 100 ปีการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประธานาธิบดี “สีจิ้นผิง” ประกาศไว้ว่า จีนได้สร้างสังคมอยู่ดีกินดีโดยสมบูรณ์ โดยประชากร 1,400 ล้านคน ในจำนวนนี้ 800 ล้านคนได้หลุดพ้นจากความยากจนแล้ว จากการลดช่องว่างระหว่างเมืองกับชนบท และ ยุทธศาสตร์การพัฒนาภูมิภาคตะวันตก
1. ระบุคนจนอย่างแม่นยำ ด้วยการตั้งเป้าให้ประชาชนหลุดพ้นจากความยากจน
2. วางแผนโครงการช่วยเหลือเฉพาะพื้นที่ เพราะแต่ละพื้นที่มีความต้องการแตกต่างกัน
3. ใช้งบประมาณตรงจุด
4. ส่งเจ้าหน้าที่ลงหมู่บ้าน มีการตรวจสอบคนอย่างเข้มงวดตลอดเวลา
5. ใช้มาตรการหลากหลาย โดยดูจากความต้องการของประชาชน เช่น สร้างอาชีพ ให้การศึกษา ให้ที่อยู่อาศัย ให้ค่าอาหารเด็ก
6. ตรวจสอบและประเมินผลอย่างเข้มงวด
จีนมีเป้าหมายไชน่าดรีม 2035 คือ “มั่งคั่งร่วมกันทั้งประเทศ” โดยปี 2030 - 2035 เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจากสังคมพอมีพอกิน สู่ “สังคมมั่งคั่งร่วมกัน” ถึงเวลานั้น จีน จะเป็นประเทศนวัตกรรมระดับแนวหน้า เน้นคุณภาพชีวิตมนุษย์เป็นศูนย์กลาง แผนยุทธศาสตร์ระดับชาติมีเจตนารมณ์หลัก คือ สุขภาพของประชาชน เป็นพื้นฐานของการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจีนฉบับที่ 15 จึงถือเป็นจุดเปลี่ยนเชิงประวัติศาสตร์ เพราะเป็นการประกาศว่าจีน จะเดินหน้าสู่เศรษฐกิจนวัตกรรมคุณภาพสูง เน้นความมั่นคงทางเทคโนโลยี ความเท่าเทียม และการเติบโตอย่างยั่งยืน หมายถึงว่า ในอนาคตจีนจะมีรายได้จากอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เติบโตจากนวัตกรรม Green Energy และ Digital Economy AI
มาถึงตรงนี้ ถ้าถามว่าการที่ประเทศมหาอำนาจอย่างจีน กำลังจะเริ่มต้นแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ฉบับใหม่ ไทยได้อะไร ตอบได้ว่า ไทยกำลังจะมีโอกาสใหม่ๆ หากศึกษาจากแผนจะทราบว่า จีนมีเทรนด์แบบไหน มีรสนิยมแบบใด ทำให้เราสามารถปรับตัวให้เป็นที่ต้องการของเขาได้
ในโอกาสที่จีนจะขยายมาอาเซียน ไทยมีโอกาสในการผลิตน้อยลง แต่ผู้บริโภคมีโอกาสซื้อสินค้าถูกลง
ประเด็นสำคัญ คือ “เราต้องทำยังไงให้จีนเป็นโอกาสไม่ใช่ภัยคุกคาม”