svasdssvasds

ตุตันคาเมน แบรนด์ระดับโลก ใน GEM สัญลักษณ์อันดับหนึ่ง ของอียิปต์

ตุตันคาเมน แบรนด์ระดับโลก ใน GEM สัญลักษณ์อันดับหนึ่ง ของอียิปต์

ตุตันคาเมน จาก ฟาโรห์เด็ก สู่แบรนด์ระดับโลก ชม “Wonderful things!” สมบัติกว่า 5,000 ชิ้น ที่จัดแสดงรวมกันครั้งแรก ณ พิพิธภัณฑ์แกรนด์อียิปต์ (GEM)

SHORT CUT

  • ตุตันคาเมนถูกยกให้เป็น "สัญลักษณ์อันดับหนึ่ง" ของอารยธรรมอียิปต์ และเป็น "สินทรัพย์การตลาดทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุด" ในยุคใหม่ เป็นตัวจัดแสดงหลัก ณ พิพิธภัณฑ์แกรนด์อียิปต์ (GEM)
  • GEM ถูกออกแบบให้เป็นเวทีฉายแสงที่ทรงพลังที่สุด โดยเป็นสถานที่แรกที่ สมบัติทั้งหมดกว่า 5,000 ชิ้น ของตุตันคาเมนถูกนำมาจัดแสดงรวมกันอย่างสมบูรณ์ นับตั้งแต่การค้นพบ
  • ความโด่งดังของตุตันคาเมนเริ่มต้นจากการค้นพบสุสานหมายเลข KV62 ที่ "สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยมีมา" ในปี 1922 โดยฮาวเวิร์ด คาร์เตอร์

ตุตันคาเมน จาก ฟาโรห์เด็ก สู่แบรนด์ระดับโลก ชม “Wonderful things!” สมบัติกว่า 5,000 ชิ้น ที่จัดแสดงรวมกันครั้งแรก ณ พิพิธภัณฑ์แกรนด์อียิปต์ (GEM)

ในบรรดาประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่าสามพันปีของอียิปต์โบราณ มีฟาโรห์หลายองค์ที่มีชื่อเสียงจากการสร้างพีระมิดที่ยิ่งใหญ่ หรือการทำศึกที่เกรียงไกร

ตุตันคาเมน แบรนด์ระดับโลก ใน GEM สัญลักษณ์อันดับหนึ่ง ของอียิปต์

 

แต่เหตุใดฟาโรห์ผู้ครองราชย์เพียงระยะสั้น และไม่ได้มีผลงานโดดเด่นอย่าง ตุตันคาเมน (Tutankhamun) จึงกลายเป็นสัญลักษณ์อันดับหนึ่งของอารยธรรมนี้ไปได้ และที่สำคัญยิ่งกว่าคือ เหตุใดสมบัติทั้งหมดของเขาจึงถูกยกให้เป็นดาวเด่นที่ถูกโปรโมท ณ พิพิธภัณฑ์แกรนด์อียิปต์ (GEM) แห่งใหม่ล่าสุดของประเทศ?

ตุตันคาเมน แบรนด์ระดับโลก ใน GEM สัญลักษณ์อันดับหนึ่ง ของอียิปต์

เรื่องราวของตุตันคาเมนไม่ได้จบลงที่ความรู้ทางประวัติศาสตร์ แต่ครอบคลุมไปถึงความลี้ลับที่ทำให้เขากลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลกตลอดข้ามศตวรรษ การค้นพบสุสานของเขาไม่ได้นำมาเพียงทองคำและอัญมณีเท่านั้น แต่ยังนำมาซึ่งตำนานที่โด่งดังและอาถรรพณ์ที่สุดในโลก นั่นคือ คำสาปฟาโรห์ ซึ่งกลายเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนความสนใจของผู้คนทั่วโลกมาจนถึงปัจจุบัน

สำรวจชีวิตอันน่าทึ่งของกษัตริย์ผู้ถูกลืม การค้นพบที่เปลี่ยนโลกเมื่อหนึ่งศตวรรษที่แล้ว และบทบาทของเขาในฐานะสินทรัพย์การตลาดทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอียิปต์ในยุคใหม่ การวิเคราะห์ที่เจาะลึกทั้งด้านประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และการตลาด ทำให้สามารถเข้าใจได้ว่า เพราะเหตุใดตุตันคาเมนจึงเป็นมากกว่าฟาโรห์ แต่เป็นแบรนด์ระดับโลกที่พิพิธภัณฑ์แกรนด์อียิปต์กำลังใช้ในการดึงดูดผู้เข้าชมหลายล้านคน

ตุตันคาเมน แบรนด์ระดับโลก ใน GEM สัญลักษณ์อันดับหนึ่ง ของอียิปต์

"Wonderful things!" ฉากเรียกน้ำตาของนักโบราณคดี

เรื่องราวอันเป็นที่มาของความโด่งดังระดับโลกนี้ต้องย้อนกลับไปในปี 1922 ณ หุบเขากษัตริย์ (Valley of the Kings) สถานที่ฝังศพของฟาโรห์ผู้ยิ่งใหญ่หลายองค์ ที่แห่งนี้ ฮาวเวิร์ด คาร์เตอร์ (Howard Carter) นักโบราณคดีชาวอังกฤษ และผู้อุปถัมภ์ของเขา ลอร์ด คาร์นาร์วอน (Lord Carnarvon) ได้ดำเนินการขุดค้นต่อเนื่องมานานหลายปี ท่ามกลางความสิ้นหวังและความกดดันทางการเงิน

แต่ความพยายามก็เป็นผล ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 1922 หลังจากการทำความสะอาดเศษซากปรักหักพังโบราณ คาร์เตอร์ได้เหยียบบนพื้นผิวที่เป็นขั้นบันไดจมดิน นี่คือจุดเริ่มต้นของการค้นพบสุสานหมายเลข KV62 ที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยมีมา 

การค้นพบขั้นบันไดนี้ถูกตามมาด้วยการขุดค้นอย่างระมัดระวังเป็นเวลาหลายสัปดาห์ จนนำไปสู่การพบประตูที่ถูกผนึกด้วยตราประทับของราชวงศ์ ตุตันคาเมน อย่างไม่บุบสลาย

วินาทีประวัติศาสตร์เกิดขึ้นในบ่ายวันที่ 26 พฤศจิกายน เมื่อคาร์เตอร์เจาะรูเล็กๆ ในบานประตูที่ผนึกนั้น และสอดเทียนไขเข้าไปมองภายในห้องที่ปิดผนึกมานานกว่า 3,000 ปี ในบรรยากาศแห่งความเงียบสงัดและความตื่นเต้นที่อัดแน่น ลอร์ด คาร์นาร์วอน ได้ถามคำถามที่กลายเป็นวลีอมตะว่า "Can you see anything?" (คุณเห็นอะไรไหม?) คาร์เตอร์ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือและเต็มไปด้วยอารมณ์ว่า "Yes, wonderful things!" (ใช่ สิ่งมหัศจรรย์!)

วลีเพียงไม่กี่คำนี้ได้จุดประกายความสนใจของโลก เพราะสุสาน KV62 ไม่ได้เป็นเพียงห้องเก็บศพ แต่เป็น "แคปซูลเวลา" ที่บรรจุสมบัติมหาศาลกว่า 5,000 ชิ้น ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากทองคำอันโด่งดัง หีบศพทองคำ หรือเครื่องเรือนที่ประดับประดาอย่างวิจิตรบรรจง การค้นพบนี้ทำให้ชื่อของฟาโรห์ตุตันคาเมนกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง และเปลี่ยนการรับรู้ของสาธารณชนเกี่ยวกับอียิปต์โบราณไปตลอดกาล 

ซึ่งวลี "Wonderful things!" นี้เองที่ถูกรายงานข่าวไปทั่วโลก กลายเป็นเนื้อหาไวรัล (Viral Content) ในยุค 1920s และเป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้เรื่องราวของเขาถูกค้นหาอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน

ถอดรหัส DNA และ CT Scan เบื้องหลังมัมมี่ที่ซ่อนเร้น

ฟาโรห์องค์นี้ทรงเป็นบุตรชายของฟาโรห์อาเคนาเตน (Akhenaten) และทรงขึ้นครองราชย์ในวัยเยาว์ราว 9 ปี ภายหลังการล่มสลายของการบูชาเทพอาเตน (Atenism) โดยพระองค์ได้เปลี่ยนพระนามจากตุตันคาเตน (Tutankhaten) กลับไปนับถือเทพอาเมน (Amen) ซึ่งเป็นการฟื้นฟูความเชื่อดั้งเดิมของอียิปต์

แม้ว่าพระองค์จะครองราชย์ไม่นาน และสวรรคตในวัยเพียง 18-19 ปี แต่ปริศนาการตายของพระองค์กลับกลายเป็นหัวข้อที่ถูกถกเถียงและคาดเดามานานนับศตวรรษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทฤษฎีการถูกฆาตกรรม แต่ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ได้เข้ามาท้าทายความเชื่อเดิมๆ เหล่านั้น

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์ได้ใช้เทคโนโลยี CT Scan และการทดสอบ DNA จากกระดูกของมัมมี่ 

ตุตันคาเมน แบรนด์ระดับโลก ใน GEM สัญลักษณ์อันดับหนึ่ง ของอียิปต์

เพื่อพยายามหาความจริงเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิต ข้อมูลที่ได้มามีความละเอียดสูงและให้มุมมองใหม่ต่อชีวิตของฟาโรห์ผู้เยาว์ผู้นี้ การวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่าตุตันคาเมนมีสุขภาพที่เปราะบาง โดยมีหลักฐานของความผิดปกติทางกระดูก (Bone necrosis) ที่เท้า ซึ่งอาจทำให้เขาต้องเดินโดยใช้ไม้เท้ามากกว่า 100 อันที่พบในสุสาน นอกจากนี้ ยังพบร่องรอยของการป่วยเป็นโรคมาลาเรียสายพันธุ์รุนแรง

นักวิจัยสมัยใหม่เชื่อว่าสาเหตุการตายของตุตันคาเมนไม่ได้เกิดจากการถูกฆาตกรรม แต่เกิดจากภาวะแทรกซ้อนที่ซับซ้อนของโรคกระดูกเรื้อรังร่วมกับการติดเชื้อมาลาเรียอย่างรุนแรง สิ่งนี้ยังชี้ให้เห็นถึงผลกระทบจากการแต่งงานในสายเลือด (Inbreeding) ของราชวงศ์อียิปต์ที่นำมาซึ่งปัญหาทางพันธุกรรมมากมาย 

ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์นี้ทำให้เรื่องราวของตุตันคาเมนมีความลึกและมีความเป็นมนุษย์มากขึ้น แทนที่จะเป็นเพียงตำนานอันลี้ลับ

กลยุทธ์การตลาดใช้เรื่องเล่าสร้างเม็ดเงิน และบทบาทตัตันคาเมนในโลกยุคใหม่

หากการค้นพบในปี 1922 เป็นการเปิดตัวแบรนด์ ตุตันคาเมน การเปิดตัว พิพิธภัณฑ์แกรนด์อียิปต์ (GEM) ก็คือการยกระดับการโปรโมทนี้สู่จุดสูงสุดของโลก

เรื่องราวของตุตันคาเมนมีความพิเศษเหนือกว่าการค้นพบทางโบราณคดีทั่วไป เพราะมันมาพร้อมกับองค์ประกอบด้านความลี้ลับที่ไม่มีที่สิ้นสุด นั่นคือตำนาน คำสาปฟาโรห์ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อลอร์ด คาร์นาร์วอน เสียชีวิตลงไม่กี่เดือนหลังจากการเปิดสุสาน 

แม้ว่าในทางวิทยาศาสตร์เรื่องนี้จะอธิบายได้ แต่ในทางสื่อและการตลาด ตำนานนี้ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อชื่อเสียงเลย แต่กลับเป็น ตัวเร่งปฏิกิริยา ชั้นดีที่ช่วยสร้างกระแสความสนใจในวงกว้าง ความลึกลับและความพิศวงนี้ทำให้เรื่องราวของฟาโรห์ถูกพูดถึงและถูกค้นหาอย่างต่อเนื่อง

GEM เวทีระดับโลกของตัวเอก

รัฐบาลอียิปต์ได้ตระหนักถึงพลังอันมหาศาลของแบรนด์นี้มาโดยตลอด พิพิธภัณฑ์แกรนด์อียิปต์ ซึ่งเป็นโครงการมหาศาลที่ถูกออกแบบให้เป็นศูนย์กลางของอารยธรรมอียิปต์โบราณ ถูกวางตำแหน่งให้เป็นสถานที่จัดแสดงสมบัติของ ตุตันคาเมน ทั้งหมดกว่า 5,000 ชิ้นรวมกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การค้นพบ

การตัดสินใจ 'รวมพลัง' ของสมบัติทั้งหมดไว้ในที่เดียว และสร้างอาคารจัดแสดงที่ยิ่งใหญ่และทันสมัยที่สุดในโลกนี้ เป็นกลยุทธ์การตลาดระดับชาติที่ชัดเจน ฟาโรห์ตุตันคาเมนจึงถูกยกให้เป็น "ตัวเอก" ของ GEM อย่างเป็นทางการ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาสัมผัส 'Wonderful things' ที่คาร์เตอร์เคยเห็นด้วยตาตัวเอง

ตุตันคาเมน แบรนด์ระดับโลก ใน GEM สัญลักษณ์อันดับหนึ่ง ของอียิปต์

GEM ไม่ได้เป็นเพียงพิพิธภัณฑ์ แต่เป็นเครื่องมือในการโปรโมททางวัฒนธรรมขนาดใหญ่ ซึ่งคล้ายคลึงกับการใช้ Paid Media

รัฐบาลอียิปต์ใช้สถาปัตยกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด ในการนำเสนอสมบัติที่เก่าแก่ที่สุด สิ่งนี้เป็นการยกระดับประสบการณ์การชมทางประวัติศาสตร์สู่ยุค 5G ทำให้สมบัติของฟาโรห์ตุตันคาเมนเปลี่ยนสถานะจากบุคคลในประวัติศาสตร์ที่ถูกลืมให้กลายเป็นสินทรัพย์ทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอียิปต์ในยุคปัจจุบัน โดยมี GEM เป็นเวทีฉายแสงที่ทรงพลังที่สุด

ตุตันคาเมนคือปรากฏการณ์ที่ไม่ธรรมดา เขาคือฟาโรห์ผู้ครองราชย์สั้นๆ ที่กลับมามีอิทธิพลเหนือกาลเวลา การค้นพบสุสานของเขาไม่ได้เป็นเพียงการพบสมบัติ แต่เป็นการสร้างเรื่องเล่าที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งผสมผสานระหว่างความลี้ลับของ คำสาปฟาโรห์ 

ความตื่นเต้นของการค้นพบที่นำไปสู่วลี "Wonderful things!" 4, และความจริงเชิงวิทยาศาสตร์ที่ถูกถอดรหัสผ่าน DNA

เรื่องราวของเขาตอกย้ำว่า คุณภาพของเนื้อหา ซึ่งรวมถึงความเชี่ยวชาญ (Expertise) ในการนำเสนอข้อเท็จจริงล่าสุด สามารถทำให้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ติดอันดับอมตะและถูกค้นหาได้อย่างยั่งยืน

ในที่สุด ฟาโรห์ตุตันคาเมนก็หาบ้านที่คู่ควรแก่ความยิ่งใหญ่ของเขาได้ที่ พิพิธภัณฑ์แกรนด์อียิปต์ (GEM) ที่ซึ่งสมบัติอันล้ำค่าจะถูกจัดแสดงอย่างสมบูรณ์เป็นครั้งแรก พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างโลกโบราณกับโลกสมัยใหม่ และเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงพลังของการค้นพบทางโบราณคดีที่ยังคงสามารถสร้างแรงบันดาลใจและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้ แม้เวลาจะผ่านไปหลายพันปี

หากผู้อ่านสนใจที่จะสัมผัสความยิ่งใหญ่ของกษัตริย์เด็กผู้โด่งดังนี้ และต้องการเห็น 'สิ่งมหัศจรรย์' ด้วยตาตัวเอง การเดินทางสู่พิพิธภัณฑ์แกรนด์อียิปต์คือจุดหมายที่ตำนานและวิทยาศาสตร์มาบรรจบกันอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด

อ้างอิง

Jazzy / WorldHistory / Autoppt / อียิปต์ /

related